รวบ “ต๋อง บางบัว” สังหารเสี่ยค้าพลอยย่านบางรักคาเบนซ์สปอร์ต พร้อมเตรียมออกหมายจับพรรคพวกร่วมฆ่าเพิ่ม เจ้าตัวรับสารภาพขัดแย้งกันเรื่องยาเสพติด
วันนี้ (7 ม.ค.) เมื่อเวลา 10.00 น. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.ท.วินัย ทองสอง ผบช.น. พล.ต.ต.สุเมธ เรืองสวัสดิ์ พล.ต.ต.สาโรจน์ พรหมเจริญ และพล.ต.ต.อนุชัย เล็กบำรุง รอง ผบช.น. แถลงการจับกุม นายธนาสิทธิ์ ศรีสมภาร หรือต๋อง อายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่ 349 ซ.ลาดปลาเค้า 42 แขวงจรเข้บัว เขตลาดพร้าว กทม. ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ เลขที่ 546/2554 ลงวันที่ 24 ธ.ค.54 ข้อหาฆ่าผู้อื่นถึงแก่ความตาย และความผิด พ.ร.บ.อาวุธปืน จากกรณีนายฮาหมัด มูฮัมเหม็ด หรือทอมมี่ อายุ 30 ปี นักธุรกิจค้าพลอยย่านบางรัก ถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด .38 เข้าที่ขมับขวา ไหปลาร้าซ้าย ข้อมือขวา รวม 3 นัด เสียชีวิตภายในรถเบนซ์สปอร์ต รุ่น อี 250 ซีจีไอ สีขาว ทะเบียนป้ายแดง ณ-6002 กทม. ขณะรถจอดอยู่ในลานดินริมถนนพระราม 3 ใกล้วัดปริวาส แขวงบางโพงพาง เขตยานนาวา เมื่อวันที่ 23 ธ.ค.ที่ผ่านมา พร้อมของกลางเป็นกระเป๋าสตางค์ยี่ห้อหลุยส์วิตตอง 1 ใบ เงินสด 78,000 บาท สร้อยคอทองคำน้ำหนักประมาณ 3 บาท จำนวน 1 เส้น นาฬิกา 1 เรือน กระสุนปืนขนาด .38 จำนวน 29 นัด สามารถจับกุมได้ที่บ้านเลขที่ 18/8 ถ.ทุ่งสวน ซ.2 ต.ในเมือง อ.เมือง จ.กำแพงเพชร
พล.ต.ท.วินัยเปิดเผยว่า การจับกุมคนร้ายได้ในครั้งนี้เนื่องจากเจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจสอบกล้องวงจรปิดใกล้เคียงจุดดังกล่าวที่บันทึกภาพไว้ได้ พบว่าคนร้ายที่ลงมือสังหารนายทอมมี่ คือนายธนาสิทธิ์ ศรีสมภาร หรือต๋อง บางบัว ซึ่งเป็นเพื่อนกับผู้ตาย โดยภายหลังเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รวบรวมพยานหลักฐาน จนนำไปสู่การออกหมายจับไล่ล่าจับกุมตัวมาดำเนินคดี โดยเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ เลขที่ 546/2554 ลงวันที่ 24 ธ.ค. 54 ข้อหาฆ่าผู้อื่นถึงแก่ความตาย และความผิด พ.ร.บ.อาวุธปืน ซึ่งเป็นผู้ต้องหาที่ก่อเหตุใช้อาวุธปืนขนาด .38 ยิงใส่นายฮาหมัด มูฮัมเหม็ด หรือทอมมี่ นักธุรกิจค้าพลอยและเพื่อนสนิทจนเสียชีวิต
จากการสอบสวนผู้ต้องหารับสารภาพว่า ตนกับคนตายได้นัดออกมาเจอกัน แล้วได้มาอยู่ด้วยกัน 3 วัน โดยวันที่ 2 ตนกับผู้ตายได้ไปรับยาเสพติดมาด้วยกัน ต่อมาในวันที่ 3 ยาไอซ์จำนวน 40 กรัมของตนได้หายไป จึงแน่ใจว่าผู้ตายต้องเป็นคนเอาไปแน่นอน ประกอบกับก่อนหน้านี้ที่ของจะหายไปนั้นเคยมีปัญหากับผู้ตายมาก่อนจึงรู้สึกไม่พอใจ และแน่ใจว่าต้องเป็นผู้ตายแน่ที่เอาของตนไป ส่วนผู้ตายเองก็เสพยาเสพติดกับตนบ่อยๆ ด้วยเช่นกัน พร้อมทั้งยอมรับว่าเป็นคนลงมือสังหารนายทอมมี่และนำทรัพย์สินของผู้ตายไปจริงเนื่องจากมีความขัดแย้งกันเรื่องยาเสพติด
ส่วนอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุได้โยนทิ้งป่าละเมาะข้ามกำแพงวัดก่อนหลบหนีไป โดยการก่อเหตุในครั้งนี้มีเพื่อนที่ร่วมในการก่อเหตุครั้งนี้ ประกอบด้วย นายรติวรรธต์ ศิลปจารย์ หรือบอม ซึ่งเป็นเพื่อนคนที่หาอาวุธปืนให้ และนายอ้วน เป็นผู้ขับขี่จักรยานยนต์นำอาวุธปืนมาส่งให้นายธนาสิทธิ์ที่หน้าร้านอาหารโต๋เต๋ ข้างโรงเรียนยานนาเวศวิทยาคม จากนั้นนายธนาสิทธิ์ได้นั่งซ้อนท้ายจักรยานยนต์ไปยังจุดที่ผู้ตายนั่งอยู่ในรถ ซึ่งเมื่อไปถึงนายธนาสิทธิ์ได้เปิดประตูรถแล้วยิงนายฮาหมัดจำนวน 5 นัดจนเสียชีวิต จากนั้นนายอ้วนได้หลบหนีไป ส่วนนายธนาสิทธิ์ได้ขับรถของผู้ตายไปจอดไว้ที่ดินว่างส่วนบุคคลริมถนนพระราม 3 ใกล้วัดปริวาส และได้หลบหนีมาอยู่ที่ จ.กำแพงเพชร จนมาถูกจับกุมได้ในที่สุด
นอกจากนี้ยังได้มีญาติของผู้ตายมาดูตัวผู้ต้องหา พร้อมกับตะโกนถามผู้ต้องหาว่า “ทำไมต้องฆ่าด้วย” พร้อมกับสีหน้าที่ไม่พอใจเป็นอย่างมาก ส่วนอาวุธปืนที่ใช้ในการก่อเหตุ จากการที่ผู้ต้องหาอ้างว่าได้โยนทิ้งไปแล้วนั้น ขณะนี้ยังไม่พบอาวุธปืนดังกล่าว ส่วนนายรติวรรธ หรือบอม และนายอ้วน ที่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องและยังหลบหนีอยู่นั้น ขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังติดตามตัวเพื่อนำมาสอบสวนและขออนุมัติหมายศาลออกหมายจับในวันพรุ่งนี้ (8 ม.ค.) พร้อมกันนี้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจยังได้นำตัวผู้ต้องหาไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพยังจุดเกิดเหตุต่อไป
วันนี้ (7 ม.ค.) เมื่อเวลา 10.00 น. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.ท.วินัย ทองสอง ผบช.น. พล.ต.ต.สุเมธ เรืองสวัสดิ์ พล.ต.ต.สาโรจน์ พรหมเจริญ และพล.ต.ต.อนุชัย เล็กบำรุง รอง ผบช.น. แถลงการจับกุม นายธนาสิทธิ์ ศรีสมภาร หรือต๋อง อายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่ 349 ซ.ลาดปลาเค้า 42 แขวงจรเข้บัว เขตลาดพร้าว กทม. ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ เลขที่ 546/2554 ลงวันที่ 24 ธ.ค.54 ข้อหาฆ่าผู้อื่นถึงแก่ความตาย และความผิด พ.ร.บ.อาวุธปืน จากกรณีนายฮาหมัด มูฮัมเหม็ด หรือทอมมี่ อายุ 30 ปี นักธุรกิจค้าพลอยย่านบางรัก ถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด .38 เข้าที่ขมับขวา ไหปลาร้าซ้าย ข้อมือขวา รวม 3 นัด เสียชีวิตภายในรถเบนซ์สปอร์ต รุ่น อี 250 ซีจีไอ สีขาว ทะเบียนป้ายแดง ณ-6002 กทม. ขณะรถจอดอยู่ในลานดินริมถนนพระราม 3 ใกล้วัดปริวาส แขวงบางโพงพาง เขตยานนาวา เมื่อวันที่ 23 ธ.ค.ที่ผ่านมา พร้อมของกลางเป็นกระเป๋าสตางค์ยี่ห้อหลุยส์วิตตอง 1 ใบ เงินสด 78,000 บาท สร้อยคอทองคำน้ำหนักประมาณ 3 บาท จำนวน 1 เส้น นาฬิกา 1 เรือน กระสุนปืนขนาด .38 จำนวน 29 นัด สามารถจับกุมได้ที่บ้านเลขที่ 18/8 ถ.ทุ่งสวน ซ.2 ต.ในเมือง อ.เมือง จ.กำแพงเพชร
