ตำรวจตัดสินใจวิสามัญฯ “เอ เหลือก” มือลั่นไกยิงแม่ค้าจตุจักรที่ไม่รู้อีโหน่อีเหน่เสียชีวิต หลังจากหลบไปกบดานย่านบางบัวทอง ตำรวจนำหน่วยอรินทราชไปปิดล้อม ประกาศให้ชาวบ้านออกจากพื้นที่ แต่คนร้ายไหวตัวปีนหลังคาบ้าน พยายามหลบหนี พร้อมชัก 9 มม.ยิงใส่ตำรวจเปิดทางหนี ทว่าตำรวจแม่นกว่า คมกระสุนเจาะเข้าร่างรวม 4 นัด ดับสยองคาหลังคา
วันนี้ (24 ม.ค.) เมื่อเวลา 09.00 น. พ.ต.ท.พันธมิตร จ้างประเสริฐ พนักงานสอบสวน สภ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี รับแจ้งเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจวิสามัญฆาตกรรมคนร้ายเสียชีวิตภายในหมู่บ้านรัตนาธิเบศร์ 13 ต.บางรักพัฒนา อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี จึงพร้อมด้วย พล.ต.ต.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรง ผบก.ภ.จว.นนทบุรี พ.ต.อ.โสภณ พึ่งไชย ผกก.สภ.บางบัวทอง รีบรุดไปตรวจสอบยังที่เกิดเหตุ
ในที่เกิดเหตุพบผู้เสียชีวิตทราบบชื่อนายสมชาย เอี่ยมไพจิต หรือ “เอ เหลือก” นอนเสียชีวิตอยู่บนหลังคาบ้านหลังบ้านเลขที่ 3/269 โดยมีบาดแผลถูกยิงที่สะโพกขวา คาง เอว ศีรษะ รวม 4 นัด ข้างศพพบอาวุธปืนขนาด 9 มม. 1 กระบอก ในตัวพบเงินจำนวน 900 บาท และยาไอซ์จำนวนหนึ่งถุง นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจยังสามารถจับกุมตัวนายณชนก รอดนำพา อายุ 21 ปี พร้อมของกลางยาบ้าจำนวน 30 เม็ด และถุงพลาสติกเปล่าสำหรับบรรจุยาบ้าอีกจำนวนมาก
จากการสอบสวนทราบว่า ก่อนหน้านี้ พ.ต.อ.ไพฑูรย์ มณีอินทร์ ผกก.ต่อต้านการก่อการร้าย หน่วยอรินทราช กองบังคับการสายตรวจปฎิบัติการพิเศษ และเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน บกน.2 และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.บางซื่อ และเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนภูธรจังหวัดนนทบุรี ประมาณ 50 นาย นำกำลังทั้งหมดเข้าทำการปิดล้อมบ้านเลขที่ 2/705 หมู่ 13 ต.บางรักพัฒนา อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี หลังสืบทราบมาว่านายสมชายผู้ต้องหาคนสำคัญที่ก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิงแม่ค้าเสียชีวิตก่อนชิงจักรยานยนต์หลบหนี ในพื้นที่ สน.บางซื่อ มาหลบซ่อนตัวอยู่ในบ้านหลังดังกล่าว
เมื่อกำลังตำรวจไปถึง ปรากฏว่านายสมชายเกิดไหวตัวก่อน ได้หลบหนีด้วยการปีนหน้าต่างชั้น 2 ของบ้าน หลบหนีไปตามหลังคาบ้านที่อยู่ติดกัน พร้อมชักอาวุธปืนพกติดตัวยิงใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปิดล้อมยิงสวนจนเสียชีวิตคาหลังคาบ้าน
ขณะเดียวกัน ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมตัวนายณชนก รอดนำพา พร้อมยาบ้า โดยนายณชนกให้การอ้างว่าไม่รู้จักกับนายสมชายมาก่อน ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 22 มกราคม 55 ได้มีนายแอนเพื่อนสนิทพานายสมชายมาหาที่บ้าน โดยที่ไม่ทราบมาก่อนว่านายสมชายเป็นใคร ไป และไปก่อเหตุอะไรมา เพิ่งมาทราบอีกครั้งก็ตอนที่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจมาทำการปิดล้อมและจับกุมนายสมชาย จนกระทั่งมีการวิสามัญฯ นายสมชายจนเสียชีวิต ส่วนยาบ้าเป็นของนายแอนที่นำมาฝากไว้
เบื้องต้นตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อในคำให้การของนายณชนก จึงควบคุมตัวไปสอบสวนต่อเพื่อขยายผลว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีนี้อย่างไรหรือไม่ต่อไป
ด้าน พล.ต.ท.วินัย ทองสอง ผบช.น. ซึ่งเดินทางไปยังที่เกิดเหตุหลังได้รับรายงานกล่าวว่า ภายหลังสืบทราบว่านายสมชายหลบหนีมากบดานอยู่ในบ้านหลังดังกล่าว จึงส่งหน่วยอรินทราช ตำรวจฝ่ายสืบสวน บก.น.2 และฝ่ายสืบสวน บก.สส.บช.น. และตำรวจท้องที่ กว่า 80 นาย ปิดล้อมพื้นที่ช่วงเช้ามืดที่ผ่านมา และประกาศให้ชาวบ้านออกนอกพื้นที่ ทำให้คนร้ายไหวตัวทันใช้อาวุธปืนยิงต่อสู้เจ้าหน้าที่ และวิ่งหนีไปบนหลังคาบ้านใกล้เคียง ทำให้เจ้าหน้าที่ตัดสินใจวิสามัญฆาตกรรมคนร้าย ทั้งนี้ จากการตรวจสอบสภาพศพพบว่านายสมชายถูกวิสามัญที่ศีรษะ คาง เอว และก้น รวม 4 นัด
“ขอยืนยันว่าเจ้าหน้าที่ไม่ทำเกินกว่าเหตุ แต่เนื่องจากคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงต่อสู้เจ้าหน้าที่ ทำให้ต้องป้องกันตัว” พล.ต.ท.วินัยกล่าว
พล.ต.ท.วินัย กล่าวอีกว่า ทางตำรวจสามารถจับกุมแก๊งนี้ได้ทั้งแก๊ง ซึ่งทั้งหมดเป็นกลุ่มผู้ค้ายาเสพติดรายย่อย โดยนายสมชายเพิ่งจะออกพ้นโทษจากเรือนจำมา จากการตรวจสอบประวัติ ได้มีการใช้อาวุธปืนมาแล้วหลายครั้งทั้งนี้ กลุ่มที่ผู้ต้องหาที่ไปอยู่ด้วยก็มีการพัวพันกับการขายยาเสพติด สว่นผู้ที่นำตัวนายเอไปฝาก ทางตำรวจจะทำการสืบสวนจับกุมต่อไป
วันนี้ (24 ม.ค.) เมื่อเวลา 09.00 น. พ.ต.ท.พันธมิตร จ้างประเสริฐ พนักงานสอบสวน สภ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี รับแจ้งเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจวิสามัญฆาตกรรมคนร้ายเสียชีวิตภายในหมู่บ้านรัตนาธิเบศร์ 13 ต.บางรักพัฒนา อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี จึงพร้อมด้วย พล.ต.ต.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรง ผบก.ภ.จว.นนทบุรี พ.ต.อ.โสภณ พึ่งไชย ผกก.สภ.บางบัวทอง รีบรุดไปตรวจสอบยังที่เกิดเหตุ
ในที่เกิดเหตุพบผู้เสียชีวิตทราบบชื่อนายสมชาย เอี่ยมไพจิต หรือ “เอ เหลือก” นอนเสียชีวิตอยู่บนหลังคาบ้านหลังบ้านเลขที่ 3/269 โดยมีบาดแผลถูกยิงที่สะโพกขวา คาง เอว ศีรษะ รวม 4 นัด ข้างศพพบอาวุธปืนขนาด 9 มม. 1 กระบอก ในตัวพบเงินจำนวน 900 บาท และยาไอซ์จำนวนหนึ่งถุง นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจยังสามารถจับกุมตัวนายณชนก รอดนำพา อายุ 21 ปี พร้อมของกลางยาบ้าจำนวน 30 เม็ด และถุงพลาสติกเปล่าสำหรับบรรจุยาบ้าอีกจำนวนมาก
