ตำรวจภาค 1 แถลงโชว์จับแก๊งมิจฉาชีพตระเวนลักทรัพย์ตามบ้านเรือนประชาชนประสบภัยน้ำท่วมพื้นที่ปทุมธานี ได้ผู้ต้องหาลักเรือ ขโมยจยย.และวิ่งราวทรัพย์ พร้อมยอมรับก่อเหตุมาแล้วนับไม่ถ้วน
วันนี้ (17 พ.ย.) พล.ต.ต.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 แถลงการจับกุมแก๊งโจรกรรมทรัพย์สินของประชาชนผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่สถานีตำรวจภูธรคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี ได้ผู้ต้องหา 3 ราย ประกอบด้วย นายไกรวรรณ คชทอง อายุ 30 ปี นายบุญยิ่ง คชทอง อายุ 30 ปี และ นายวิระ จันทร์วัน อายุ 30 ปี
ทั้งนี้ สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 15 พ.ย.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรคลองหลวง ได้รับแจ้งว่า บริเวณชุมชนสุขสมบูรณ์ หมู่ 9 ตำบลคลองสอง อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี มีแก๊งมิจฉาชีพออกโจรกรรมทรัพย์สินของผู้ประสบอุทกภัย จึงได้ออกตรวจทางน้ำ ซึ่งเมื่อไปถึงบริเวณกลางซอยสุขสมบูรณ์ พบ นายไกรวรรณ คชทอง พายเรือผ่านมา แสดงท่าทางมีพิรุธ และเมื่อเห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้กระโดดลงน้ำ แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถติดตามจับกุมตัวไว้ได้ ซึ่งจากการสอบสวน นายไกรวรรณ ให้การว่า เรือที่ตนพายมาเป็นเรือที่ นายบุญยิ่ง คชทอง ได้ขโมยมาจากซอยเอราวัณ 13 ตำบลคลองสอง อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี ต่อมาวันที่ 16 พ.ย.สายตรวจทางน้ำ สถานีตำรวจภูธรคลองหลวง ได้ลาดตระเวนไปถึงบริเวณกลางซอยสุขสมบูรณ์ หมู่ 8 ตำบลคลองสอง อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี พบ นายบุญยิ่ง คชทอง อายุ 30 ปี ยืนอยู่บริเวณหน้าบ้านพัก และได้วิ่งหลบหนีเข้าไปในบ้าน เจ้าหน้าที่จึงไล่ติดตามจับกุม ซึ่งเมื่อ นายบุญยิ่ง เห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจไล่ติดตาม ได้ล้วงเหล็กสามเหลี่ยมปลายแหลมที่เหน็บอยู่บริเวณขอบกางเกงจะแทงเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ไล่ติดตาม แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมตัวไว้ได้ อย่างไรก็ตาม ผลการตรวจค้นบ้านพัก นายบุญยิ่ง พบอาวุธปืนไทยประดิษฐ์ (ปืนลูกซองสั้น) จำนวน 1 กระบอก พร้อมกระสุนจำนวน 6 นัด อยู่ภายในห้องนอนของนายบุญยิ่ง
จากการสอบสวน นายบุญยิ่ง ให้การว่า นายวิระ จันทร์วัน อายุ 30 ปี เป็นผู้ร่วมลักทรัพย์กับตนเองด้วย เจ้าหน้าที่จึงได้ติดตามจับกุมนายวิระ ได้บริเวณริมคลองสอง หมู่ที่ 8 ตำบลคลองสอง อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี ขณะกำลังพายเรือบริเวณดังกล่าวแสดงท่าทีมีพิรุธ ให้การรับสารภาพว่าเรือที่ตนเองกำลังใช้อยู่ได้ลักมาจากบริเวณคลองสองก่อนหน้านี้
นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สถานีตำรวจภูธรคลองหลวง ได้จับกุมคดีประทุษร้ายต่อทรัพย์อื่นๆ อีก 4 ราย ประกอบด้วย นายสันติ หรือ เท่ง ชาติชัย ข้อหาลักทรัพย์ หรือรับของโจร พร้อมของกลางรถจักรยานยนต์ยี่ห้อยามาฮ่า รุ่นมีโอ สีขาว หมายเลขทะเบียน ยบต 749 กรุงเทพมหานคร จำนวน 1 คัน, จับกุม นายสมบัติ เพี้ยงแก้ว ข้อหาลักทรัพย์บริเวณที่เกิดอุทกภัย พร้อมด้วยของกลาง เรือเหล็ก สีฟ้า พร้อมเครื่องยนต์ จำนวน 1 ลำ, จับกุมนายอดุลย์ ทองคำ และ น.ส.พลอย นิกรถา ข้อหาวิ่งราวทรัพย์ พร้อมของกลาง สร้อยคอทองคำ จำนวน 1 เส้น
ทั้งนี้ ในพื้นที่สถานีตำรวจภูธรคลองหลวง ในช่วงสถานการณ์อุทกภัย ได้มีกลุ่มมิจฉาชีพออกตระเวนโจรกรรมทรัพย์สินของประชาชนในพื้นที่ จึงได้สืบสวนหาข่าวและติดตามจับกุมกลุ่มมิจฉาชีพดังกล่าว ซึ่งจากการสอบถามกลุ่มผู้ต้องหาแต่ละรายยอมรับว่าได้ก่อเหตุโจรกรรมทรัพย์สินของประชาชนจำนวนหลายสิบครั้ง แต่เนื่องจากภาวะน้ำท่วมจึงไม่สามารถติดตามผู้เสียหายเพื่อมาชี้ยืนยันเพิ่มเติมได้ จึงได้จับกุมผู้ต้องหาเฉพาะที่มีผู้เสียหายมาชี้ยืนยัน ซึ่งหากประชาชนผู้ถูกโจรกรรมทรัพย์สินในพื้นที่สถานีตำรวจภูธรคลองหลวง สงสัยว่า จะถูกกลุ่มมิจฉาชีพดังกล่าวโจรกรรมทรัพย์สินไป สามารถตรวจสอบทรัพย์สินและกลุ่มมิจฉาชีพได้ที่สถานีตำรวจภูธรคลองหลวง หรือติดต่อสอบถามได้ทางหมายเลขโทรศัพท์ 0-2524-0610-3
วันนี้ (17 พ.ย.) พล.ต.ต.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 แถลงการจับกุมแก๊งโจรกรรมทรัพย์สินของประชาชนผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่สถานีตำรวจภูธรคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี ได้ผู้ต้องหา 3 ราย ประกอบด้วย นายไกรวรรณ คชทอง อายุ 30 ปี นายบุญยิ่ง คชทอง อายุ 30 ปี และ นายวิระ จันทร์วัน อายุ 30 ปี
ทั้งนี้ สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 15 พ.ย.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรคลองหลวง ได้รับแจ้งว่า บริเวณชุมชนสุขสมบูรณ์ หมู่ 9 ตำบลคลองสอง อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี มีแก๊งมิจฉาชีพออกโจรกรรมทรัพย์สินของผู้ประสบอุทกภัย จึงได้ออกตรวจทางน้ำ ซึ่งเมื่อไปถึงบริเวณกลางซอยสุขสมบูรณ์ พบ นายไกรวรรณ คชทอง พายเรือผ่านมา แสดงท่าทางมีพิรุธ และเมื่อเห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้กระโดดลงน้ำ แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถติดตามจับกุมตัวไว้ได้ ซึ่งจากการสอบสวน นายไกรวรรณ ให้การว่า เรือที่ตนพายมาเป็นเรือที่ นายบุญยิ่ง คชทอง ได้ขโมยมาจากซอยเอราวัณ 13 ตำบลคลองสอง อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี ต่อมาวันที่ 16 พ.ย.สายตรวจทางน้ำ สถานีตำรวจภูธรคลองหลวง ได้ลาดตระเวนไปถึงบริเวณกลางซอยสุขสมบูรณ์ หมู่ 8 ตำบลคลองสอง อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี พบ นายบุญยิ่ง คชทอง อายุ 30 ปี ยืนอยู่บริเวณหน้าบ้านพัก และได้วิ่งหลบหนีเข้าไปในบ้าน เจ้าหน้าที่จึงไล่ติดตามจับกุม ซึ่งเมื่อ นายบุญยิ่ง เห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจไล่ติดตาม ได้ล้วงเหล็กสามเหลี่ยมปลายแหลมที่เหน็บอยู่บริเวณขอบกางเกงจะแทงเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ไล่ติดตาม แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมตัวไว้ได้ อย่างไรก็ตาม ผลการตรวจค้นบ้านพัก นายบุญยิ่ง พบอาวุธปืนไทยประดิษฐ์ (ปืนลูกซองสั้น) จำนวน 1 กระบอก พร้อมกระสุนจำนวน 6 นัด อยู่ภายในห้องนอนของนายบุญยิ่ง
จากการสอบสวน นายบุญยิ่ง ให้การว่า นายวิระ จันทร์วัน อายุ 30 ปี เป็นผู้ร่วมลักทรัพย์กับตนเองด้วย เจ้าหน้าที่จึงได้ติดตามจับกุมนายวิระ ได้บริเวณริมคลองสอง หมู่ที่ 8 ตำบลคลองสอง อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี ขณะกำลังพายเรือบริเวณดังกล่าวแสดงท่าทีมีพิรุธ ให้การรับสารภาพว่าเรือที่ตนเองกำลังใช้อยู่ได้ลักมาจากบริเวณคลองสองก่อนหน้านี้
นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สถานีตำรวจภูธรคลองหลวง ได้จับกุมคดีประทุษร้ายต่อทรัพย์อื่นๆ อีก 4 ราย ประกอบด้วย นายสันติ หรือ เท่ง ชาติชัย ข้อหาลักทรัพย์ หรือรับของโจร พร้อมของกลางรถจักรยานยนต์ยี่ห้อยามาฮ่า รุ่นมีโอ สีขาว หมายเลขทะเบียน ยบต 749 กรุงเทพมหานคร จำนวน 1 คัน, จับกุม นายสมบัติ เพี้ยงแก้ว ข้อหาลักทรัพย์บริเวณที่เกิดอุทกภัย พร้อมด้วยของกลาง เรือเหล็ก สีฟ้า พร้อมเครื่องยนต์ จำนวน 1 ลำ, จับกุมนายอดุลย์ ทองคำ และ น.ส.พลอย นิกรถา ข้อหาวิ่งราวทรัพย์ พร้อมของกลาง สร้อยคอทองคำ จำนวน 1 เส้น
ทั้งนี้ ในพื้นที่สถานีตำรวจภูธรคลองหลวง ในช่วงสถานการณ์อุทกภัย ได้มีกลุ่มมิจฉาชีพออกตระเวนโจรกรรมทรัพย์สินของประชาชนในพื้นที่ จึงได้สืบสวนหาข่าวและติดตามจับกุมกลุ่มมิจฉาชีพดังกล่าว ซึ่งจากการสอบถามกลุ่มผู้ต้องหาแต่ละรายยอมรับว่าได้ก่อเหตุโจรกรรมทรัพย์สินของประชาชนจำนวนหลายสิบครั้ง แต่เนื่องจากภาวะน้ำท่วมจึงไม่สามารถติดตามผู้เสียหายเพื่อมาชี้ยืนยันเพิ่มเติมได้ จึงได้จับกุมผู้ต้องหาเฉพาะที่มีผู้เสียหายมาชี้ยืนยัน ซึ่งหากประชาชนผู้ถูกโจรกรรมทรัพย์สินในพื้นที่สถานีตำรวจภูธรคลองหลวง สงสัยว่า จะถูกกลุ่มมิจฉาชีพดังกล่าวโจรกรรมทรัพย์สินไป สามารถตรวจสอบทรัพย์สินและกลุ่มมิจฉาชีพได้ที่สถานีตำรวจภูธรคลองหลวง หรือติดต่อสอบถามได้ทางหมายเลขโทรศัพท์ 0-2524-0610-3