พล.ต.ท.วินัยเปิดเผยว่า การจับกุมคนร้ายได้ในครั้งนี้เนื่องจากเจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจสอบกล้องวงจรปิดใกล้เคียงจุดดังกล่าวที่บันทึกภาพไว้ได้ พบว่าคนร้ายที่ลงมือสังหารนายทอมมี่ คือนายธนาสิทธิ์ ศรีสมภาร หรือต๋อง บางบัว ซึ่งเป็นเพื่อนกับผู้ตาย โดยภายหลังเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รวบรวมพยานหลักฐาน จนนำไปสู่การออกหมายจับไล่ล่าจับกุมตัวมาดำเนินคดี โดยเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ เลขที่ 546/2554 ลงวันที่ 24 ธ.ค. 54 ข้อหาฆ่าผู้อื่นถึงแก่ความตาย และความผิด พ.ร.บ.อาวุธปืน ซึ่งเป็นผู้ต้องหาที่ก่อเหตุใช้อาวุธปืนขนาด .38 ยิงใส่นายฮาหมัด มูฮัมเหม็ด หรือทอมมี่ นักธุรกิจค้าพลอยและเพื่อนสนิทจนเสียชีวิต
จากการสอบสวนผู้ต้องหารับสารภาพว่า ตนกับคนตายได้นัดออกมาเจอกัน แล้วได้มาอยู่ด้วยกัน 3 วัน โดยวันที่ 2 ตนกับผู้ตายได้ไปรับยาเสพติดมาด้วยกัน ต่อมาในวันที่ 3 ยาไอซ์จำนวน 40 กรัมของตนได้หายไป จึงแน่ใจว่าผู้ตายต้องเป็นคนเอาไปแน่นอน ประกอบกับก่อนหน้านี้ที่ของจะหายไปนั้นเคยมีปัญหากับผู้ตายมาก่อนจึงรู้สึกไม่พอใจ และแน่ใจว่าต้องเป็นผู้ตายแน่ที่เอาของตนไป ส่วนผู้ตายเองก็เสพยาเสพติดกับตนบ่อยๆ ด้วยเช่นกัน พร้อมทั้งยอมรับว่าเป็นคนลงมือสังหารนายทอมมี่และนำทรัพย์สินของผู้ตายไปจริงเนื่องจากมีความขัดแย้งกันเรื่องยาเสพติด
ส่วนอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุได้โยนทิ้งป่าละเมาะข้ามกำแพงวัดก่อนหลบหนีไป โดยการก่อเหตุในครั้งนี้มีเพื่อนที่ร่วมในการก่อเหตุครั้งนี้ ประกอบด้วย นายรติวรรธต์ ศิลปจารย์ หรือบอม ซึ่งเป็นเพื่อนคนที่หาอาวุธปืนให้ และนายอ้วน เป็นผู้ขับขี่จักรยานยนต์นำอาวุธปืนมาส่งให้นายธนาสิทธิ์ที่หน้าร้านอาหารโต๋เต๋ ข้างโรงเรียนยานนาเวศวิทยาคม จากนั้นนายธนาสิทธิ์ได้นั่งซ้อนท้ายจักรยานยนต์ไปยังจุดที่ผู้ตายนั่งอยู่ในรถ ซึ่งเมื่อไปถึงนายธนาสิทธิ์ได้เปิดประตูรถแล้วยิงนายฮาหมัดจำนวน 5 นัดจนเสียชีวิต จากนั้นนายอ้วนได้หลบหนีไป ส่วนนายธนาสิทธิ์ได้ขับรถของผู้ตายไปจอดไว้ที่ดินว่างส่วนบุคคลริมถนนพระราม 3 ใกล้วัดปริวาส และได้หลบหนีมาอยู่ที่ จ.กำแพงเพชร จนมาถูกจับกุมได้ในที่สุด
นอกจากนี้ยังได้มีญาติของผู้ตายมาดูตัวผู้ต้องหา พร้อมกับตะโกนถามผู้ต้องหาว่า “ทำไมต้องฆ่าด้วย” พร้อมกับสีหน้าที่ไม่พอใจเป็นอย่างมาก ส่วนอาวุธปืนที่ใช้ในการก่อเหตุ จากการที่ผู้ต้องหาอ้างว่าได้โยนทิ้งไปแล้วนั้น ขณะนี้ยังไม่พบอาวุธปืนดังกล่าว ส่วนนายรติวรรธ หรือบอม และนายอ้วน ที่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องและยังหลบหนีอยู่นั้น ขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังติดตามตัวเพื่อนำมาสอบสวนและขออนุมัติหมายศาลออกหมายจับในวันพรุ่งนี้ (8 ม.ค.) พร้อมกันนี้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจยังได้นำตัวผู้ต้องหาไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพยังจุดเกิดเหตุต่อไป