รวบลูก “ป๋าต๊อก” ตลกคณะอ่างเถิดเทิง พร้อมพวกใช้เครื่องช็อตไฟฟ้าพยายามฆ่าอาม่า วัย 72 ปี แสร้งทำให้เหมือนชิงทรัพย์ แต่อาม่าไม่ตายสมใจ รับสารภาพเคยลงมือมาแล้ว 3 ครั้ง แต่ไม่สำเร็จ โดยลูกบุญธรรมอาม่าเป็นคนจ้างวานหวังจะฮุบมรดก ทั้งที่แบ่งให้แล้วกว่า 40 ล้านบาท ซึ่งตำรวจได้ออกหมายจับแล้ว ขณะที่อาม่าเผยเก็บลูกบุญธรรมมาเลี้ยงตั้งแต่อายุ 7 วัน เมื่อเติบโตติดการพนันหนักจนต้องแยกบ้านกันอยู่ แต่ชอบมาขอเงินเมื่อไม่ได้จะชักปืนข่มขู่
วันนี้ (17 พ.ย.) เวลา 10.00 น.ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ต.วินัย ทองสอง รรท.ผบช.น. พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน รองผบช.น. พล.ต.ต.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบก.น.6 พ.ต.อ.เสนิต สำราญสำรวจกิจ ผกก.สน.พลับพลาไชย 1 และ พ.ต.ท.สัมพันธ์ เหลืองสัจจกุล สว.สส.สน.พลับพลาไชย 1 แถลงการจับกุมผู้ต้องหารายสำคัญคดีจ้างวานฆ่า น.ส.สุวรรณา สุวรรณประไพรศรี หรืออาม่า อายุ 72 ปี ได้ผู้ต้องหา 4 คน ประกอบด้วย นายช่วงวิทย์ ทรัพย์สำรวย (ม่วง) อายุ 26 ปี อาชีพ เล่นตลกคณะอ่างเถิดเถิง “ตึ่ง ตึ่ง มีเรื่องแล้ว” ทั้งยังเป็นลูกชาย นายสวง ทรัพย์สำรวย หรือ ล้อต๊อก อดีตดาราตลกชื่อดัง ที่เกิดจากภรรยาคนที่ 6 ไม่ทราบบ้านเลขที่ คลองพูล อ.หนองใหญ่ จ.ชลบุรี, นายคมสัน บุญมี (ไล้) อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 152/4 ม.9 ถ.วรรณยิ่ง ต.หน้าเมือง อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา, นายชูเกียรติ แซ่ตั๊น อายุ 39 ปี อยู่บ้านเลขที่ 90/9 ม.9 ต.บางตีนเป็ด อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา และ น.ส.เปิ้ล อายุ 18 ปี พร้อมของกลางเครื่องช็อตไฟฟ้า 1 เครื่อง โทรศัพท์มือถือ 3 เครื่อง โดยจับกุมได้ที่ จ.ฉะเชิงเทรา
พล.ต.ต.วินัย เปิดเผยว่า จากการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ทราบว่า เมื่อวันที่ 15 พ.ย.ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 14.30 น. น.ส.เปิ้ล ได้เข้าไปบีบคอ น.ส.สุวรรณา หรือ อาม่า ผู้เสียหาย จากนั้นใช้เครื่องช็อตไฟฟ้าช็อตที่บริเวณลำคอของผู้เสียหายจำนวนหลายครั้ง โดยมีเจตนาให้ผู้เสียหายถึงแก่ความตาย แต่ทำไม่สำเร็จเนื่องจากผู้เสียหายร้องขอให้คนช่วย จึงถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัวได้พร้อมเครื่องช็อตไฟฟ้า จำนวน 1 เครื่อง เหตุเกิดที่บริเวณหน้าบ้านเลขที่ 251 ถ.เฉลิมเขตร์ 4 แขวงวัดเทพศิรินทร์ เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพฯ
จากการสืบสวนขยายผล น.ส.เปิ้ล ผู้ต้องหารับสารภาพว่า ในการก่อเหตุครั้งนี้ได้ร่วมกับนายช่วงวิทย์ หรือม่วง ทรัพย์สำรวย นายคมสัน หรือ ไล้ บุญมี และนายชูเกียรติ โดยมีการวางแผนเตรียมการร่วมกันมาก่อนที่จะลงมือก่อเหตุในคดีนี้ จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สืบสวนจนทราบว่า นายช่วงวิทย์ นายคมสัน และ นายชูเกียรติ ได้หลบหนีไปพักอยู่ที่ จ.ฉะเชิงเทรา จึงได้ติตามจับกุม นายช่วงวิทย์ นายชูเกียรติ และ นายคมสัน มาสอบสวน โดยทั้ง 3 คนรับสารภาพว่าได้ร่วมกันวางแผนและก่อเหตุฆ่าอาม่า ผู้เสียหายจริง โดยก่อนเกิดเหตุได้มาดูบ้านและชี้เป้ามามากกว่า 3 ครั้ง มีนายคมสันเป็นผู้วางแผน ซึ่งสั่งให้ น.ส.เปิ้ล เป็นผู้ลงมือ เพราะเป็นผู้หญิงจะได้ไม่ผิดสังเกต แล้วให้ใช้เครื่องช็อตไฟฟ้า ช็อตที่บริเวณลำคอของอาม่า ซึ่งบริเวณดังกล่าวจะทำให้ถึงตายได้ แล้วให้พยายามเอาทรัพย์สินของผู้เสียหายไปด้วย เพื่อจะได้อำพรางให้เหมือนกับเป็นการชิงทรัพย์ ส่วนนายช่วงวิทย์ และนายชูเกียรติ ทำหน้าที่คอยดูต้นทางให้ แต่ปรากฏว่า น.ส.เปิ้ลกระทำไม่สำเร็จ และถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัวได้ก่อน
จากการสอบสวน นายคมสัน ให้การรับสารภาพว่า รับจ้างมาจากนายนิวัฒน์ สุวรรณประไพศรี ซึ่งเป็นบุตรบุญธรรมของผู้เสียหาย เพื่อประสงค์เอามรดกของผู้เสียหาย โดยหากทำงานสำเร็จจะให้ค่าจ้าง 200,000 บาท และได้ให้เงินนายคมสัน สำหรับจัดหาคนและใช้เป็นค่าเดินทางก่อนแล้ว จำนวน 80,000 บาท และเคยลงมือมาแล้วกว่า 3 ครั้ง แต่ไม่สำเร็จ จนมาครั้งนี้จึงถูกจับกุมได้
ทางด้าน น.ส.สุวรรณา ให้การว่า นายนิวัฒน์ เป็นบุตรบุญธรรมที่ตนเก็บมาเลี้ยงตั้งแต่อายุได้ 7 วัน จนโตขึ้น นายนิวัฒน์ มีนิสัยชอบเล่นการพนันเป็นอย่างยิ่ง และมักจะมาขอเงินตนเป็นประจำ ก่อนสามีของตนจะเสียชีวิตก็เคยแบ่งมรดกให้จำนวนหนึ่ง เป็นตึกแถวจำนวน 2 คูหา และเงินสดอีกจำนวน 40 ล้านบาท พอสามีตนเสียชีวิตไปแล้วนายนิวัฒน์ก็เริ่มจะไม่เกรงใจตน โดยมาขอเงินอีกบ่อยๆ ซึ่งบางครั้งตนไม่ให้เงินก็จะนำปืนมาวางข่มขู่ให้เกิดความกลัว จนกระทั่งต้องให้แยกบ้านกันอยู่ เพื่อที่จะไม่ให้นายนิวัฒน์มาพบหรือเจออีก จนกระทั่งมาทราบว่านายนิวัฒน์เป็นคนจ้างวานฆ่า ตนรู้สึกเสียใจมาก เพราะรักนายนิวัฒน์เหมือนลูกแท้ๆ อุตส่าห์แบ่งมรดกให้แต่ไม่คิดว่าจะมาเนรคุณได้
ทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้แจ้งข้อหาร่วมกันพยายามฆ่าโดยไตร่ตรองไว้ก่อน พร้อมกับออกหมายจับนายนิวัฒน์แล้วเพื่อจะนำตัวมาดำเนินคดี ซึ่งคาดว่าจะได้ตัวเร็วๆ นี้ ส่วนนายช่วงวิทย์ นายคมสัน นายชูเกียรติ และ น.ส.เปิ้ล จะส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
วันนี้ (17 พ.ย.) เวลา 10.00 น.ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ต.วินัย ทองสอง รรท.ผบช.น. พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน รองผบช.น. พล.ต.ต.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบก.น.6 พ.ต.อ.เสนิต สำราญสำรวจกิจ ผกก.สน.พลับพลาไชย 1 และ พ.ต.ท.สัมพันธ์ เหลืองสัจจกุล สว.สส.สน.พลับพลาไชย 1 แถลงการจับกุมผู้ต้องหารายสำคัญคดีจ้างวานฆ่า น.ส.สุวรรณา สุวรรณประไพรศรี หรืออาม่า อายุ 72 ปี ได้ผู้ต้องหา 4 คน ประกอบด้วย นายช่วงวิทย์ ทรัพย์สำรวย (ม่วง) อายุ 26 ปี อาชีพ เล่นตลกคณะอ่างเถิดเถิง “ตึ่ง ตึ่ง มีเรื่องแล้ว” ทั้งยังเป็นลูกชาย นายสวง ทรัพย์สำรวย หรือ ล้อต๊อก อดีตดาราตลกชื่อดัง ที่เกิดจากภรรยาคนที่ 6 ไม่ทราบบ้านเลขที่ คลองพูล อ.หนองใหญ่ จ.ชลบุรี, นายคมสัน บุญมี (ไล้) อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 152/4 ม.9 ถ.วรรณยิ่ง ต.หน้าเมือง อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา, นายชูเกียรติ แซ่ตั๊น อายุ 39 ปี อยู่บ้านเลขที่ 90/9 ม.9 ต.บางตีนเป็ด อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา และ น.ส.เปิ้ล อายุ 18 ปี พร้อมของกลางเครื่องช็อตไฟฟ้า 1 เครื่อง โทรศัพท์มือถือ 3 เครื่อง โดยจับกุมได้ที่ จ.ฉะเชิงเทรา
พล.ต.ต.วินัย เปิดเผยว่า จากการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ทราบว่า เมื่อวันที่ 15 พ.ย.ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 14.30 น. น.ส.เปิ้ล ได้เข้าไปบีบคอ น.ส.สุวรรณา หรือ อาม่า ผู้เสียหาย จากนั้นใช้เครื่องช็อตไฟฟ้าช็อตที่บริเวณลำคอของผู้เสียหายจำนวนหลายครั้ง โดยมีเจตนาให้ผู้เสียหายถึงแก่ความตาย แต่ทำไม่สำเร็จเนื่องจากผู้เสียหายร้องขอให้คนช่วย จึงถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัวได้พร้อมเครื่องช็อตไฟฟ้า จำนวน 1 เครื่อง เหตุเกิดที่บริเวณหน้าบ้านเลขที่ 251 ถ.เฉลิมเขตร์ 4 แขวงวัดเทพศิรินทร์ เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพฯ
จากการสืบสวนขยายผล น.ส.เปิ้ล ผู้ต้องหารับสารภาพว่า ในการก่อเหตุครั้งนี้ได้ร่วมกับนายช่วงวิทย์ หรือม่วง ทรัพย์สำรวย นายคมสัน หรือ ไล้ บุญมี และนายชูเกียรติ โดยมีการวางแผนเตรียมการร่วมกันมาก่อนที่จะลงมือก่อเหตุในคดีนี้ จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สืบสวนจนทราบว่า นายช่วงวิทย์ นายคมสัน และ นายชูเกียรติ ได้หลบหนีไปพักอยู่ที่ จ.ฉะเชิงเทรา จึงได้ติตามจับกุม นายช่วงวิทย์ นายชูเกียรติ และ นายคมสัน มาสอบสวน โดยทั้ง 3 คนรับสารภาพว่าได้ร่วมกันวางแผนและก่อเหตุฆ่าอาม่า ผู้เสียหายจริง โดยก่อนเกิดเหตุได้มาดูบ้านและชี้เป้ามามากกว่า 3 ครั้ง มีนายคมสันเป็นผู้วางแผน ซึ่งสั่งให้ น.ส.เปิ้ล เป็นผู้ลงมือ เพราะเป็นผู้หญิงจะได้ไม่ผิดสังเกต แล้วให้ใช้เครื่องช็อตไฟฟ้า ช็อตที่บริเวณลำคอของอาม่า ซึ่งบริเวณดังกล่าวจะทำให้ถึงตายได้ แล้วให้พยายามเอาทรัพย์สินของผู้เสียหายไปด้วย เพื่อจะได้อำพรางให้เหมือนกับเป็นการชิงทรัพย์ ส่วนนายช่วงวิทย์ และนายชูเกียรติ ทำหน้าที่คอยดูต้นทางให้ แต่ปรากฏว่า น.ส.เปิ้ลกระทำไม่สำเร็จ และถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัวได้ก่อน
จากการสอบสวน นายคมสัน ให้การรับสารภาพว่า รับจ้างมาจากนายนิวัฒน์ สุวรรณประไพศรี ซึ่งเป็นบุตรบุญธรรมของผู้เสียหาย เพื่อประสงค์เอามรดกของผู้เสียหาย โดยหากทำงานสำเร็จจะให้ค่าจ้าง 200,000 บาท และได้ให้เงินนายคมสัน สำหรับจัดหาคนและใช้เป็นค่าเดินทางก่อนแล้ว จำนวน 80,000 บาท และเคยลงมือมาแล้วกว่า 3 ครั้ง แต่ไม่สำเร็จ จนมาครั้งนี้จึงถูกจับกุมได้
ทางด้าน น.ส.สุวรรณา ให้การว่า นายนิวัฒน์ เป็นบุตรบุญธรรมที่ตนเก็บมาเลี้ยงตั้งแต่อายุได้ 7 วัน จนโตขึ้น นายนิวัฒน์ มีนิสัยชอบเล่นการพนันเป็นอย่างยิ่ง และมักจะมาขอเงินตนเป็นประจำ ก่อนสามีของตนจะเสียชีวิตก็เคยแบ่งมรดกให้จำนวนหนึ่ง เป็นตึกแถวจำนวน 2 คูหา และเงินสดอีกจำนวน 40 ล้านบาท พอสามีตนเสียชีวิตไปแล้วนายนิวัฒน์ก็เริ่มจะไม่เกรงใจตน โดยมาขอเงินอีกบ่อยๆ ซึ่งบางครั้งตนไม่ให้เงินก็จะนำปืนมาวางข่มขู่ให้เกิดความกลัว จนกระทั่งต้องให้แยกบ้านกันอยู่ เพื่อที่จะไม่ให้นายนิวัฒน์มาพบหรือเจออีก จนกระทั่งมาทราบว่านายนิวัฒน์เป็นคนจ้างวานฆ่า ตนรู้สึกเสียใจมาก เพราะรักนายนิวัฒน์เหมือนลูกแท้ๆ อุตส่าห์แบ่งมรดกให้แต่ไม่คิดว่าจะมาเนรคุณได้
ทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้แจ้งข้อหาร่วมกันพยายามฆ่าโดยไตร่ตรองไว้ก่อน พร้อมกับออกหมายจับนายนิวัฒน์แล้วเพื่อจะนำตัวมาดำเนินคดี ซึ่งคาดว่าจะได้ตัวเร็วๆ นี้ ส่วนนายช่วงวิทย์ นายคมสัน นายชูเกียรติ และ น.ส.เปิ้ล จะส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
