ทีมสอบคดี “อาทริส” สั่งสืบสวนนครบาลประสาน ตม.ตรวจสอบการเดินทางเข้าไทยของ “อาทริส” และ “เปาโล” ผู้ต้องหาที่ถูกออกหมายจับเพิ่ม เพื่อเชื่อมโยงพรรคพวกร่วมขบวนการ ขณะที่ บก.ป.กำลังเร่งตรวจว่าทั้ง 2 เกี่ยวข้องกับกลุ่มก่อการร้ายฮิซบอลเลาะห์หรือไม่ พร้อมตรวจเส้นทางการเงิน
วันนี้ (23 ม.ค.) เวลา 09.00 น.ที่กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน (บช.ตชด.) อาคารอาคารจุลละพราหมณ์ ชั้น 5 ห้อง 517 พล.ต.อ.ปานศิริ ประภาวัต รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รองผบ.ตร.) ฐานะหัวหน้าทีมสืบสวนสอบสวนคดี นายอาทริส ฮุสเซน พล.ต.ท.เจตน์ มงคลหัตถี พล.ต.ท.จรัมพร สุระมณี ผู้ช่วย ผบ.ตร พล.ต.ต.อนุชัย เล็กบำรุง รองผบช.น พ.ต.อ.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ ผกก.กองวิเคราะห์ข่าว กก.สส.บชน.พร้อมพนักงานสอบสวนกองปราบปราม และ บช.ภ.7 ร่วมประชุมความคืบหน้าคดีจับกุม นายอาทริส ฮุสเซน ชาวเลบานอน ผู้ต้องหาตาม พ.ร.บ ควบคุมยุทธภัณฑ์โดยครอบครองสารประกอบวัตถุระเบิดผิดกฎหมาย รวมถึงการออกหมายจับ นายเปาโล หรือ ซามิ แซม หรือ เจมมี่ เปาโล อายุ 42 ปี เพื่อนร่วมขบวนการ โดยใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง
พล.ต.อ.ปานศิริ กล่าวว่า พนักงานสอบสวนได้ร่วมกันทำงานหลายส่วน ทั้งกองบัญชาการตำรวจนครบาล ตำรวจสันติบาล ตำรวจภูธรภาค 7 และตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ซึ่งได้ร่วมกันค้นหาความจริงในการเดินทางเข้ามาในประเทศและการจัดซื้อของ ซึ่งจากการสอบพยานบุคคลสามารถยืนยันได้ทั้งหมด พร้อมทั้งเจ้าหน้าที่สามารถตรวจยึดพยานเอกสารและพยานวัตถุของกลางได้จำนวนมาก รวมทั้งจากการสอบสวนนายอาทริสเอง ได้ให้การรับสารภาพทั้งหมด ส่วนจะมีการแจ้งข้อหาเพิ่มเติมหรือไม่นั้น ขณะนี้อยู่ในการสืบสวนโดยผู้เชี่ยวชาญพิเศษจากกลุ่มงานเก็บกู้และตรวจสอบวัตถุระเบิด (อีโอดี) และกองพิสูจน์หลักฐานร่วมกัน ซึ่งเบื้องต้นอาจมีการแจ้งข้อหาครอบครองวัตถุระเบิดเพิ่มเติม แต่ต้องรอผลการตรวจพิสูจน์ก่อน โดยคาดว่าน่าจะรู้ผลภายในสัปดาห์นี้ ซึ่งข้อหาก่อการร้ายนั้นยังไม่สามารถแจ้งได้ เนื่องจากจะต้องมีพยานหลักฐานที่ชัดเจน โดยจะมีการออกหมายจับผู้ต้องหาเพิ่มเติมหรือไม่นั้น ขณะนี้มีแค่ 2 คน คือ นายอาทริส ฮุสเซน และ นายเปาโล เท่านั้น
พล.ต.อ.ปานศิริ กล่าวอีกว่า จากการที่เจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบสารแอมโมเนียมไนเตรต ซึ่งเป็นส่วนผสมของวัตถุระเบิด พบว่า มีการนำเข้ามาจากต่างประเทศ จึงสั่งการให้กองบังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาตำรวจนครบาล (กก.สส.บช.น.) ตรวจสอบการนำเข้า เพราะต้องผ่านกรมศุลกากร หากนำเข้าสารแอมโมเนียมไนเตรตไม่ถูกต้อง ก็จะมีความผิดตาม พ.ร.บ.ศุลกากร ด้วย พร้อมประสานให้สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองไปตรวจสอบในรายละเอียดเกี่ยวกับการเดินทางเข้าประเทศของนายอาทริสและนายเปาโล โดยเฉพาะระหว่างวันที่ 10 ก.ค. ถึง 31 ก.ค.2554 ว่า มีบุคคลใดเกี่ยวข้องบ้าง และเข้ามาในเที่ยวบินเดียวกันด้วยหรือไม่ ซึ่งจากการตรวจสอบ พบว่า การสั่งซื้อสารแอมโนเนียมไนเตรต และปุ๋ยยูเรีย เกิดขึ้นในวันที่ 19 ก.ค.54 ซึ่งเป็นช่วงสำคัญ เนื่องจากของกลางมีจำนวนมากจะต้องตรวจสอบที่มาที่ไปอย่างละเอียดรอบคอบอีกครั้ง
