รวบแล้ว! ลูกเลี้ยงเลวจ้างวานฆ่าแม่บุญธรรม หวังฮุบสมบัติ

ตร.แถลงจับลูกเลี้ยงเนรคุณจ้างวานฆ่าเศรษฐีนีวัย 72 สารภาพน้อยใจคิดว่าแม่บุญธรรมไม่รักจึงต้องจ้างเก็บหวังเงินมรดก ร่ำไห้สำนึกผิดกราบเท้าขอขมาฝ่ายอาม่าอโหสิกรรมให้แต่ขอตัดขาดกันไปจะได้ไม่ต้องมีเวรกรรมต่อกัน

วันนี้ ( 18 พ.ย.) เมื่อเวลา 20.00 น. ที่สน.พลับพลาไชย 1 พ.ต.อ.ฤชากร จรเจวุฒิ รอง ผบก.น.6 พ.ต.อ.เสนิต สำราญสำรวจกิจ ผกก.สน.พลับพลาไชย 1 พ.ต.ท.สมัพันธ์ เหลืองสัจจกุล สว.สส.สน.พลับพลาไชย 1พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน ร่วมกันแถลงข่าวจับกุมนายนิวัฒน์ สุวรรณประไพศรี อายุ 50 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้เลขที่ จ.636/2554 ลงวันที่ 17 พ.ย.54 ในความผิดข้อหาใช้จ้างวานฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน โดยจับกุมได้ที่บ้านพักของภรรยาใน จ.ยโสธร

พ.ต.อ.ฤชากร กล่าวว่า หลังจากวันที่ 17 พ.ย.ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.พลับพลาไชย 1 จับกุมตัว นายช่วงวิทย์ หรือม่วง ทรัพย์สำรวย อายุ 26 ปี ลูกชาย “ล้อต๊อก”ตลกชื่อดังผู้ล่วงลับพร้อมพวกประกอบด้วย นายคมสัน บุญมี อายุ 42 ปี นายชูเกียรติ แซ่ตั๊น อายุ 39 ปี และ น.ส.เปิ้ล (นามสมมุติ) อายุ 18 ปี ที่ก่อเหตุพยายามฆ่านางสุวรรณา สุวรรณประไพศรี เศรษฐีนีวัย 72 ปี ด้วยการใช้เครื่องช๊อตไฟฟ้าจี้ใส่คอหลายครั้งเหตุเกิดในบ้านพักของผู้เสียหายเลขที่ 251 ถนนเฉลิมเขตร์ 4 แขวงวัดเทพศิรินทร์ เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย เมื่อวันที่ 15 พ.ย.ที่ผ่านมา โดยผู้ต้องหาทั้งหมดรับสารภาพว่า นายนิวัฒน์ สุวรรณประไพศรี อายุ 50 ปี ลูกบุญธรรมของนางสุวรรณา เป็นคนจ้างวานด้วยจำนวนเงิน 2 แสนบาท และนายนิวัฒน์ ได้จ่ายเงินล่วงหน้าจำนวน 80,000 บาท และจะจ่ายส่วนที่เหลือให้หลังเสร็จงาน ทางพนักงานสอบสวน จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติหมายจับจากศาลอาญากรุงเทพใต้ ก่อนติดตามจับกุมได้ขณะหลบหนีไปอยู่ที่บ้านภรรยาในจ.ยโสธร

สอบสวนนายนิวัฒน์ ให้การรับสารภาพว่าเป็นผู้จ้างวานให้กลุ่มผู้ต้องหาไปฆ่าแม่บุญธรรมของตัวเองจริงโดยมีสาเหตุจากความน้อยใจในหลายๆเรื่อง จนทำให้ตนคิดว่าไม่ได้รับความรักจากแม่บุญธรรม ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่แม่บุญธรรมยอมรับลูกของตน 3 คน ที่เกิดจากภรรยาคนแรกเพียงเท่านั้น ส่วนลูกอีก 5 คน ที่เกิดจากภรรยาคนที่ 2-4 ของตนนั้น แม่บุญธรรมไม่ยอมรับซ้ำยังบอกว่า ตัวเองมีหลานแค่3 คนเท่านั้น นอกจากนี้แม่บุญธรรมยังไม่สนับสนุนในเรื่องงานของตน ก่อนหน้านี้เคยไปสั่งเครื่องครัวจากเมืองนอกเข้ามาขายก็พูดจาในทำนองไม่เชื่อว่าตนจะขายได้ ส่วนอีกสาเหตุหนึ่งที่อาจทำให้แม่บุญธรรมไม่รักตนก็อาจจะมาจากเรื่องการพนันซึ่งตนยอมรับว่า ชอบเล่นพนันฟุตบอลจริง แต่ตอนนี้เคลียร์หนี้ไปหมดแล้ว

นายนิวัฒน์ ให้การอีกว่า ส่วนเรื่องการวางแผนฆ่าแม่บุญธรรมนั้น ตนไปติดต่อกับ นายคมสัน ให้ช่วยหาทีมงานมาลงมือให้โดยหยิบยืมเงินจากพ่อตาและแม่ยายของภรรยาคนที่ 4 ที่ได้จากการจำนองที่ดินมา 80,000 บาท เป็นค่าจ้างงวดแรกให้นายคมสัน ไปแบ่งกับทีมงานทั้งหมดก่อน และหากเสร็จงานจะจ่ายส่วนที่เหลือ ส่วนวิธีฆ่านั้นตนไม่ได้เป็นคนคิดเองโดยนายคมสัน ได้บอกตนว่ามีด้วยกัน 2 แผนคือขั้นแรกคือใช้วิธีการแอบตัดเหล็กดัดประตูบ้านที่เกิดเหตุเข้าไปภายในแล้วอาศัยจังหวะแม่บุญธรรมของตนเผลอใช้มือบีบคอให้ตาย กับแผนที่ 2 คือ ดักรอแม่บุญธรรมเดินออกจากบ้านแล้วผลักเข้าไปภายในบ้านทำการบีบคอก่อนใช้เครื่องช๊อตไฟฟ้าจี้ตามร่างกายจนตาย

นายนิวัฒน์ ยังให้การด้วยว่า ช่วงเดือนเม.ย.ที่ผ่านมา ตนได้พานายคมสันไปชี้เป้าที่บ้านของแม่บุญธรรม จากนั้นก็ติดต่อกันทางโทรศัพท์มาตลอดโดยนายคมสันแจ้งว่า แผนที่ 1 นั้นไม่สามารถทำได้ จึงตกลงใช้แผน 2 แทน และหลังจากนายคมสันหาทีมงานได้แล้วก็พากันไปลงมือในวันที่ 15 พ.ย.ที่ผ่านมา พร้อมทั้งโทรศัพท์มาแจ้งให้ตนไปตรวจสอบว่าแม่บุญธรรมเสียชีวิตไปแล้วหรือยัง ซึ่งหลังจากนั้นตนก็ไม่ทราบว่านายคมสันกับพวกถูกจับกุมไปแล้ว โดยตั้งใจจะหาเงินค่าจ้างอีกจำนวน 120,000 บาท เพราะมั่นใจว่าจะได้รับเงินมรดกจากการตายของแม่บุญธรรมจำนวนมากกว่านั้นอีกหลายเท่า แต่ก็มาถูกจับกุมเสียก่อน

ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้เชิญนางสุวรรณา มาที่ห้องแถลงข่าว พร้อมจัดพานธูปเทียนแพรไว้ให้นายนิวัฒน์ ทำการกราบขอขมานางสุวรรณา ต่อหน้าสื่อมวลชน โดยนายนิวัฒน์ ก็สำนึกผิดร่ำไห้กราบเท้าขอขมานางสุวรรณา ซึ่งนางสุวรรณาเองก็ยอมอโหสิกรรมให้ พร้อมกับกล่าวกับนายนิวัฒน์ว่า แม่ขออโหสิกรรมให้ลูกคนนี้ทุกอย่าง แต่ขอให้ความเป็นแม่ลูกสิ้นสุดลงตรงนี้ เพราะหากยังผูกพันกันต่อไปกลัวว่าเวรกรรมที่มีต่อกันจะไม่จบสิ้น ส่วนเรื่องที่ลูกกล่าวหาว่าแม่ไม่รัก ไม่รู้ว่าพูดมาได้อย่างไร เพราะพ่อกับแม่รับมาเลี้ยงตั้งแต่มีอายุแค่ 10 วัน จนถึงทุกวันนี้ไม่เคยทุบตีแม้แต่ครั้งเดียว หลังจากจบมัธยมก็ส่งไปเรียนต่อด้านภาษา-การบัญชี ที่ประเทศสิงคโปร์ พอมีครอบครัวก็เลี้ยงดูหลานๆ ให้อีก 3 คนมาตลอด ขนาดตำรวจถามว่าลูกคนนี้มีนิสัยใจคอเป็นอย่างไร ติดการพนันหรือไม่ ตนยังไม่เคยบอก มีคนเคยเตือนว่าให้ระวังลูกคนนี้ไว้ แต่ตนก็ไม่เชื่อเพราะมั่นใจว่าลูกไม่กล้าทำกับตนขนาดนี้แน่