พี่ชายและแฟนสาว ของ “ร.ต.อ.” ที่ถูกคนร้ายขับรถชนเสียชีวิต ขณะล่อซื้อยาบ้า เดินทางเข้ารับศพ นำไปประกอบพิธีทางศาสนา ขณะที่แฟนสาวรับยังทำใจไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมเผย ผู้ตายเป็นคนขยันทำงาน และรักงานด้านตำรวจมาก
วันนี้ (12 ม.ค.) เวลา 12.30 น.ที่สถาบันนิติเวชวิทยา รพ.ตำรวจ พ.ต.อ.ไพศาล วงศ์วัชรมงคล ผกก.สน.สุทธิสาร พร้อมด้วย นายอภิสิทธิ์ ดาวเรือง อายุ 33 ปี และ น.ส.จันทิมา บุญแดง อายุ 30 ปี พี่ชายและแฟนสาวของ ร.ต.อ.ทวีศักดิ์ ดาวเรือง รองสว.สส.สน.สุทธิสาร ที่ถูกคนร้ายขับรถพุ่งชนจนเสียชีวิต ขณะปฏิบัติหน้าที่ล้อมจับคนร้ายที่กำลังส่งยาเสพติด ได้เดินทางมารับศพ เพื่อนำประกอบพิธีกรรมทางศาสนาวัดตรีทศเทพ ก่อนนำศพย้ายกลับบ้านเกิดที่ วัดนางเหล้า ต.ชุมพล อ.สทิงพระ จ.สงขลา
นายอภิสิทธิ์ เปิดเผยว่า ทางครอบครัวได้ทราบเรื่องราวทั้งหมดแล้ว ซึ่งทางบ้านมีพี่น้อง 3 คน ตนเป็นคนกลาง ส่วน ร.ต.อ.ทวีศักดิ์ เป็นน้องคนเล็ก ก่อนหน้านี้ น้องชายได้ปฏิบัติหน้าที่ตั้งด่านตรวจปกติ ไม่ค่อยได้มายุ่งเกี่ยวกับเรื่องยาเสพติด ซึ่งน้องชายรักในการเป็นตำรวจมาก ได้โทรศัพท์พูดคุยเกี่ยวกับเรื่องงานให้ฟัง และเคยบอกให้น้องชายระมัดระวังตัวในการทำงาน แต่ไม่คาดคิดว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นกับผู้ตาย
น.ส.จันทิมา กล่าวว่า ร.ต.อ.ทวีศักดิ์ เป็นคนขยันทำงาน รักงานด้านตำรวจมาก ตนมักจะเตือนผู้ตายเสมอว่าให้ระมัดระวังในการปฏิบัติงาน ปกติจะพูดคุยกันทุกวัน และเจอกันครั้งสุดท้ายเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ในวันเกิดเหตุเมื่อช่วงเที่ยงได้โทรศัพท์ไปสอบถามว่ากินข้าวหรือยัง โดยไม่มีลางสังหรณ์อะไรเลย แต่ยังคงทำใจไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ด้าน พ.ต.อ.ไพศาล กล่าวว่า กรณีดังกล่าวในที่ประชุมมีการวางแผนแบ่งหน้าที่ในการจับกุมคนร้าย หลังสืบทราบมาว่ามีการนัดส่งยาเสพติด ในเวลาที่เกิดเหตุ คนร้ายมียาเสพติดซุกซ่อนไว้ และคิดจะหลบหนีการจับกุมของเจ้าหน้าที่ จึงได้กระจายกำลังปิดล้อมหลายจุด ซึ่งการปฏิบัติหน้าที่แต่ละจุด มีความเสี่ยงอยู่แล้วทุกครั้ง แต่การจับกุมคนร้ายของเจ้าหน้าที่มีความระมัดระวัง ทั้งนี้ ยังมีความจำเป็นในการใช้รถ จยย.ติดตามตัวคนร้าย แต่ไม่ใช่นำรถ จยย.ไปปาดหน้ารถ
พ.ต.อ.ไพศาล กล่าวต่อว่า ร.ต.อ.ทวีศักดิ์ มีความตั้งใจในการทำงาน และมีความสามารถในการจับกุมผู้ต้องหา ก่อนหน้านี้ ยังเคยเป็นหัวหน้าชุดจู่โจมและสายตรวจมาประมาณ 1 ปีกว่าแล้ว ก่อนที่จะย้ายมาเป็นชุดสืบสวนได้ประมาณ 2-3 วัน
อย่างไรก็ตาม ผลชันสูตรพลิกศพ ระบุว่า บาดแผลที่ได้เกิดจากการถูกของแข็งกระทบกระแทกอย่างแรง ทำลายอวัยวะภายในที่สำคัญ อีกทั้งยังมีร่องรอยที่ถูกรถชนทั้ง 2 ข้าง อย่างแรง จนกระทั้ง ซี่โครงยุบ ศีรษะไปกระแทกกับพื้นจนกระทั่งกะโหลกศีรษะแตกหลายเสี่ยง สมองช้ำ ฉีกขาด