สองคนร้ายบุกจี้ชิงทองย่านท่าดินแดง ยิงเจ้าของร้าน โดยสามีถูกยิงเข้าไหปลาร้า กรามซ้ายทะลุลิ้น ส่วนภรรยาถูกยิงต้นขาได้รับบาดเจ็บ ได้ทองรูปพรรณไป 2 ถาดใหญ่ ขณะที่ ผบช.น.เผย ร้านทองไม่มีกล้องวงจรปิด ต้องเร่งตรวจสอบกล้องบริเวณใกล้เคียง ส่วนสองสามีภรรยาพ้นขีดอันตรายแล้ว
วันนี้ (2 ธ.ค.) เมื่อเวลา 09.40 น. ร.ต.อ.จตุพร วัชรพันธพงศ์ พนักงานสอบสวน (สบ1) สน.สมเด็จเจ้าพระยา รับแจ้งเหตุคนร้ายชาย 2 คน บุกเข้าไปชิงทองร้านทอง และยิงคนในร้านได้รับบาดเจ็บ โดยเหตุเกิดที่ร้านห้างทองแสงทองสุก เลขที่ 326 ถนนท่าดินแดง แขวงสมเด็จเจ้าพระยา เขตคลองสาน จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ แล้วรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อม พล.ต.ท.วินัย ทองสอง ผบช.น. พล.ต.ต.เฉลิมพันธุ์ อจลบุญ ผบก.น.8 พ.ต.อ.จีรศักดิ์ ขำคง รองผบก.น.8 พ.ต.อ.พรชัย ชลอเดช ผกก.กก.สส.บก.น.8 พ.ต.อ.ภานพ วรธนัชชากุล ผกก.สน.สมเด็จเจ้าพระยา และเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน
ที่เกิดเหตุเป็นอาคารพาณิชย์ 4 ชั้น 1 คูหา หน้าร้านก่อกำแพง เพื่อกั้นน้ำท่วมสูงประมาณ 30 ซม.หน้าประตูพบกองเลือด และรอยเลือดกระจายอยู่ ตรวจสอบภายในร้านพบร่องรอยการรื้อค้น และรอยกระสุนที่ตู้ทองที่ติดกับผนัง จำนวน 4 รอย บริเวณหน้าเคาน์เตอร์ 1 รอย ตรวจสอบทองรูปพรรณที่แขวนโชว์นั้นบางส่วนได้หายไป ส่วนที่เคาน์เตอร์พบร่องรอยที่คนร้ายใช้ของแข็งทุบกระจกจนแตก และนำทองรูปพรรณไปบางส่วนเช่นกัน บริเวณที่เกิดเหตุมีเศษกระสุนขนาด .32 ตก อยู่ในที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่จึงเก็บทั้งหมดไว้เป็นหลักฐาน
ส่วนผู้บาดเจ็บมี 2 ราย ที่ถูกคนร้ายยิง คือ เจ้าของร้านทอง ทราบชื่อต่อมา คือ นายไพรวุฒิ ปาริสุทธิพงศ์ อายุ 53 ปี ถูกยิงเข้าที่บริเวณไหปลาร้าซ้าย กรามซ้ายทะลุลิ้น และ นางปราณี ปาริสุทธิพงศ์ 50 ปี ภรรยา ถูกยิงเข้าที่บริเวณต้นขาซ้าย โดยพลเมืองดีได้นำตัว ส่ง รพ.ตากสิน ก่อนที่ญาติคนเจ็บจะขอย้ายผู้บาดเจ็บไปรักษาตัวที่ รพ.ธนบุรี 1
นางปราณี เจ้าของร้าน ให้การว่า เวลาประมาณ 09.00 น.ได้เปิดร้านตามปกติ จากนั้นมีชายวัยรุ่นอายุประมาณ 25-30 ปี จำนวน 2 คน แต่งกายชุดดำ สวมหมวกกันน็อกนิรภัย ขี่รถจักรยานยนต์เข้ามาจอดหน้าร้าน จากนั้นคนซ้อนท้ายเดินเข้ามาในร้าน แล้วชักปืนจ่อมาที่ตนกับสามีทันที พร้อมกับตะโกนว่า ให้หมอบลง ตนกับสามีก็ทำตามที่คนร้ายสั่งโดยดี ไม่ได้ขัดขืน แต่คนร้ายเห็นว่าสามีตนพยายามขยับตัว จึงยิงใส่จำนวน 1 นัด และยิงใส่ตนอีก 1 นัด แล้วกระโดดข้ามเคาน์เตอร์เข้าไปกวาดทองภายในตู้โชว์ใส่กระเป๋าเป้ที่เตรียมมา โดยขณะที่คนร้ายกำลังหนีออกไปจากร้าน ยังยิงใส่สามีตนอีก 1 นัด ก่อนขึ้นซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ที่จอดรออยู่หลบหนีไป ส่วนจำนวนทองที่คนร้ายเอาไปไม่ทราบว่ามีจำนวนทั้งหมดเท่าไร ต้องรอไปกลับตรวจสอบก่อน
จากการสอบสวนพยานที่เห็นเหตุการณ์ (ขอสงวนชื่อและนามสกุล) กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุตนได้เข้ามาซื้อของในตลาดท่าดินแดง ซึ่งอยู่ตรงข้ามกับร้านที่เกิดเหตุ จากนั้นได้ยินเสียงปืนดังขึ้นจำนวน 3 นัด ตนจึงมองมาทางฝั่งตรงข้าม เห็นคนร้ายแต่งกายสวมหมวกกันน็อกนิรภัยแบบเต็มใบสีดำ แต่งกายชุดสีดำ จำนวน 2 คน วิ่งขึ้นรถ จยย.แบบผู้หญิงที่จอดอยู่หน้าร้านในลักษณะหันหน้าออกไปทางถนน ขับมุ่งหน้าไปทางแยกท่าดินแดงอย่างรวดเร็ว ขณะนั้นตนพยายามจะควักโทรศัพท์จากกระเป๋า เพื่อที่จะถ่ายรูปทะเบียนรถคันดังกล่าว แต่ด้วยความเร็วของรถ จยย.ตนจึงไม่สามารถถ่ายรูปได้ทัน จากนั้นตนจึงข้ามถนนเข้ามาในร้านทองที่เกิดเหตุพบเจ้าของร้านทั้ง 2 คน นอนจมกองเลือดอยู่ จึงรีบพาคนเจ็บทั้ง 2 คน ส่ง รพ.ตากสิน
ด้าน พล.ต.ท.วินัย กล่าวว่า ขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนได้รวบรวมพยานหลักฐาน และรูปพรรณของคนร้ายอยู่ โดยเบื้องต้นทราบว่า คนร้ายได้ทองไปประมาณ 2 ถาดใหญ่ แต่ไม่ทราบจำนวนน้ำหนักที่ชัดเจน ต้องรอปากคำจากเจ้าของร้านอีกครั้ง แต่ขณะนี้ยังรักษาตัวอยู่ ซึ่งเบื้องต้นอาการนั้นพ้นขีดอันตรายแล้ว
จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุพบหัวกระสุนปืนขนาด .32 ตกอยู่ภายในร้าน และภายในร้านไม่มีกล้องวงจรปิด โดยทางเจ้าหน้าที่จะทำการตรวจสอบกล้องวงจรปิดในบริเวณใกล้เคียง หลังจากนี้ เจ้าหน้าที่จะเร่งติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีโดยเร็ว
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการตรวจสอบร้านทองบริเวณใกล้เคียง พบว่า ร้านอื่นๆ มีการป้องกันอย่างแน่นหนา แต่ร้านที่เกิดเหตุนั้นไม่มีการป้องกันแต่อย่างใด สำหรับเหตุการณ์ดังกล่าวถือว่าเป็นเหตุการณ์ครั้งแรกในรอบ 30 ปี ที่มีคนร้ายบุกเข้าชิงทรัพย์ร้านทองในพื้นที่ สน.สมเด็จเจ้าพระยา และร้านทองดังกล่าวนั้นจะเปิดเร็วกว่า และปิดช้ากว่าร้านอื่น ซึ่งเชื่อว่าคนร้ายคงมาดูลาดเลาแล้วหลายครั้ง และได้เตรียมการมาเป็นอย่างดี
วันนี้ (2 ธ.ค.) เมื่อเวลา 09.40 น. ร.ต.อ.จตุพร วัชรพันธพงศ์ พนักงานสอบสวน (สบ1) สน.สมเด็จเจ้าพระยา รับแจ้งเหตุคนร้ายชาย 2 คน บุกเข้าไปชิงทองร้านทอง และยิงคนในร้านได้รับบาดเจ็บ โดยเหตุเกิดที่ร้านห้างทองแสงทองสุก เลขที่ 326 ถนนท่าดินแดง แขวงสมเด็จเจ้าพระยา เขตคลองสาน จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ แล้วรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อม พล.ต.ท.วินัย ทองสอง ผบช.น. พล.ต.ต.เฉลิมพันธุ์ อจลบุญ ผบก.น.8 พ.ต.อ.จีรศักดิ์ ขำคง รองผบก.น.8 พ.ต.อ.พรชัย ชลอเดช ผกก.กก.สส.บก.น.8 พ.ต.อ.ภานพ วรธนัชชากุล ผกก.สน.สมเด็จเจ้าพระยา และเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน
ที่เกิดเหตุเป็นอาคารพาณิชย์ 4 ชั้น 1 คูหา หน้าร้านก่อกำแพง เพื่อกั้นน้ำท่วมสูงประมาณ 30 ซม.หน้าประตูพบกองเลือด และรอยเลือดกระจายอยู่ ตรวจสอบภายในร้านพบร่องรอยการรื้อค้น และรอยกระสุนที่ตู้ทองที่ติดกับผนัง จำนวน 4 รอย บริเวณหน้าเคาน์เตอร์ 1 รอย ตรวจสอบทองรูปพรรณที่แขวนโชว์นั้นบางส่วนได้หายไป ส่วนที่เคาน์เตอร์พบร่องรอยที่คนร้ายใช้ของแข็งทุบกระจกจนแตก และนำทองรูปพรรณไปบางส่วนเช่นกัน บริเวณที่เกิดเหตุมีเศษกระสุนขนาด .32 ตก อยู่ในที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่จึงเก็บทั้งหมดไว้เป็นหลักฐาน
ส่วนผู้บาดเจ็บมี 2 ราย ที่ถูกคนร้ายยิง คือ เจ้าของร้านทอง ทราบชื่อต่อมา คือ นายไพรวุฒิ ปาริสุทธิพงศ์ อายุ 53 ปี ถูกยิงเข้าที่บริเวณไหปลาร้าซ้าย กรามซ้ายทะลุลิ้น และ นางปราณี ปาริสุทธิพงศ์ 50 ปี ภรรยา ถูกยิงเข้าที่บริเวณต้นขาซ้าย โดยพลเมืองดีได้นำตัว ส่ง รพ.ตากสิน ก่อนที่ญาติคนเจ็บจะขอย้ายผู้บาดเจ็บไปรักษาตัวที่ รพ.ธนบุรี 1
นางปราณี เจ้าของร้าน ให้การว่า เวลาประมาณ 09.00 น.ได้เปิดร้านตามปกติ จากนั้นมีชายวัยรุ่นอายุประมาณ 25-30 ปี จำนวน 2 คน แต่งกายชุดดำ สวมหมวกกันน็อกนิรภัย ขี่รถจักรยานยนต์เข้ามาจอดหน้าร้าน จากนั้นคนซ้อนท้ายเดินเข้ามาในร้าน แล้วชักปืนจ่อมาที่ตนกับสามีทันที พร้อมกับตะโกนว่า ให้หมอบลง ตนกับสามีก็ทำตามที่คนร้ายสั่งโดยดี ไม่ได้ขัดขืน แต่คนร้ายเห็นว่าสามีตนพยายามขยับตัว จึงยิงใส่จำนวน 1 นัด และยิงใส่ตนอีก 1 นัด แล้วกระโดดข้ามเคาน์เตอร์เข้าไปกวาดทองภายในตู้โชว์ใส่กระเป๋าเป้ที่เตรียมมา โดยขณะที่คนร้ายกำลังหนีออกไปจากร้าน ยังยิงใส่สามีตนอีก 1 นัด ก่อนขึ้นซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ที่จอดรออยู่หลบหนีไป ส่วนจำนวนทองที่คนร้ายเอาไปไม่ทราบว่ามีจำนวนทั้งหมดเท่าไร ต้องรอไปกลับตรวจสอบก่อน
