รวบโจ๋รับจ้างขนยาไอซ์เตรียมส่งขายต่างประเทศ โดยห่อหุ้มมาอย่างดีซุกอยู่ในเครื่องขยายเสียงติดตั้งรถยนต์ เพื่อป้องกันเครื่องเอ็กซเรย์สนามบิดตรวจจับ แต่ไม่รอดถูกตะครุบตัวพร้อมของกลางกว่า 33 ล้านได้ก่อน สารภาพรับยาจากย่านรัชดาฯ เพื่อให้นำส่งย่านบางพลี ได้ค่าจ้าง 3 หมื่น
วันนี้ (6 ธ.ค.) เวลา 14.00 น. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ท.วินัย ทองสอง ผบช.น. พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ พล.ต.ต.พิสิษฐ์ พิสุทธิ์ศักดิ์ พล.ต.ต.สุเมธ เรืองสวัสดิ์ พล.ต.ต.เมธี กุศลสร้าง รรท. รอง ผบช.น. พร้อมด้วย พ.ต.อ.ชัยวัฒน์ ฉันทวรลักษณ์ ผบก.สปพ. แถลงการจับกุมนายวีระชาติ จะแสง อายุ 19 ปี บ้านเลขที่ 89/2 ซ.1 ถนนรัตนโกสินทร์ ต.วัดเกต อ.เมืองเชียงใหม่ จ.เชียงใหม่ พร้อมของกลางยาไอซ์จำนวน 11 กิโลกรัม มูลค่ากว่า 33 ล้านบาท โทรศัพท์มือถือ 3 เครื่อง เครื่องขยายเสียงติดตั้งรถยนต์จำนวน 11 เครื่อง โดยสามารถจับกุมได้ที่ซอยบางปลา 41 ต.บางปลา อ.บางพลี จ.สมุทรปารการ
พล.ต.ท.วินัยเปิดเผยว่า สืบเนื่องจากเวลา 18.30 น.ของวันที่ 5 ม.ค.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สายตรวจ (191) บก.สปพ.ได้สืบทราบว่าจะมีการนำยาไอซ์มาส่งบริเวณท้ายซอยบางปลา 41 จึงได้วางแผนจับกุม ต่อมาได้มีรถแท็กซี่สีส้มเข้ามาจอดบริเวณดังกล่าว โดยมีนายวีระชาติลงมาจากรถและได้ยกกล่องกระดาษจำนวน 2 กล่องใหญ่ลงจากรถด้วย เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงแสดงตัวจับกุมและขอตรวจค้นภายในกล่องกระดาษ พบว่าทั้งสองกล่องมียาไอซ์ซุกซ่อนอยู่ น้ำหนักรวม 11 กิโลกรัม ซึ่งกรรมวิธีในการแพกของมีเจตนาที่จะนำขึ้นเครื่องบินส่งไปยังต่างประเทศ เช่น จีน สิงคโปร์ ญี่ปุ่น โดยนำกระดาษฟอยล์ แผ่นอะลูมิเนียมแบบบาง และถุงพลาสติกห่อหุ้มยาไอซ์หลายชั้นแล้วซุกซ่อนในเครื่องขยายเสียงติดตั้งรถยนต์ เพื่อป้องกันการตรวจจากเครื่องเอกซเรย์ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ นอกจากนี้ ได้นำตัวผู้ต้องหาไปตรวจสอบห้องพักและได้อายัดทรัพย์สินหลายรายการ เช่น หนังสือเดินทางจำนวนหลายเล่ม สมุดบัญชีเงินฝาก และรถยนต์
จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่ารับยาไอซ์มาจากย่านรัชดาฯ ซึ่งมีคนมาส่งให้แต่ไม่ทราบชื่อ และจะนำไปส่งแถวบางพลี ซึ่งทำแบบนี้มาแล้ว 2 ครั้ง ในรอบ 3 เดือน ได้ค่าจ้างครั้งละ 20,000-30,000 บาทต่อครั้ง โดยตนเป็นผู้ที่นำมาส่งให้ลูกค้าอย่างเดียว ส่วนการบรรจุใส่ห่อกระดาษนั้นได้มีคนทำมาให้เรียบร้อยแล้ว
