รวบหญิงสูงวัย แต่งตัวภูมิฐาน แก๊งกรีดกระเป๋าคนเที่ยวชมงาน “บีโอไอแฟร์ 2011” พบหลบหนีหมายจับคดีลักทรัพย์เมื่อ 3 ปีก่อน ค้นห้องพักเจอของกลางกว่า 40 รายการ อ้างมือถือทั้งหมดเป็นของสามีทำอาชีพรับซื้อโทรศัพท์มือ 2 แต่ได้เสียชีวิตไปแล้ว ส่วนกระเป๋าสะพายของผู้หญิงกว่า 10 ใบญาตินำมาให้ เพราะชอบสะสม ขณะที่ตำรวจเร่งตามจับทั้งขบวนการมาดำเนินคดีต่อไป
วันนี้ (9 ม.ค.) เมื่อเวลา 11.00 น.ที่ศูนย์ปฏิบัติการรักษาความปลอดภัย (ศบก.ภ.1 สน.เมืองทองธานี) ภายในอิมแพ็ค เมืองทองธานี จ.นนทบุรี พล.ต.ต.ปิยะ สอนตระกูล รองผบช.ภ.1 พล.ต.ต.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผบก.ภ.จว.นนทบุรี พ.ต.อ.อภิชาติ เรือนทิพย์ รองผบก.ภ.จว.นนทบุรี พ.ต.อ.ธวัชชัย นาคฤทธิ์ ผกก.สภ.ปากเกร็ด พ.ต.ท.โสวัชร์ ไชยสงคราม รองผกก.สว.สส. พ.ต.ต.วิทิต จันทร์เอี่ยม สว.สส.สภ.ปากเกร็ด แถลงการจับกุม นางแตง อ้มเอี่ยม อายุ 60 ปี อยู่บ้านเลขที่ 501/36 ต.คูคต อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี ตามหมายจับศาลจังหวัดนนทบุรีที่ 745/2551 วันที่ 7 ตุลาคม 2551 ในข้อหาลักทรัพย์ พร้อมของกลางเงินสดสกุลต่างๆ โทรศัพท์มือถือ กล้องถ่ายรูป ใบมีดโกนที่ใช้ก่อเหตุ จำนวน 37 รายการ
ทั้งนี้ สืบเนื่องจากตั้งแต่วันที่ 5 ม.ค.ที่ผ่านมา ได้มีการจัดงานแสดงสินค้าบีโอไอแฟร์ 2011 ไทยแลนด์ ภายในอิมแพ็ค เมืองทองธานี และได้มีประชาชนซึ่งเป็นสุภาพสตรีเกือบ 10 รายเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ปากเกร็ด ว่า ได้ถูกคนร้ายกรีดกระเป๋าเอาทรัพย์สินไปขณะมาชมสินค้าภายในงานดังกล่าว ซึ่งหลังรับแจ้งเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนได้วางแผนนำกำลังไปซุ่มดูพฤติกรรมของแก๊งคนร้ายภายในงาน จนเมื่อวันที่ 8 ม.ค.เวลา 15.00 น.ได้มีหญิงสูงวัยลักษณะแต่งตัวดีภูมิฐานเดินอยู่ภายในงานกว่า 2 ชม.โดยไม่ได้ซื้อสินค้าอะไร แต่จะเดินประกบหญิงสาวที่สะพายกระเป๋าไว้ข้างหลังตลอดเวลา ซึ่งลักษณะท่าทางมีพิรุธเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงแสดงตัวขอตรวจค้น แต่ไม่พบสิ่งผิดกฎหมายภายในตัว จึงได้เชิญตัวมาสอบประวัติต่อที่ สภ.ปากเกร็ด
จากการตรวจสอบประวัติหญิงดังกล่าวทราบชื่อต่อมา คือ นางแตง อ้มเอี่ยม ซึ่ง นางแตง มีหมายจับของศาลจังหวัดนนทบุรีในข้อหาลักทรัพย์ปี 2551 และกำลังหลบหนีอยู่ จึงได้ขอหมายค้นจากศาลจังหวัดนนทบุรีเข้าค้นบ้านเลขที่ 501/36 ต.คูคต อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี ซึ่งเป็นบ้านพักของผู้ต้องหา โดยพบของกลางที่ถูกลักทรัพย์มาเกือบ 40 รายการซุกซ่อนอยู่ในบ้าน
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อหาลักทรัพย์ แต่ นางแตง ยังให้การปฏิเสธโดยอ้างว่าของกลางที่ยึดได้นั้นเป็นของสามีที่เสียชีวิตไปแล้ว โดยสามีมีอาชีพรับซื้อโทรศัพท์มือถือมือสอง ซึ่งเมื่อสามีเสียชีวิตลงตนไม่ได้อาชีพดังกล่าวต่อจากสามี ส่วนกระเป๋าสะพายของผู้หญิงกว่า 10 ใบนั้นมีญาตินำมาให้ เพราะตนชอบสะสม แต่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่เชื่อในคำให้การของผู้ต้องหา เนื่องจากสืบสวนทราบว่านางแตงเป็นสมาชิกแก๊งกรีดกระเป๋าที่ออกอาละวาดในพื้นที่ จ.นนทบุรี โดยเฉพาะภายในอิมแพคเมืองทองธานี ซึ่งจะมีการจัดงานบ่อยครั้ง และจะลงมือก่อเหตุกันเป็นทีม โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจจะเร่งสอบสวนขยายผลจับกุมผู้ร่วมแก๊งที่ยังหลบหนีอยู่มาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป