หนุ่มญี่ปุ่นเสียชีวิตปริศนา ภายในคอนโดหรู ย่านอ่อนนุช สภาพศพขึ้นอืด แต่ไม่พบบาดแผล ส่วนภายในห้องถูกรื้อค้นข้าวของกระจัดกระจาย ตร.คาดเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 5-7 วัน พร้อมประสานฝ่ายอาคารตรวจสอบวงจรปิด ก่อนส่งมอบศพให้แพทย์ตรวจสอบหาสาเหตุการเสียชีวิต
วันนี้ (6 ธ.ค.) เมื่อเวลา 12.00 น. ร.ต.อ.ทศพร ศรีสัจจา พนักงานสอบสวน (สบ1) สน.พระโขนง รับแจ้งพบศพชายชาวญี่ปุ่นถูกแทงตายในห้องพักเลขที่ 998/141 อาคารบ้านอ่อนนุชคอนโดมิเนียม เลขที่ 99/51 ซ.อ่อนนุช 30 แขวงและเขตสวนหลวง กทม.จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบแล้วรุดไปตรวจสอบพร้อม พล.ต.ต.สมชาย พัชรอินโต ผบก.น.5 พ.ต.อ.นีรนาท ฉินประสิทธิชัย ผกก.สส.น.5 พ.ต.ท.ชัยสิทธิ์ ดีสุข รองผกก.สส.สน.พระโขนง เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน แพทย์นิติเวช รพ.จุฬาฯ และหน่วยกู้ภัยมูลนิธิร่วมกตัญญู
ที่เกิดเหตุเป็นคอนโดมิเนียมหรูสูง 18 ชั้น ที่ห้องเลขที่ 141 ชั้น 11 พบศพ นายโชจิโร่ มิคามิ (Mr.Shojiro Mikami) อายุ 42 ปี สัญชาติญี่ปุ่น นอนตายอยู่บนที่นอนสภาพศพขึ้นอืดหนอนขึ้น ส่งกลิ่นเหม็นเน่า นุ่งกางเกงขาสั้นสีเทา ไม่สวมเสื้อ ตรวจสอบตามร่างกายยังไม่พบบาดแผล คาดว่า เสียชีวิตมาแล้วประมาณ 5-7 วัน ห้องนั่งเล่นเต็มไปด้วยคราบฝุ่นและเศษขยะมีคราบเลือดไหลหยดเป็นทางหลายจุด สภาพห้องพักพบว่า ถูกรื้อค้นกระจัดกระจายคล้ายคนร้ายต้องการหาของสำคัญบางอย่าง แต่คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กของผู้ตายก็ยังวางอยู่ จำนวน 1 เครื่อง พร้อมกระเป๋าเอกสารและนามบัตร ระบุว่า ผู้ตายทำงานเป็นเจ้าหน้าที่ประสานงานฝ่ายวิศวกรรม อยู่ที่ บจก.อินดัสเทรลเทค ประกอบกิจการนำเข้าชิ้นส่วนรถยนต์ ย่าน จ.สมุทรปราการ เจ้าหน้าที่จึงเก็บรวบรวมทรัพย์สินที่พบเอาไว้เพื่อนำส่งให้ผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบอย่างละเอียดก่อนหาเบาะแสเกี่ยวกับตัวคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมาย
นายวัชรา แก่นนาคำ อายุ 35 ปี รปภ.ประจำคอนโด ซึ่งพบศพ กล่าวว่า ผู้ตายมีอุปนิสัยเงียบขรึม เช่าห้องพักแห่งนี้อยู่อาศัยเพียงลำพังมาได้ประมาณ 3-4 ปี แล้ว ปกติจะมีรถจากบริษัทมารับผู้ตายไปทำงานทุกวัน แต่มักจะเห็นกลับมาคนเดียวในสภาพเมาสุรา ช่วงเย็นๆ หรือจนกระทั่งช่วงเที่ยงวันนี้ นายจำนง วงศ์อาษา อายุ 47 ปี ลูกเจ้าของห้อง ซึ่งเดินทางมาเก็บค่าเช่าแต่ไม่สามารถติดต่อผู้ตายได้ จึงให้ตนนำกุญแจสำรองขึ้นไปเปิดห้องก็พบว่าเป็นศพดังกล่าว
ด้าน นายจำนง กล่าวว่า ผู้ตายทำงานอยู่เมืองไทยมานานจนพูดภาษาไทยได้ อย่างปกติไม่เคยติดค้างเงินค่าห้อง โดยเจอผู้ตายครั้งสุดท้ายเมื่อวันที่ 2 ต.ค.ที่ผ่านมา ตอนมาเก็บเงินค่าห้อง และผู้ตายบอกว่ากำลังจะย้ายไปทำงานที่พัทยา จ.ชลบุรี เร็วๆ นี้ จนเดือน พ.ย.และ ธ.ค.ไม่สามารถติดต่อกับผู้ตายได้ จึงเอานำกุญแจสำรองให้ รปภ.ช่วยขึ้นไปตรวจสอบ
พ.ต.ท.ชัยสิทธิ์ กล่าวว่า จากการสืบสวนทราบว่าผู้ตายพักอาศัยเพียงลำพัง โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังประสานกับฝ่ายอาคารเพื่อขอดูกล้องวงจรปิด แต่สามารถดูย้อนหลังได้เพียง 10 วันเท่านั้น พร้อมประสานให้สถานทูตญี่ปุ่นทราบเรื่องก่อนส่งมอบศพให้แพทย์นิติเวช รพ.จุฬาฯ ตรวจสอบเพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตอย่างละเอียดอีกครั้ง รวมทั้งร่องรอยในห้องเพื่อหาเบาะแสในการติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดี