ตำรวจ ปส.ควบคุมตัว “พ.ต.ปิยะณัฐ เกษจำรัส” ผู้ต้องหาร่วมกันค้ายาบ้าพันล้าน ฝากขังศาลอาญาพร้อมค้านประกัน เกรงว่าจะหลบหนี
วันนี้ (28 ม.ค.) เมื่อเวลา 10.20 น. พ.ต.ท.รัฐพงษ์ ศรีเลอจันทร์ พนักงานสอบสวนกลุ่มงานสอบสวนและตรวจสอบทรัพย์สิน กองบังคับการตำรวจปราบปรามยาเสพติด 3 กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด คุมตัว พ.ต.ปิยะณัฐ เกษจำรัส อายุ 50 ปี สังกัดกรมทหารช่างที่ 3 ค่ายบรมไตรโลกนาถ อ.เมือง จ.พิษณุโลก ผู้ต้องหาในคดีร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน) ไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 มาตรา 4, 7 (1), 15 วรรคสาม (2), 66 วรรคสาม, 102, ประกาศกระทรวงสาธารณสุข พ.ศ. 2539, ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 83 มาขออำนาจศาลอาญาฝากขังครั้งแรกเป็นเวลา 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 28 ม.ค. - 8 ก.พ.นี้
คำร้องฝากขังสรุปว่าเมื่อวันที่ 20 ม.ค.55 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.คลองหลวงรับแจ้งมีเหตุรถยนต์โตโยต้า คัมรี่ ทะเบียน ณบ 7510 กรุงเทพมหานคร ประสบอุบัติเหตุเฉี่ยวชนต้นไม้บริเวณถนนเลียบทางด่วนมอร์เตอร์เวย์ ฝั่งตะวันออก หมู่ 6 ตำบลคลองสี่ อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี ผู้ขับขี่รถหลบหนีไป เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจค้นในรถพบยาไอซ์ น้ำหนักประมาณ 2 กรัม พบเอกสารบัตร กอ.รมน.ของนายนิพนธ์ กันชาติ หรือแดง อายุ 54 ปี และเอกสารที่อยู่ที่รัชดาออคิดคอนโดมิเนียม ห้องเลขที่ 129/275 แขวงและเขตห้วยขวาง กทม. จึงไปตรวจค้นพบ น.ส.จีรารัตน์ อินทรัตน์ พักอยู่ จากการตรวจค้นพบยาไอซ์น้ำหนัก 42.12 กรัม จึงจับกุม น.ส.จีรารัตน์ ส่ง สน.สุทธิสารดำเนินคดี
ต่อมาวันที่ 21 ม.ค.55 เจ้าหน้าที่ตำรวจทำการขยายผลไปตรวจค้นที่บ้านเลขที่ 3 หมู่บ้านสัมมากร-รังสิต (คลอง 2) ซอย 63/1 ถนนรังสิต-นครนายก ตำบลประชาธิปัตย์ อำเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี ซึ่งนายนิพนธ์เป็นผู้เช่าบ้านหลังดังกล่าวไว้ พบยาบ้าจำนวน 3,846,000 เม็ด ราคาประมาณ 769,200,000 บาท และยาไอซ์ชนิดเกล็ดสีขาวหนัก 71 กิโลกรัม ราคา 142,000,000 บาท ต่อมาสามารถจับกุมนายนิพนธ์ได้ผู้ต้องหาให้การซัดทอดว่า พ.ต.ปิยะณัฐ และผู้ต้องหาที่ยังหลบหนีร่วมกันกระทำผิด โดยทำหน้าที่ขับรถไปรับยาบ้า ยาไอซ์ ของกลางไปส่งให้นายนิพนธ์ พนักงานสอบสวนจึงขออนุมัติศาลอาญาออกหมายจับ พ.ต.ปิยะณัฐ ตามหมายจับของศาลอาญาเลขที่ 17/2555 ลงวันที่ 26 ม.ค.55 ต่อมาเจ้าหน้าที่สามารถจับกุม พ.ต.ปิยะณัฐ ได้ที่ค่ายบรมไตรโลกนาถ อ.เมือง จ.พิษณุโลก ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ แต่การสอบสวนยังไม่แล้วเสร็จ ต้องสอบสวนพยานจำนวน 10 ปาก รอผลการตรวจพิสูจน์ยาเสพติดของกลาง รอผลการตรวจสอบลายนิ้วมือ ด้วยความจำเป็นดังกล่าวจึงขอฝากขังไว้มีกำหนด 12 วัน พร้อมคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากเป็นความผิดอาญาร้ายแรง หากผู้ต้องหาได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวอาจหลบหนี
ศาลพิจาณาคำร้องแล้วสอบถามผู้ต้องหาไม่คัดค้าน จึงอนุญาตให้ฝากขัง