รวบเม็กซิกันว่างงาน เช่ารถไปลักทรัพย์ตามหมู่บ้าน

ตำรวจท่องเที่ยวตามจับ 2 พี่น้องเม็กซิกัน ว่างงาน เช่ารถยนต์จากพัทยาแล้วชิ่งหาย ก่อนนำไปก่อเหตุตระเวนลักทรัพย์ตามหมู่บ้าน ตรวจสอบพบอุปกรณ์งัดแงะ และป้ายทะเบียนปลอม จึงคุมตัวมาสอบสวน เบื้องต้นแจ้งข้อหาร่วมกันลักทรัพย์ รับของโจร และใช้เอกสารราชการปลอม

วันนี้ (14 ม.ค.) เมื่อเวลา 13.00 น. พ.ต.อ.ศราวุธ จินดาคำ ผกก.สน.โคกคราม และ ร.ต.อ.โอสถ ผ่าโผน พงส.(สบ1) สน.โคกคราม ได้รับการประสานงานจาก พ.ต.ท.จักรกริช เสริมบุตร สว.งานสืบสวน กก.1บก.ทท.พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1บก.ทท.ว่า สามารถจับกุมคนร้ายชาวต่างชาติที่ตระเวนก่อเหตุลักทรัพย์ตามหมู่บ้าน ได้ 2 ราย คือ นายเอ็ดการ์ โฟรเรส ซานเซส อายุ 24 ปี และ นายโรโดโฟ ซานเชส เปเรส อายุ 22 ปี สองพี่น้องชาวเม็กซิกัน พร้อมด้วยของกลาง แหวนเพชร ต่างหู สร้อยคอทองคำ รวมมูลค่า 201,546 บาท รถยนต์โตโยต้า ยาริส สีขาว หมายเลขทะเบียน ฎง 1077 กรุงเทพมหานคร และป้ายทะเบียนปลอม ฌฬ1220 กรุงเทพมหานคร 2 แผ่น โดยจับกุมตัวได้ที่หน้าหมู่บ้านอารียา เมทโทร ถนนลาดปลาเค้า แขวงจรเข้บัว เขตลาดพร้าว กทม.

ร.ต.อ.โอสถ เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ บก.ทท.ได้รับการประสานจากเจ้าของบริษัทห้างหุ้น ดี.เอ็ม.คาร์เร้นท์ แอนด์ แท็กซี่ ที่พัทยา จ.ชลบุรี ว่า ได้มีชาวต่างชาติเช่ารถยนต์ไปตั้งแต่เมื่อเดือน ธ.ค.ที่ผ่านมา และไม่ยอมนำรถคันดังกล่าวมาคืน ให้ช่วยติดตามจับกุมให้ จึงหาเบาะแสและสืบสวน จนทราบว่าผู้ต้องหาได้ขับรถไปที่หมู่บ้านแห่งหนึ่ง ในท้องที่ สน.โคกคราม จากนั้นได้นำกำลังมาเฝ้าสังเกตการณ์ กระทั่งผู้ต้องหาขับรถยนต์ออกมาจากหมู่บ้านอารียา จึงแสดงตัวตรวจค้น พบของกลางเป็นทรัพย์สินหลายรายการซุกซ่อนอยู่ในกระเป๋าสะพายสีดำ วางไว้ที่เบาะด้านหลัง นอกจากนี้ ยังพบอุปกรณ์การงัดแงะ เช่น ถุงมือ ชะแลงเหล็ก ค้อนปอนด์ และป้ายทะเบียนรถยนต์ 2 แผ่น ซุกซ่อนอยู่ท้ายกระโปรงรถ จึงควบคุมตัวมาสอบสวน พร้อมกับยึดของกลางไว้ตรวจสอบ

ร.ต.อ.โอสถ กล่าวอีกว่า จากการตรวจสอบพบว่า ผู้ต้องหาได้เข้าไปก่อเหตุลักทรัพย์ภายในบ้านเลขที่ 590/97 หมู่บ้านอารียา เมทโทร แขวงจระเข้บัว เขตลาดพร้าว กทม.ซึ่งเป็นบ้านของ น.ส.จุฑามาศ ชาติพรหม อายุ 40 ปี พนักงานบัญชีบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง โดยวันเกิดเหตุไม่มีใครอยู่บ้าน ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ประสานให้ผู้เสียหายมาชี้ตัวผู้ต้องหา และตรวจสอบของกลางแล้ว เบื้องต้นได้แจ้งข้อหาร่วมกันลักทรัพย์ หรือรับของโจร และปลอมและใช้เอกสารราชการปลอม ก่อนควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดี พร้อมขยายผลว่ามีคนไทยร่วมก่อเหตุด้วยหรือไม่

ทั้งนี้ ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ร่วมกันก่อเหตุลักทรัพย์จริง โดยเดินทางเข้ามาประเทศไทยครั้งแรกเมื่อวันที่ 17 พ.ย.54 ที่ผ่านมา และเดินทางไปพักอยู่ที่ถนนข้าวสาร จากนั้นวันที่ 19 ธ.ค.54 ได้เดินทางไปเที่ยวที่พัทยา จ.ชลบุรี พร้อมกับเช่ารถยนต์เอาไว้ใช้ จากนั้นได้พากันขับรถกลับมาที่ กทม.ในวันที่ 9 ม.ค.55 โดยไม่นำรถไปคืนที่เต็นท์ ก่อนจะวางแผนก่อเหตุลักทรัพย์ เนื่องจากไม่มีเงินและไม่ได้ทำงานอะไร ก่อนลงมือได้ไปจ้างพ่อค้าที่ถนนข้าวสารให้ทำทะเบียนปลอมให้ กระทั่งวันที่ 13 เวลาประมาณ 19.45 น.ก็ขับรถคันที่เช่าจากพัทยาไปที่หมู่บ้านอารียา เพื่อตระเวนลักทรัพย์ โดยปีนเข้าประตูรั้วหน้าบ้านและงัดประตูด้านหลังบ้านเข้าไปรื้อค้นทรัพย์สิน ระหว่างที่กำลังขับออกจากหมู่บ้านเพื่อหลบหนี ก็มาถูกตำรวจตามจับตัวได้เสียก่อน