ตำรวจร่วมกับสมาคมค้าทองคำ ถกหาทางป้องกันมิจฉาชีพหลอกขายทองปลอม ยอมรับมีหลายกลุ่มทำอย่างแยบยลยากต่อการตรวจสอบ พร้อมเร่งสืบหาต้นตอขบวนการค้าทองปลอม เผย ที่ผ่านมา คดีเช่นนี้มีมาก แต่จะยอมความกันระหว่างผู้ค้าและผู้ขายทำให้คดีไม่ถึงที่สุด เนื่องจากมีทนายคอยเจรจาไกล่เกลี่ย โดยตำรวจเตรียมขอข้อมูลจากสภาทนายมาจัดการเรื่องนี้ให้เด็ดขาดต่อไป
วันนี้ (17 ม.ค.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ รองผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ท.วินัย ทองสอง ผบช.น. นายจิตติ ตั้งสิทธิภักดี นายกสมาคมค้าทองคำ และผู้ค้าทองคำ ได้ร่วมประชุมหารือถึงกรณีมิจฉาชีพหลอกขายทองปลอมให้กับร้านค้าทองคำในกรุงเทพฯ และปริมณฑล โดยใช้เวลาประมาณ 1 ชม.
พล.ต.อ.เอก กล่าวว่า การประชุมวันนี้เป็นการรับทราบปัญหาของร้านค้าทอง และช่องทางของกลุ่มมิจฉาชีพที่หาโอกาสนำทองคำปลอมไปจำหน่ายตามร้านค้าทอง ซึ่งแก๊งเหล่านี้มีหลายกลุ่ม โดยมีพฤติกรรมที่แยบยล และยากต่อการตรวจสอบ เช่น อาจนำทองที่เปอร์เซ็นต์ทองไม่ถึง 95 เปอร์เซ็นต์ ไปหลอกขาย ซึ่งในร้านค้าทองในกรุงเทพฯ และปริมณฑล นั้น มีศักยภาพตรวจสอบได้ แต่ร้านค้าทองตามต่างจังหวัดอาจไม่มีศักยภาพเพียงพอ ซึ่งตรงนี้ทางสมาคมร้านค้าทองคำ ต้องการให้ตำรวจยกระดับการสืบสวนปราบปราม แต่ทางตำรวจเองมองว่าเราต้องใช้มาตรการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุ
พล.ต.อ.เอก กล่าวต่อว่า คดีพวกนี้มีจำนวนมาก โดยส่วนใหญ่ผู้ต้องหาจะโดนแจ้งข้อหาฉ้อโกง แต่พบว่าหลังจากนั้นมีการยอมความกันระหว่างผู้ค้าและผู้ขาย ซึ่งทำให้การดำเนินคดีไม่ถึงที่สุด โดยไม่สามารถสืบหาต้นตอขบวนการได้ นอกจากนี้ ตำรวจพบว่ามีทนายกลุ่มหนึ่งคอยเจรจาไกล่เกลี่ยให้มีความยอมความกัน ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจเตรียมขอข้อมูลจากสภาทนายความเพื่อดำเนินการเรื่องนี้แล้ว
