ยะลา - จังหวัดยะลาเร่งขุดลอกคลอง หนอง บึง ในพื้นที่น้ำท่วมซ้ำซาก เตรียมความพร้อมในการป้องกัน และแกไขปัญหาอุทกภัย ผู้ว่าฯสั่ง ทุกหน่วยสำรวจพื้นที่น้ำท่วม และดินโคลนถล่ม
หลังจากที่ทางจังหวัดยะลา ได้มีการประชุม ทุกหน่วยในพื้นที่ ที่มีส่วนเกี่ยวข้องเกี่ยวกับการแก้ปัญหาน้ำท่วม ในการเตรียมความพร้อมในการป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัย และ ดินโคลนถล่ม ประจำปี 2554 และเกี่ยวกับการบริหารจัดการน้ำ โดยมี ชลประทานจังหวัดยะลา เป็นหัวหน้าคณะทำงาน ซึ่งในการประชุม นายกฤษฏา บุญราช ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา ได้สั่งการให้อำเภอ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น สำรวจพื้นที่ แม่น้ำลำคลอง หรือสะพานที่เป็นพื้นที่เสี่ยงจะชำรุด หรือ พังได้ง่ายหากเกิดอุทกภัย และหากจะมีการขยายช่องทาง หรือมีการขุดลอก ก็สามารถที่จะประสานงานกับ องค์การบริหารส่วนจังหวัดยะลา หรือ อบจ. แขวงการทางจังหวัดยะลา ทางหลวงชนบท หรือ ชลประทานจังหวัดยะลา ได้โดยตรง
เนื่องจากหน่วยงานทั้งหมด มีเครื่องจักรกล ที่จะสามารถขุดลอกได้ เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมในการป้องกัน และแก้ไขปัญหาอุทกภัยให้กับประชาชนในพื้นที่ได้เป็นอย่างดี ซึ่งในขณะนี้ก็มีองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ได้ประสานงานกับทาง องค์การบริหารส่วนจังหวัดยะลา เพื่อเข้าไปทำการขุดลอกลำคลอง หนอง บึง จำนวน 3 แห่ง ประกอบด้วย ทำการขุดลอกคูระบายน้ำสาธารณะ บริเวณชุมชนบ้านปีซัด หมู่ที่ 1 ต.ลำใหม่ อ.เมือง จ.ยะลา ประมาณ 1 เมตร ความยาวประมาณ 500 เมตร ขุดลอกคลองระบายน้ำ บริเวณสะพานลำใหม่(คลองบากา) หมู่ที่ 2 ต.ลำใหม่ อ.เมือง จ.ยะลา ความกว้างประมาณ 4 เมตร ความยาวประมาณ 500 เมตร และ จะขุดลอกเพิ่มอีก 500 เมตร ขุดลอกคูระบายน้ำข้างทาง ถนนสายท่าสาป-ลำใหม่ กว้างประมาณ 1-2 เมตร ยาวประมาณ 300 เมตร ในพื้นที่ หมู่ที่ 4 บ้านควน ต.พร่อน อ.เมือง จ.ยะลา
สำหรับในวันนี้ (25 ต.ค.) นายกฤษฏา บุญราช ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา นายเสรี พานิชกุล นายอำเภอเมืองยะลา นายอับดุลอายี สาแม็ง รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดยะลา นายเวโรจน์ สายทองแท้ หัวหน้า สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดยะลา และผู้แทนจากสำนักงานโครงการชลประทานยะลา (สำนักชลประทานที่ 17) เข้าไปตรวจเยี่ยมการ ดำเนินการขุดลอกคลอง ที่บริเวณสะพานข้ามคลองลำดา หมู่ที่ 1 ต.ยุโป อ.เมือง จ.ยะลา ซึ่งเป็นจุดที่มีความเสี่ยงเนื่องจากสะพานดังกล่าว เมื่อเข้าช่วงหน้าฝน และในช่วงน้ำหลาก จะมีน้ำปริมาณน้ำจำนวนมากไหลผ่าน และจะผัดเอาเศษขยะและวัชพืชลอยน้ำต่างๆ ไหลมาขัดปิดกั้นช่องระบายน้ำใต้ท้องสะพานทำให้โครงสร้างของสะพาน และคอสะพานได้รับความเสียหาย ทั้งยังทำให้การไหลระบายน้ำลงสู่แม่น้ำปัตตานี เป็นไปด้วยความล่าช้า ก่อให้เกิดปัญหาน้ำท่วม บริเวณที่อยู่อาศัย และเข้าท่วมพื้นที่เกษตรกรรม ซึ่งในพื้นที่ดังกล่าวประสบปัญหาน้ำท่วมซ้ำซากทุกปี มีชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนเป็นจำนวนมาก
นายกฤษฏา บุญราช ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา กล่าวว่า สำหรับการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมในพื้นที่จังหวัดยะลา นั้น มีการประชุมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อเตรียมความพร้อมมาหลายครั้งแล้ว ได้สั่งการให้อำเภอ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น สำรวจพื้นที่ ที่เคยเกิดน้ำท่วม หรือ มีดินโคลนถล่ม และในพื้นที่ของจังหวัดยะลา ได้รับพระมหากรุณาธิคุณ จากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ให้มีการขุดลอกแก้มลิง ที่บริเวณบ้านท่าสาป 3 แก้ม ตั้งแต่ ปี 2532 ซึ่งในปี 2554 ทางจังหวัดยะลา ได้ร่วมมือกับ สำนักงานโครงการชลประทานยะลา (สำนักชลประทานที่ 17) องค์การบริหารส่วนจังหวัดยะลา แขวงการทางจังหวัดยะลา และทางหลวงชนบท เพื่อแก้ไขปัญหาน้ำท่วมในพื้นที่ ที่ประสบกับปัญหาน้ำท่วมซ้ำซาก
ซึ่งในพื้นที่ของ ต.ยุโป อ.เมือง จ.ยะลา เกิดปัญหาน้ำท่วมซ้ำซากทุกๆ ปี ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนเป็นจำนวนมาก ทางองค์การบริหารส่วนตำบลยุโป จึงได้ให้การสนับสนุนน้ำมันเชื้อเพลิง และนำเครื่องจักรกล ขององค์การบริหารส่วนจังหวัดยะลา เข้าทำการขุดลอกลำคลอง เพื่อเชื่อมต่อกับแก้มลิง ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้ทรงพระราชทานไว้ให้แล้ว จำนวน 3 แก้ม ซึ่งตนเองคิดว่าปัญหาน้ำท่วมในพื้นที่ของ ต.ยุโป ต.ท่าสาป และภายในเขตเทศบาลนครยะลา จะทุเลาเบาบาง ด้วยโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ กับการที่ชาวบ้านในพื้นที่ องค์การบิหารส่วนตำบลยุโป และองค์การบริหารส่วนจังหวัดยะลา มาขยายผล ก็จะสามารถแก้ปัญหาในส่วนนี้ได้เป็นอย่างดี