xs
xsm
sm
md
lg

ยิงนักธุรกิจค้าเพชรพลอยดับคาเบนซ์ เมียชี้เพื่อนสนิทก่อเหตุ

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

คนร้ายยิงนักธุรกิจค้าเพชรพลอยย่านบางรักเสียชีวิตคารถเบนซ์ป้ายแดง แถมพบยาไอซ์และอุปกรณ์การเสพอยู่ภายในรถ ขณะที่ตำรวจตรวจสอบกล้องวงจรปิดจับภาพคนร้ายก่อเหตุอย่างอุกอาจได้อย่างชัดเจน ขณะที่ภรรยาผู้ตาย ยืนยันภาพมือปืนที่ยิงสามีเสียชีวิตในวงจรปิดคือ “นายต๋อง” เพื่อนสนิทของผู้ตายที่คบกันมานาน โดยตำรวจกำลังเร่งตามจับมาดำเนินคดี

วันนี้ (23 ธ.ค.) เมื่อเวลา 08.00 น. พ.ต.ท.สมพล พันธภิบาล พงส. (สบ 3) สน.บางโพงพาง รับแจ้งเหตุพบศพชายถูกยิงเสียชีวิตภายในรถสปอร์ตที่จอดอยู่ริมถนนพระรามที่ 3 ใกล้กับวัดปริวาส แขวงบางโพงพาง เขตยานนาวา จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบแล้วรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อม พล.ต.ต.อิทธิพล พิริยะภิญโญ พล.ต.ต.อนุชัย เล็กบำรุง รอง ผบช.น. พล.ต.ต.รณศิลป์ ภู่สาระ ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.อิทธิพล อัจริยะประดิษฐ์ รอง ผบก.น.5 พ.ต.อ.กสิณ ศรีธรรมาสุข ผกก.สน.บางโพงพาง พ.ต.ท.ดุสิต วาลีประโคน สว.สส.สน.บางโพงพาง เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน บก.สส.บช.น. และสน.บางโพงพาง เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน แพทย์นิติเวชจากโรงพยาบาลจุฬาฯ และเจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง

ที่เกิดเหตุเป็นที่ดินส่วนบุคคล พบรถเบนซ์สปอร์ต รุ่นอี 250 ซีจีไอ แบบเปิดประทุน สีขาว หลังคาผ้าใบสีแดง ทะเบียนป้ายแดง ณ-6002 กทม. จอดอยู่ลานดินในสภาพกระจกฝั่งซ้ายแตก ภายในรถพบศพนายฮาหมัด มูฮัมเหม็ด หรือทอมมี่ อายุ 30 ปี สภาพศพนั่งอยู่เบาะฝั่งคนขับศีรษะพิงขอบประตู สวมเสื้อยืดสีเทา นุ่งกางเกงขาสามส่วนสีแดง สวมถุงเท้าสีเทา มีผ้าขนหนูลายทางหลากสีคลุมใบหน้า ตามร่างกายพบบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด .38 จำนวน 3 นัดเข้าที่บริเวณขมับขวา 1 นัด ไหปลาร้าซ้าย 1 นัด และข้อมือขวา อีก 1 นัด คาดว่าเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 8-12 ชั่วโมง บริเวณรอบรถยังพบกระสุนขนาด .38 ตกอยู่บริเวณประตูฝั่งคันขับ 1 นัด ส่วนภายในรถพบกระสุนปืนขนาดเดียวจำนวน 2 นัด หัวกระสุน 2 หัว ปลอกกระสุนปืนจำนวน 4 ปลอก นอกจากนี้ยังพบยาเคตามีนชนิดน้ำ 1 ขวด ยาไอซ์ชนิดเกล็ด และยาไฟฟ์-ไฟฟ์อีกจำนวนหนึ่งตกอยู่ในรถ พร้อมอุปกรณ์การเสพ 1 อัน โทรศัพท์มือถือสภาพแตกเสียหาย 1 เครื่อง บริเวณกระโปรงหลังรถยังพบกระสุนปืนขนาด 9 มม.จำนวน 5 กล่อง รวม 250 นัด ใส่อยู่ในถุงพลาสติก เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน

