รวบมือปืนรับจ้างอันดับ 1 ของภาค 9 และอันดับที่ 21 ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยมีหมายจับติดตัวถึง 5 คดี ทั้งพัวพันยาเสพติดและฆ่าคนตาย โดยเมื่อ 3 ปีที่แล้วได้สังหาร ส.จ.เกรียง เสียชีวิตในพัทลุง อีกทั้งยิงเหยื่อเสียชีวิตมาแล้วกว่าสิบราย
วันนี้ (7 ม.ค.) เมื่อเวลา 11.00 น. พล.ต.อ.ปานศิริ ประภาวัต รองผบ.ตร. พล.ต.ท.กฤษฏา พันธุ์คงชื่น ผู้ช่วย ผบ.ตร. พล.ต.ต.ปิยะ สอนตระกูล รองผบช. ภาค 1 พ.ต.อ.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ รรท.ผบก.ภ.จว.นนทบุรี แถลงการจับกุม นายกลวัชร หรือฉิม หรือ นก สุขรักษา อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 70 ม.1 ต.บ้านเนิน อ.เชียรใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช มือปืนรับจ้างอันดับ 1 ของภาค 9 และอันดับที่ 21 ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยผู้ต้องหาถูก พ.ต.อ.ปกปภพ บดีพิทักษ์ ผกก.สส.ภ.จว.นนทบุรี พ.ต.ท.สำราญ น้อยทุ่ง รอง ผกก.สส. พ.ต.ท.สมชาย ขำสัจจา สว.สส.ภ.จว.นนทบุรี ร่วมกันจับกุมได้บริเวณทางสาธารณะหน้าบ้านเลขที่ 2/393 หมู่ 1 หมู่บ้านเพิ่มทรัพย์ ซ.บางแค 16 แขวงบางแค เขตบางแค กทม.
พล.ต.อ.ปานศิริ กล่าวว่า ผู้ต้องหารายนี้มีหมายจับของทางเจ้าหน้าที่ตำรวจถึง 5 หมาย คือ 1. หมายจับของศาลจังหวัดพัทลุง เลขที่ จ.281/2551 ลงวันที่ 14 ก.ค.54 คดีฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน 2. หมายจับศาลจังหวัดปากพนัง เลขที่ 74/2552 ลงวันที่ 12 มิ.ย. 52 คดีร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ได้ไว้ในครอบครอง 3. หมายจับของศาลจังหวัดปากพนัง เลขที่ 73/2551 ลงวันที่ 26 มิ.ย.51 คดีร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและไตร่ตรองไว้ก่อน 4. หมายจับศาลจังหวัดทุ่งสง เลขที่ 392/2552 ลงวันที่ 19 ส.ค.52 คดีร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและไตร่ตรองไว้ก่อน 5. หมายจับศาลจังหวัดปากพนัง เลขที่ 97/2552 ลงวันที่ 28 ส.ค. 52 คดีมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในความครอบครองโดยผิดกฎหมาย
สำหรับผู้ต้องหารายนี้มีพฤติการณ์เป็นมือปืนรับจ้างก่อเหตุในพื้นที่รอยต่อระหว่าง จ.พัทลุง กับ จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งทุกครั้งที่ก่อเหตุจะใช้อาวุธสงครามเอ็ม 16 ในการก่อเหตุ จึงทำให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติจัดเป็นมือปืนลำดับที่ 21 และถือเป็นมือปืนลำดับที่ 1 ของตำรวจภูธร ภาค 9 ส่วนคดีที่สำคัญคือคดีที่ผู้ต้องหาก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิง ส.จ.เกรียง เสียชีวิตในจังหวัดพัทลุง เมื่อปี 2551 นอกจากนี้ยังก่อเหตุใช้อาวุธปืนเอ็ม 16 ยิงเหยื่อเสียชีวิตมาแล้วหลายสิบราย อีกทั้งยังพัวพันเกี่ยวกับยาเสพติด เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การปฏิเสธโดยขอให้การในชั้นศาล เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงควบคุมตัวไว้เพื่อให้ตำรวจภูธรพัทลุง และตำรวจภูธรนครศรีธรรมราชรับตัวไปดำเนินคดีต่อไป
วันนี้ (7 ม.ค.) เมื่อเวลา 11.00 น. พล.ต.อ.ปานศิริ ประภาวัต รองผบ.ตร. พล.ต.ท.กฤษฏา พันธุ์คงชื่น ผู้ช่วย ผบ.ตร. พล.ต.ต.ปิยะ สอนตระกูล รองผบช. ภาค 1 พ.ต.อ.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ รรท.ผบก.ภ.จว.นนทบุรี แถลงการจับกุม นายกลวัชร หรือฉิม หรือ นก สุขรักษา อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 70 ม.1 ต.บ้านเนิน อ.เชียรใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช มือปืนรับจ้างอันดับ 1 ของภาค 9 และอันดับที่ 21 ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยผู้ต้องหาถูก พ.ต.อ.ปกปภพ บดีพิทักษ์ ผกก.สส.ภ.จว.นนทบุรี พ.ต.ท.สำราญ น้อยทุ่ง รอง ผกก.สส. พ.ต.ท.สมชาย ขำสัจจา สว.สส.ภ.จว.นนทบุรี ร่วมกันจับกุมได้บริเวณทางสาธารณะหน้าบ้านเลขที่ 2/393 หมู่ 1 หมู่บ้านเพิ่มทรัพย์ ซ.บางแค 16 แขวงบางแค เขตบางแค กทม.
พล.ต.อ.ปานศิริ กล่าวว่า ผู้ต้องหารายนี้มีหมายจับของทางเจ้าหน้าที่ตำรวจถึง 5 หมาย คือ 1. หมายจับของศาลจังหวัดพัทลุง เลขที่ จ.281/2551 ลงวันที่ 14 ก.ค.54 คดีฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน 2. หมายจับศาลจังหวัดปากพนัง เลขที่ 74/2552 ลงวันที่ 12 มิ.ย. 52 คดีร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ได้ไว้ในครอบครอง 3. หมายจับของศาลจังหวัดปากพนัง เลขที่ 73/2551 ลงวันที่ 26 มิ.ย.51 คดีร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและไตร่ตรองไว้ก่อน 4. หมายจับศาลจังหวัดทุ่งสง เลขที่ 392/2552 ลงวันที่ 19 ส.ค.52 คดีร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและไตร่ตรองไว้ก่อน 5. หมายจับศาลจังหวัดปากพนัง เลขที่ 97/2552 ลงวันที่ 28 ส.ค. 52 คดีมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในความครอบครองโดยผิดกฎหมาย
สำหรับผู้ต้องหารายนี้มีพฤติการณ์เป็นมือปืนรับจ้างก่อเหตุในพื้นที่รอยต่อระหว่าง จ.พัทลุง กับ จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งทุกครั้งที่ก่อเหตุจะใช้อาวุธสงครามเอ็ม 16 ในการก่อเหตุ จึงทำให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติจัดเป็นมือปืนลำดับที่ 21 และถือเป็นมือปืนลำดับที่ 1 ของตำรวจภูธร ภาค 9 ส่วนคดีที่สำคัญคือคดีที่ผู้ต้องหาก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิง ส.จ.เกรียง เสียชีวิตในจังหวัดพัทลุง เมื่อปี 2551 นอกจากนี้ยังก่อเหตุใช้อาวุธปืนเอ็ม 16 ยิงเหยื่อเสียชีวิตมาแล้วหลายสิบราย อีกทั้งยังพัวพันเกี่ยวกับยาเสพติด เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การปฏิเสธโดยขอให้การในชั้นศาล เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงควบคุมตัวไว้เพื่อให้ตำรวจภูธรพัทลุง และตำรวจภูธรนครศรีธรรมราชรับตัวไปดำเนินคดีต่อไป