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อหามียาเสพติดประเภท 1 (ไอซ์) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย พร้อมนำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน บช.ปส.ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
วันนี้ (6 ธ.ค.) เวลา 14.00 น. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ท.วินัย ทองสอง ผบช.น. พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ พล.ต.ต.พิสิษฐ์ พิสุทธิ์ศักดิ์ พล.ต.ต.สุเมธ เรืองสวัสดิ์ พล.ต.ต.เมธี กุศลสร้าง รรท. รอง ผบช.น. พร้อมด้วย พ.ต.อ.ชัยวัฒน์ ฉันทวรลักษณ์ ผบก.สปพ. แถลงการจับกุมนายวีระชาติ จะแสง อายุ 19 ปี บ้านเลขที่ 89/2 ซ.1 ถนนรัตนโกสินทร์ ต.วัดเกต อ.เมืองเชียงใหม่ จ.เชียงใหม่ พร้อมของกลางยาไอซ์จำนวน 11 กิโลกรัม มูลค่ากว่า 33 ล้านบาท โทรศัพท์มือถือ 3 เครื่อง เครื่องขยายเสียงติดตั้งรถยนต์จำนวน 11 เครื่อง โดยสามารถจับกุมได้ที่ซอยบางปลา 41 ต.บางปลา อ.บางพลี จ.สมุทรปารการ
พล.ต.ท.วินัยเปิดเผยว่า สืบเนื่องจากเวลา 18.30 น.ของวันที่ 5 ม.ค.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สายตรวจ (191) บก.สปพ.ได้สืบทราบว่าจะมีการนำยาไอซ์มาส่งบริเวณท้ายซอยบางปลา 41 จึงได้วางแผนจับกุม ต่อมาได้มีรถแท็กซี่สีส้มเข้ามาจอดบริเวณดังกล่าว โดยมีนายวีระชาติลงมาจากรถและได้ยกกล่องกระดาษจำนวน 2 กล่องใหญ่ลงจากรถด้วย เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงแสดงตัวจับกุมและขอตรวจค้นภายในกล่องกระดาษ พบว่าทั้งสองกล่องมียาไอซ์ซุกซ่อนอยู่ น้ำหนักรวม 11 กิโลกรัม ซึ่งกรรมวิธีในการแพกของมีเจตนาที่จะนำขึ้นเครื่องบินส่งไปยังต่างประเทศ เช่น จีน สิงคโปร์ ญี่ปุ่น โดยนำกระดาษฟอยล์ แผ่นอะลูมิเนียมแบบบาง และถุงพลาสติกห่อหุ้มยาไอซ์หลายชั้นแล้วซุกซ่อนในเครื่องขยายเสียงติดตั้งรถยนต์ เพื่อป้องกันการตรวจจากเครื่องเอกซเรย์ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ นอกจากนี้ ได้นำตัวผู้ต้องหาไปตรวจสอบห้องพักและได้อายัดทรัพย์สินหลายรายการ เช่น หนังสือเดินทางจำนวนหลายเล่ม สมุดบัญชีเงินฝาก และรถยนต์
จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่ารับยาไอซ์มาจากย่านรัชดาฯ ซึ่งมีคนมาส่งให้แต่ไม่ทราบชื่อ และจะนำไปส่งแถวบางพลี ซึ่งทำแบบนี้มาแล้ว 2 ครั้ง ในรอบ 3 เดือน ได้ค่าจ้างครั้งละ 20,000-30,000 บาทต่อครั้ง โดยตนเป็นผู้ที่นำมาส่งให้ลูกค้าอย่างเดียว ส่วนการบรรจุใส่ห่อกระดาษนั้นได้มีคนทำมาให้เรียบร้อยแล้ว
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อหามียาเสพติดประเภท 1 (ไอซ์) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย พร้อมนำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน บช.ปส.ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป