“มนตรี ยอดปัญญา” ประธานศาลฎีกา ถึงแก่อสัญกรรมด้วยภาวะหัวใจล้มเหลวและติดเชื้อในกระแสโลหิตที่ รพ.ศิริราช
วันนี้ (27 พ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายมนตรี ยอดปัญญา ประธานศาลฎีกา ได้ถึงแก่อสัญกรรมด้วยภาวะหัวใจล้มเหลวและติดเชื้อในกระแสโลหิต ที่ รพ.ศิริราช เมื่อเวลาประมาณ 21.15 น.ของวันที่ 26 พ.ย.ที่ผ่านมา หลังเข้ารับการผ่าตัดโรคมะเร็ง ขณะที่ญาติเตรียมตั้งศพบำเพ็ญกุศลที่วัดเทพศิรินทราวาส และจะมีพิธีพระราชทานน้ำหลวงอาบศพ ในวันนี้ (27 พ.ย.) เวลา 17.00 น. โดยมีนายธานินทร์ กรัยวิเชียร องคมนตรี เป็นประธานในพิธี และนายกรัฐมนตรีจะเดินทางมาร่วมในพิธีดังกล่าวด้วย
สำหรับประวัติ นายมนตรี ยอดปัญญา ปัจจุบันอายุ 63 ปี และจะมีวาระดำรงตำแหน่งประธานศาลฎีกา 2 ปี โดยจะไปเกษียณอายุราชการในปี 2556 จบการศึกษาประถมศึกษาโรงเรียนเทศบาล 1 (พะเยาประชานุกูล) มัธยมศึกษาต้นโรงเรียนพะเยาพิทยาคม พ.ศ. 2503-2508 มัธยมศึกษาปี 3 โรงเรียนวัดเบญจมบพิตร พ.ศ. 2509 มัธยมปีที่ 4-5 โรงเรียนวัดเทพศิรินทร์ พ.ศ. 2511 คณะนิติศาสตรบัณฑิต (เกียรตินิยมดี) มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ พ.ศ. 2516 เนติบัณฑิตไทย สำนักอบรมศึกษากฎหมายแห่งเนติบัณฑิตยสภา รุ่นที่ 27 พ.ศ. 2516
ประวัติรับราชการเป็นผู้พิพากษาศาลจังหวัดขอนแก่น ผู้พิพากษาประจำกระทรวง ช่วยทำงานผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดเชียงใหม่ ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดพิษณุโลก ผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลแพ่งธนบุรี ผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา รองอธิบดีผู้พิพากษาศาลแพ่งกรุงเทพใต้ ผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลอุทธรณ์ ผู้พิพากษาศาลฎีกา ผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลฎีกา และรองประธานศาลฎีกา
รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ชั้นประถมาภรณ์มงกุฎไทย (ป.ม.) ในปี พ.ศ. 2531 ประถมาภรณ์ช้างเผือก (ป.ช.) พ.ศ.2534 มหาวชิรมงกุฎ (ม.ว.ม.) พ.ศ. 2537 มหาปรมาภรณ์ช้างเผือก (ม.ป.ช.) พ.ศ. 2542 และเหรียญจักรพรรดิมาลา ในปี พ.ศ. 2545
นอกจากนี้ยังมีผลงานด้านวิชาการ โดยเป็นอาจารย์ผู้บรรยายพิเศษกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งในมหาวิทยาลัยหลายแห่ง อาทิ มหาวิทยาลัยรามคำแหง มหาวิทยาลัยกรุงเทพ มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ มหาวิทยาลัยรังสิต ประธานกรรมการสอบคัดเลือกเพื่อบรรจุเป็นข้าราชการตุลาการในตำแหน่งผู้ช่วยผู้พิพากษาทั้งสนามใหญ่และสนามเล็ก ผู้เชี่ยวชาญประจำตุลาการรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2549 โดย นายมนตรี นั้น ได้รับการยอมรับจากผู้พิพากษาด้วยกันว่าเป็นผู้ที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญเกี่ยวกับคำพิพากษาศาลฎีกาเป็นอย่างสูง สามารถจดจำฎีกาที่บรรพตุลาการเคยมีคำวินิจฉัยไว้ได้อย่างแม่นยำ ทั้งเลขที่ฎีกา องค์คณะผู้พิพากษาที่ตัดสิน จนได้ชื่อว่าเป็น “ตู้ฎีกาเคลื่อนที่” และตลอดชีวิตผู้พิพากษากว่า 40 ปี ส่วนใหญ่ทำงานอยู่ในศาลฎีกา
ทั้งนี้ นายมนตรี ยอดปัญญา ยังเคยเป็นองค์คณะพิจารณาพิพากษาคดีที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ที่เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง นายเสนาะ เทียนทอง อดีต รมว.มหาดไทย เป็นจำเลย ในความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานใช้อำนาจในตำแหน่งโดยมิชอบ ข่มขืนใจ หรือจูงใจเพื่อให้บุคคลใดมอบให้ หรือหามาให้ซึ่งทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดแก่ตนเองหรือผู้อื่น ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 148 คดีทุจริตที่ดินอัลไพน์ ต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เมื่อปี 2553 และยังเป็นองค์คณะพิจารณาคำร้องที่ ส.ส.พรรคเพื่อไทย ยื่นเรื่องต่อประธานวุฒิสภา ส่งคำร้องให้ศาลฎีกา ตั้งองค์คณะพิจารณาถอดถอนคณะกรรมการป้องกันและปรามปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ทั้งคณะ ออกจากตำแหน่ง กรณีถูกกล่าวหาปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ที่ชี้มูลความผิดการสลายกลุ่มผู้ชุมนุมพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ปิดล้อมหน้าอาคารรัฐสภา มิชอบด้วยกฎหมาย ผิดวินัยร้ายแรง และกรณีมีมติไล่นายตำรวจออกจากราชการ