จากการสอบสวนนางกฤษณา ชะบัวรำ อายุ 40 ปี แม่บ้านที่ดูแลพื้นที่ดังกล่าวให้การว่า ลานดินที่เกิดเหตุเป็นพื้นที่ส่วนบุคคลที่เตรียมปรับพื้นที่ เพื่อทำเป็นเต็นท์ขายรถ โดยช่วงค่ำก่อนเกิดเหตุสามีของตนกำลังใช้รถแบ็กโฮทำงาน และมีช่างอีกคนคอยตักเศษอิฐหักไปทิ้ง ส่วนตนอยู่ในห้องพัก ซึ่งเมื่อเวลาประมาณ 22.00 น. เห็นรถคันดังกล่าวขับเข้ามาจอดโดยยังติดเครื่องเปิดไฟไว้ แต่ไม่เข้าไปถามเพราะคิดว่าเป็นรถของญาติเถ้าแก่มาจอดไว้ จึงเข้านอนไปตามปกติ จนประมาณเที่ยงคืนได้ยินเสียงหมาเห่าดังมาก จึงลุกออกมาดูก็ยังเห็นรถคันดังกล่าวจอดอยู่ที่เดิม จนเวลาประมาณ 01.30 น. เห็นชายคนหนึ่งอายุประมาณ 20-30 ปี รูปร่างผอม สูงประมาณ 180 ซม. ผมหยักศก สวมเสื้อยืดคอกลมสีขาว นุ่งกางเกงขาสามส่วน ยืนถือถุงอยู่ที่ประตูทางเข้าลานดิน ก่อนจะออกไป จนกระทั่งรุ่งเช้าก็ยังเห็นรถคันดังกล่าวยังจอดอยู่ที่เดิม จึงเดินเข้าไปดูพบว่าผู้ตายถูกยิงเสียชีวิตแล้ว จึงรีบแจ้งตำรวจมาตรวจสอบ

ต่อมานางแสงระวี มูฮัมเหม็ด อายุ 24 ปี ภรรยาผู้ตาย ได้เดินทางมาดูศพที่เกิดเหตุ โดยเมื่อเห็นศพถึงกับร่ำไห้แทบขาดใจ พร้อมให้การว่า ผู้ตายทำธุรกิจเปิดร้านขายพลอยอยู่ย่านบางรัก โดย 2-3 วันก่อนเกิดเหตุ ตนกับสามีมีปากเสียงกัน จากนั้นสามีออกจากบ้านไป โดยบอกว่าจะไปอยู่บ้านญาติย่านบางนา แต่ยังโทรศัพท์พูดคุยติดต่อกันอยู่ทุกวัน โดยครั้งล่าสุดเมื่อช่วงเย็นวานนี้ (22 ธ.ค.) ตนยังโทรศัพท์ถามสามีว่าจะกลับบ้านหรือยัง ซึ่งสามีบอกว่าจะกลับแล้ว แต่เงียบหายไปจนมาทราบว่าถูกยิงตายเมื่อเช้านี้ (23 ธ.ค.) ส่วนสาเหตุนั้นตนยังไม่ทราบว่ามาจากเรื่องอะไร เพราะสามีไม่ดื่มเหล้า ไม่สูบบุหรี่ ไม่เที่ยว และไม่ค่อยมีเพื่อนมาก แต่ก่อนหน้านี้สามีเคยมีเพื่อนอยู่คนหนึ่งชื่อ “ต๋อง” พักอยู่ย่านบางบัว โดยเจ้าตัวเป็นคนอารมณ์ร้อน เวลาโมโหใครก็ชอบชักปืนยิงเลย แถมยังติดยาไอซ์อีกด้วย ส่วนทรัพย์สินของสามีที่ตนเคยเห็นนั้นมีสร้อยคอทองคำที่เพิ่งซื้อมา นาฬิกาโรเล็กซ์ กระเป๋าสตางค์ที่หายไป

