ตำรวจปราบปรามการค้ามนุษย์ จับครูใน จ.ศรีสะเกษ พร้อมภรรยา เปิดร้าน “เจ๊หวาน” คาราโอเกะ ลักลอบค้าประเวณีเด็กหญิง สอบสวนผู้ต้องหาทั้งสอง ให้การปฏิเสธ อ้างว่า เป็นเจ้าของร้านคาราโอเกะจริง แต่ไม่ได้มีส่วนรู้เห็นกับการลักลอบค้าประเวณี
วันนี้ (17 ม.ค.) เวลา 10.30 น.ที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับการค้ามนุษย์ (บก.ปคม.)พล.ต.ต.ชวลิต แสวงพืชน์ รักษาการ ผบก.ปคม. พ.ต.อ.ประเสริฐ พัฒนาดี รองผบก.ปคม. พ.ต.อ.ธวัชชัย ธาระรูป ผกก.3 บก.ปคม. พ.ต.ท.สุนทร วงศ์มณี สว.กก.3 บก.ปคม.และ ร.ต.ท.เสรี ทวีทรัพย์ชวนัล ช่วยราชการ กก.3 บก.ปคม.แถลงข่าวจับกุม นายรุ่งโรจน์ หรือ น้อย นิรมล อายุ 40 ปี อาจารย์โรงเรียนประจำอำเภอแห่งหนึ่ง ใน จ.ศรีสะเกษ และ นางมะลิ บุญขาว อายุ 44 ปี สองสามีภรรยา ตามหมายจับศาลอาญา ที่ 1009 และ 1008/2554 ลงวันที่ 27 มิถุนายน 2554 ข้อหาร่วมกันตั้งแต่ 3 คนขึ้นไปทำการค้ามนุษย์ โดยแสวงหาประโยชน์จากการค้าประเวณี กระทำต่อบุคคลอายุไม่เกิน 15 ปี และกว่า 15 แต่ไม่เกิน 18 ปี ตาม พ.ร.บ.ค้ามนุษย์ และเป็นธุระจัดหา ล่อไป หรือชักพาไปซึ่งบุคคลเพื่อการค้าประเวณี โดยจับกุมได้ที่บ้านพักครูแห่งหนึ่งในพื้นที่ อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ
พล.ต.ต.ชวลิต กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ ผู้ปกครองของ ด.ญ.นิ่ม (นามสมมติ) อายุ 14 ปี นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนแห่งหนึ่งใน จ.ศรีสะเกษ ได้เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน บก.ปคม.ให้ดำเนินคดีกับเจ้าของร้าน “เจ๊หวาน” คาราโอเกะ ตั้งอยู่ที่ ต.หนองฉลอง อ.ขุขันธ์ จ.ศรีสะเกษ หลังจากรับตัว ด.ญ.นิ่ม และ ด.ญ.ไก่ (นามสมมติ) อายุ 14 ปี เพื่อนนักเรียนชั้นเดียวกัน ให้เข้าทำงานเสิร์ฟอาหารที่ร้านดังกล่าว แต่ภายหลังกลับล่อลวงให้ทั้งสองค้าประเวณีกับลูกค้า เหตุเกิดเมื่อเดือนเมษายน 2554 นอกจากนี้ ยังมีประชาชนร้องเรียนมายัง บก.ปคม.ว่ามีการลักลอบค้าประเวณีหญิงสาวที่ร้านคาราโอเกะแห่งนี้ด้วย
พล.ต.ต.ชวลิต กล่าวต่อว่า จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อนเข้าล่อซื้อบริการจากหญิงสาว 3 คน เป็นจำนวนเงินคนละ 1,500 บาท เมื่อมีการจ่ายเงินให้กับนางสายพิณ ธรรมพร อายุ 30 ปี ผู้ดูแลร้านดังกล่าวแล้ว เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวเข้าจับกุม พร้อมกับช่วยเหลือเด็กหญิงผู้เสียหายออกมา จากการสอบสวน นางสายพิณ ให้การซัดทอดว่าเป็นเพียงผู้ดูแลร้านส่วนเจ้าของ คือ นายรุ่งโรจน์ และ นางมะลิ ซึ่งจะเข้ามาที่ร้านนานๆ ครั้ง เจ้าหน้าที่จึงเร่งขยายผล รวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติศาลออกหมายจับผู้ต้องหาทั้งสอง กระทั่งสามารถติดตามจับกุมตัวไว้ได้ในที่สุด
สอบสวนผู้ต้องหาทั้งสอง ให้การปฏิเสธโดยอ้างว่า เป็นเจ้าของร้านคาราโอเกะดังกล่าวจริง แต่ไม่ได้มีส่วนรู้เห็นกับการลักลอบค้าประเวณีหญิงสาวแต่อย่างใดเพราะที่ผ่านมา นางสายพิณ ได้เช่าและดูแลร้านแห่งนี้แทน โดยตนคิดค่าเช่าเดือนละหมื่นกว่าบาท ขณะที่ นายรุ่งโรจน์ ให้การด้วยว่าเป็นครูจริงและไม่เคยคิดจะกระทำการตามที่ถูกกล่าวหา ส่วนเด็กหญิงผู้เสียหายก็ไม่รู้จักกันและไม่ได้เป็นนักเรียนของโรงเรียนที่สังกัดอยู่ ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวนบก.ปคม.ดำเนินคดีต่อไป