เมื่อถามว่า ผู้ต้องหาทั้งสองเกี่ยวข้องกับกลุ่มก่อการร้ายอิซบอลเลาะห์หรือไม่ พล.ต.อ.ปานศิริ กล่าวว่า ขณะนี้กองบังคับการกองปราบปราม (บก.ป.) กำลังสอบสวนในเรื่องนี้อยู่ โดยจะทำการตรวจสอบในเรื่องเส้นทางการเงินของ นายอาทริส และ นายเปาโล ต่อไป
วันนี้ (23 ม.ค.) เวลา 09.00 น.ที่กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน (บช.ตชด.) อาคารอาคารจุลละพราหมณ์ ชั้น 5 ห้อง 517 พล.ต.อ.ปานศิริ ประภาวัต รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รองผบ.ตร.) ฐานะหัวหน้าทีมสืบสวนสอบสวนคดี นายอาทริส ฮุสเซน พล.ต.ท.เจตน์ มงคลหัตถี พล.ต.ท.จรัมพร สุระมณี ผู้ช่วย ผบ.ตร พล.ต.ต.อนุชัย เล็กบำรุง รองผบช.น พ.ต.อ.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ ผกก.กองวิเคราะห์ข่าว กก.สส.บชน.พร้อมพนักงานสอบสวนกองปราบปราม และ บช.ภ.7 ร่วมประชุมความคืบหน้าคดีจับกุม นายอาทริส ฮุสเซน ชาวเลบานอน ผู้ต้องหาตาม พ.ร.บ ควบคุมยุทธภัณฑ์โดยครอบครองสารประกอบวัตถุระเบิดผิดกฎหมาย รวมถึงการออกหมายจับ นายเปาโล หรือ ซามิ แซม หรือ เจมมี่ เปาโล อายุ 42 ปี เพื่อนร่วมขบวนการ โดยใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง
พล.ต.อ.ปานศิริ กล่าวว่า พนักงานสอบสวนได้ร่วมกันทำงานหลายส่วน ทั้งกองบัญชาการตำรวจนครบาล ตำรวจสันติบาล ตำรวจภูธรภาค 7 และตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ซึ่งได้ร่วมกันค้นหาความจริงในการเดินทางเข้ามาในประเทศและการจัดซื้อของ ซึ่งจากการสอบพยานบุคคลสามารถยืนยันได้ทั้งหมด พร้อมทั้งเจ้าหน้าที่สามารถตรวจยึดพยานเอกสารและพยานวัตถุของกลางได้จำนวนมาก รวมทั้งจากการสอบสวนนายอาทริสเอง ได้ให้การรับสารภาพทั้งหมด ส่วนจะมีการแจ้งข้อหาเพิ่มเติมหรือไม่นั้น ขณะนี้อยู่ในการสืบสวนโดยผู้เชี่ยวชาญพิเศษจากกลุ่มงานเก็บกู้และตรวจสอบวัตถุระเบิด (อีโอดี) และกองพิสูจน์หลักฐานร่วมกัน ซึ่งเบื้องต้นอาจมีการแจ้งข้อหาครอบครองวัตถุระเบิดเพิ่มเติม แต่ต้องรอผลการตรวจพิสูจน์ก่อน โดยคาดว่าน่าจะรู้ผลภายในสัปดาห์นี้ ซึ่งข้อหาก่อการร้ายนั้นยังไม่สามารถแจ้งได้ เนื่องจากจะต้องมีพยานหลักฐานที่ชัดเจน โดยจะมีการออกหมายจับผู้ต้องหาเพิ่มเติมหรือไม่นั้น ขณะนี้มีแค่ 2 คน คือ นายอาทริส ฮุสเซน และ นายเปาโล เท่านั้น
พล.ต.อ.ปานศิริ กล่าวอีกว่า จากการที่เจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบสารแอมโมเนียมไนเตรต ซึ่งเป็นส่วนผสมของวัตถุระเบิด พบว่า มีการนำเข้ามาจากต่างประเทศ จึงสั่งการให้กองบังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาตำรวจนครบาล (กก.สส.บช.น.) ตรวจสอบการนำเข้า เพราะต้องผ่านกรมศุลกากร หากนำเข้าสารแอมโมเนียมไนเตรตไม่ถูกต้อง ก็จะมีความผิดตาม พ.ร.บ.ศุลกากร ด้วย พร้อมประสานให้สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองไปตรวจสอบในรายละเอียดเกี่ยวกับการเดินทางเข้าประเทศของนายอาทริสและนายเปาโล โดยเฉพาะระหว่างวันที่ 10 ก.ค. ถึง 31 ก.ค.2554 ว่า มีบุคคลใดเกี่ยวข้องบ้าง และเข้ามาในเที่ยวบินเดียวกันด้วยหรือไม่ ซึ่งจากการตรวจสอบ พบว่า การสั่งซื้อสารแอมโนเนียมไนเตรต และปุ๋ยยูเรีย เกิดขึ้นในวันที่ 19 ก.ค.54 ซึ่งเป็นช่วงสำคัญ เนื่องจากของกลางมีจำนวนมากจะต้องตรวจสอบที่มาที่ไปอย่างละเอียดรอบคอบอีกครั้ง
เมื่อถามว่า ผู้ต้องหาทั้งสองเกี่ยวข้องกับกลุ่มก่อการร้ายอิซบอลเลาะห์หรือไม่ พล.ต.อ.ปานศิริ กล่าวว่า ขณะนี้กองบังคับการกองปราบปราม (บก.ป.) กำลังสอบสวนในเรื่องนี้อยู่ โดยจะทำการตรวจสอบในเรื่องเส้นทางการเงินของ นายอาทริส และ นายเปาโล ต่อไป