จากการสอบสวนพยานที่เห็นเหตุการณ์ (ขอสงวนชื่อและนามสกุล) กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุตนได้เข้ามาซื้อของในตลาดท่าดินแดง ซึ่งอยู่ตรงข้ามกับร้านที่เกิดเหตุ จากนั้นได้ยินเสียงปืนดังขึ้นจำนวน 3 นัด ตนจึงมองมาทางฝั่งตรงข้าม เห็นคนร้ายแต่งกายสวมหมวกกันน็อกนิรภัยแบบเต็มใบสีดำ แต่งกายชุดสีดำ จำนวน 2 คน วิ่งขึ้นรถ จยย.แบบผู้หญิงที่จอดอยู่หน้าร้านในลักษณะหันหน้าออกไปทางถนน ขับมุ่งหน้าไปทางแยกท่าดินแดงอย่างรวดเร็ว ขณะนั้นตนพยายามจะควักโทรศัพท์จากกระเป๋า เพื่อที่จะถ่ายรูปทะเบียนรถคันดังกล่าว แต่ด้วยความเร็วของรถ จยย.ตนจึงไม่สามารถถ่ายรูปได้ทัน จากนั้นตนจึงข้ามถนนเข้ามาในร้านทองที่เกิดเหตุพบเจ้าของร้านทั้ง 2 คน นอนจมกองเลือดอยู่ จึงรีบพาคนเจ็บทั้ง 2 คน ส่ง รพ.ตากสิน
ด้าน พล.ต.ท.วินัย กล่าวว่า ขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนได้รวบรวมพยานหลักฐาน และรูปพรรณของคนร้ายอยู่ โดยเบื้องต้นทราบว่า คนร้ายได้ทองไปประมาณ 2 ถาดใหญ่ แต่ไม่ทราบจำนวนน้ำหนักที่ชัดเจน ต้องรอปากคำจากเจ้าของร้านอีกครั้ง แต่ขณะนี้ยังรักษาตัวอยู่ ซึ่งเบื้องต้นอาการนั้นพ้นขีดอันตรายแล้ว
จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุพบหัวกระสุนปืนขนาด .32 ตกอยู่ภายในร้าน และภายในร้านไม่มีกล้องวงจรปิด โดยทางเจ้าหน้าที่จะทำการตรวจสอบกล้องวงจรปิดในบริเวณใกล้เคียง หลังจากนี้ เจ้าหน้าที่จะเร่งติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีโดยเร็ว
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการตรวจสอบร้านทองบริเวณใกล้เคียง พบว่า ร้านอื่นๆ มีการป้องกันอย่างแน่นหนา แต่ร้านที่เกิดเหตุนั้นไม่มีการป้องกันแต่อย่างใด สำหรับเหตุการณ์ดังกล่าวถือว่าเป็นเหตุการณ์ครั้งแรกในรอบ 30 ปี ที่มีคนร้ายบุกเข้าชิงทรัพย์ร้านทองในพื้นที่ สน.สมเด็จเจ้าพระยา และร้านทองดังกล่าวนั้นจะเปิดเร็วกว่า และปิดช้ากว่าร้านอื่น ซึ่งเชื่อว่าคนร้ายคงมาดูลาดเลาแล้วหลายครั้ง และได้เตรียมการมาเป็นอย่างดี