จากการสอบสวนทราบว่า ก่อนหน้านี้ พ.ต.อ.ไพฑูรย์ มณีอินทร์ ผกก.ต่อต้านการก่อการร้าย หน่วยอรินทราช กองบังคับการสายตรวจปฎิบัติการพิเศษ และเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน บกน.2 และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.บางซื่อ และเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนภูธรจังหวัดนนทบุรี ประมาณ 50 นาย นำกำลังทั้งหมดเข้าทำการปิดล้อมบ้านเลขที่ 2/705 หมู่ 13 ต.บางรักพัฒนา อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี หลังสืบทราบมาว่านายสมชายผู้ต้องหาคนสำคัญที่ก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิงแม่ค้าเสียชีวิตก่อนชิงจักรยานยนต์หลบหนี ในพื้นที่ สน.บางซื่อ มาหลบซ่อนตัวอยู่ในบ้านหลังดังกล่าว
เมื่อกำลังตำรวจไปถึง ปรากฏว่านายสมชายเกิดไหวตัวก่อน ได้หลบหนีด้วยการปีนหน้าต่างชั้น 2 ของบ้าน หลบหนีไปตามหลังคาบ้านที่อยู่ติดกัน พร้อมชักอาวุธปืนพกติดตัวยิงใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปิดล้อมยิงสวนจนเสียชีวิตคาหลังคาบ้าน
ขณะเดียวกัน ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมตัวนายณชนก รอดนำพา พร้อมยาบ้า โดยนายณชนกให้การอ้างว่าไม่รู้จักกับนายสมชายมาก่อน ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 22 มกราคม 55 ได้มีนายแอนเพื่อนสนิทพานายสมชายมาหาที่บ้าน โดยที่ไม่ทราบมาก่อนว่านายสมชายเป็นใคร ไป และไปก่อเหตุอะไรมา เพิ่งมาทราบอีกครั้งก็ตอนที่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจมาทำการปิดล้อมและจับกุมนายสมชาย จนกระทั่งมีการวิสามัญฯ นายสมชายจนเสียชีวิต ส่วนยาบ้าเป็นของนายแอนที่นำมาฝากไว้
เบื้องต้นตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อในคำให้การของนายณชนก จึงควบคุมตัวไปสอบสวนต่อเพื่อขยายผลว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีนี้อย่างไรหรือไม่ต่อไป
ด้าน พล.ต.ท.วินัย ทองสอง ผบช.น. ซึ่งเดินทางไปยังที่เกิดเหตุหลังได้รับรายงานกล่าวว่า ภายหลังสืบทราบว่านายสมชายหลบหนีมากบดานอยู่ในบ้านหลังดังกล่าว จึงส่งหน่วยอรินทราช ตำรวจฝ่ายสืบสวน บก.น.2 และฝ่ายสืบสวน บก.สส.บช.น. และตำรวจท้องที่ กว่า 80 นาย ปิดล้อมพื้นที่ช่วงเช้ามืดที่ผ่านมา และประกาศให้ชาวบ้านออกนอกพื้นที่ ทำให้คนร้ายไหวตัวทันใช้อาวุธปืนยิงต่อสู้เจ้าหน้าที่ และวิ่งหนีไปบนหลังคาบ้านใกล้เคียง ทำให้เจ้าหน้าที่ตัดสินใจวิสามัญฆาตกรรมคนร้าย ทั้งนี้ จากการตรวจสอบสภาพศพพบว่านายสมชายถูกวิสามัญที่ศีรษะ คาง เอว และก้น รวม 4 นัด
“ขอยืนยันว่าเจ้าหน้าที่ไม่ทำเกินกว่าเหตุ แต่เนื่องจากคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงต่อสู้เจ้าหน้าที่ ทำให้ต้องป้องกันตัว” พล.ต.ท.วินัยกล่าว
พล.ต.ท.วินัย กล่าวอีกว่า ทางตำรวจสามารถจับกุมแก๊งนี้ได้ทั้งแก๊ง ซึ่งทั้งหมดเป็นกลุ่มผู้ค้ายาเสพติดรายย่อย โดยนายสมชายเพิ่งจะออกพ้นโทษจากเรือนจำมา จากการตรวจสอบประวัติ ได้มีการใช้อาวุธปืนมาแล้วหลายครั้งทั้งนี้ กลุ่มที่ผู้ต้องหาที่ไปอยู่ด้วยก็มีการพัวพันกับการขายยาเสพติด สว่นผู้ที่นำตัวนายเอไปฝาก ทางตำรวจจะทำการสืบสวนจับกุมต่อไป