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้ทำการสอบสวนลูกน้องของผู้ตายที่ร้านขายเพชรพลอย ทราบว่า เมื่อวานนี้(22 ธ.ค.) ผู้ตายได้มาชวนลูกน้องไปกินข้าว แต่หลังจากมีโทรศัพท์เข้ามาผู้ตายได้โต้เถียงกับคนที่โทรเข้ามาหาอย่างรุนแรงถึงขั้นด่ากันเป็นภาษาอังกฤษ แล้วรีบขับรถออกไปจากร้านทันที ซึ่งเมื่อทำการตรวจสอบข้อมูลหมายเลข 191 พบว่า เมื่อเวลา 21.40 น.วานนี้ (22 ธ.ค.) มีคนโทรแจ้งว่ามีเหตุยิงกันในรถเบนซ์คันดังกล่าว บริเวณหน้าโรงเรียนยานนาเวศวิทยา ปากซอยสาธุประดิษฐ์ 8 จึงติดต่อไปยังพยานคนดังกล่าว ได้ให้ข้อมูลว่าพบเห็นรถผู้ตายจอดอยู่บริเวณหน้าโรงเรียน จากนั้นเห็นคนร้ายเป็นชายรูปร่างผอมสูงสวมเสื้อยืดสีขาว นุ่งกางเกงขาสามส่วนสีไข่ไก่ ซึ่งลักษณะการแต่งกายนั้นตรงกับที่นางกฤษณา ผู้พบศพคนแรกเห็น เดินมาเปิดประตูฝั่งคนขับ ก่อนจะชักปืนยิงใส่รถผู้ตายไป 4-5 นัด ก่อนจะเดินไปส่งหญิงสาวคนหนึ่งขึ้นรถแท็กซี่สีเขียว-เหลือง จากนั้นคนร้ายเดินกลับมาขึ้นรถแล้วขับรถเบนซ์คันดังกล่าว ออกจากจุดเกิดเหตุไป

ต่อมาเมื่อเวลาประมาณ 13.30 น. พล.ต.ต.อิทธิพล พิริยะภิญโญ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.รณศิลป์ ภู่สาระ ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.อิทธิพล อัจริยะประดิษฐ์ รอง ผบก.น.5 พ.ต.ท.ดุสิต วาลีประโคน สว.สส.สน.บางโพงพาง นำกำลังเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน และเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน เข้าตรวจสอบบริเวณหน้าประตูทางเข้าโรงเรียนยานนาเวศวิทยา ที่มีพยานเห็นว่ามีเหตุยิงกันเมื่อคืนที่ผ่านมา โดยพบหัวกระสุนขนาด .38 ตก อยู่จำนวน 1 หัว จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน พร้อมกับได้ทำการตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณดังกล่าวด้วย

พล.ต.ต.รณศิลป์กล่าวว่า จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดพบว่าก่อนเกิดเหตุเวลาประมาณ 21.00 น. รถของผู้ตายขับมาในซอยสาธุประดิษฐ์ 8 ก่อนจะกลับรถแล้วออกมาจอดที่ทางม้าลายหน้าโรงเรียน จากนั้นคนร้ายซึ่งเป็นคนขับรถได้เดินลงมาจากรถพร้อมกับหญิงคนหนึ่ง ก่อนจะเดินไปนั่งกินข้าวที่ร้านที่อยู่ติดกับโรงเรียน ส่วนผู้ตายไม่ได้ลงไปด้วย ได้แต่ลุกออกมาบิดขี้เกียจแล้วกลับไปนั่งในรถที่เบาะข้างคนขับ จากนั้นไม่ทราบว่าคนร้ายออกจากร้านไปเมื่อไหร่ แต่ภาพจับได้ว่าคนร้ายได้นั่งรถจักรยานยนต์ย้อนกลับมาจากด้านหลังรถ ก่อนจะลงจากรถจักรยานยนต์แล้วเปิดประตูชักปืนยิงใส่ผู้ตาย จากนั้นคนร้ายได้เดินไปกลับไปที่ร้านข้าว ก่อนจะส่งผู้หญิงที่มาด้วยกันกลับ จากนั้นได้ย้อนกลับมาขับรถเบนซ์ของผู้ตายออกจากจุดเกิดเหตุไป

ทั้งนี้ นางแสงระวี พร้อมญาติผู้ตายมาตรวจสอบภาพจากล้องวงจรปิดที่สามารถจับภาพคนร้ายขณะก่อเหตุเอาไว้ได้ โดยนางแสงระวียืนยันว่า มือปืนคือนายต๋อง เพื่อนผู้ตายที่คบหากันมานาน เจ้าหน้าที่จึงเตรียมกำลังเพื่อติดตามจับกุมนายต๋อง คนร้ายที่ก่อเหตุมาดำเนินคดีต่อไป
นายฮาหมัด มูฮัมเหม็ด หรือทอมมี่ นักธุรกิจค้าเพชรพลอย ถูกคนร้ายยิงเสียชีวิตคารถเบนซ์ป้ายแดง
รถเบนซ์ป้ายแดงของผู้ตาย
กำลังโหลดความคิดเห็น