โรงพักฉลองกรุงจัดรถผู้ต้องขังรับ-ส่งชาวบ้านน้ำท่วม!

น้ำที่ท่วมจากทางภาคเหนือที่ไหลลงมาสู่ภาคกลางจนท่วมไปทุกที่ ขณะนี้ก็เข้ามาถึง จ.ปทุมธานี ประชิดติด กทม.เข้าไปทุกที ประชาชนที่รออดทนฟังรัฐบาลออกมาประกาศว่า จะไม่ท่วมก็ท่วมไปหมดแล้ว กทม.จึงไม่รู้จะทานไว้ได้นานแค่ไหน เวลานี้ทุกฝ่ายจึงต้องช่วยกันรับมือปัญหานี้ ไม่ว่าจะเป็นส่วนไหนหากร่วมมือกันแม้จะเป็นส่วนเล็กน้อยก็ยังนับเป็นสิ่งดี โดยเฉพาะหน่วยงานรัฐในพื้นที่ที่พอมีเครื่องมืออุปกรณ์ต่างๆ อยู่บ้างหากใช้ความคิดนำมาดัดแปลงก็จะช่วยประชาชนได้มากมาย

อย่างในพื้นที่ สน. ฉลองกรุง ที่ประชาชนในพื้นที่เริ่มได้รับผลกระทบน้ำท่วมในบางจุดประชาชนที่ต้องออกจากบ้านเพื่อไปทำงานนั้นมีความลำบาก แต่เนื่องจากระดับน้ำยังไม่สูงมากทาง กทม. หรือรัฐบาลจึงไปให้ความช่วยเหลือในจุดอื่นก่อน พ.ต.อ.โสภณ พัดเอี่ยม ผกก.สน.ฉลองกรุง ในฐานะที่ดูแลพื้นที่และรับทราบปัญหานี้ จึงเกิดความคิดในการนำรถต้องขังมาดัดแปลง เป็นรถรับ-ส่ง เพื่อช่วยเหลือประชาชน

พ.ต.อ.โสภณ เล่าที่มาของความคิดนี้ว่า หลังจากเห็นน้ำเริ่มท่วมในพื้นที่จึงได้ไปคุยกับประชาชนก็พบความเดือดร้อนในการเดินทางต้องออกไปทำงานในตอนเช้า และเดินทางกลับในตอนเย็น โดยเฉพาะชุมชนต่างๆ เช่น ชุมชนลำพุทรา เนื่องจากมีลักษณะเป็นตรอกซอย บางช่วงมีบึง ทำให้น้ำเอ่อท่วม ตั้งแต่ระดับเข่า ถึงระดับเอว เห็นว่าที่ สน.ฉลองกรุง มีรถผู้ต้องขังซึ่งค่อนข้างสูงอีกทั้งเวลาที่ใช้ก็แค่ช่วงสายของวันที่ต้องนำผู้ต้องหาไปส่งฝากขังที่ศาล จึงน่าจะนำมาใช้รับส่งประชาชนได้

“ผมได้เริ่มโครงการนี้ไปเมื่อช่วงกลางสัปดาห์ก่อน โดยได้ประสานกับประธานชุมชนในพื้นที่ในการประชาสัมพันธ์และจัดจุดรับส่งประชาชน ซึ่งก็ได้รับเสียงตอบรับที่ดีจากผู้ที่มาใช้บริการ เพราะทำให้การเดินทางได้สะดวกและเราก็ไม่ได้คิดค่าใช้จ่าย โดยขณะนี้ เน้นให้บริการผู้ที่ต้องออกไปทำงาน จึงจัดรถให้บริการใน 2 ช่วงคือช่วงเช้าตั้งแต่เวลา 6 ถึง 8 โมงเช้า และช่วงเย็นประมาณ 4 โมงเย็น ถึง 1 ทุ่ม เฉลี่ยแล้วรับส่งคนวันละ 100 กว่าคน แต่หากประชาชนคนใดที่จำเป็นจริงต้องกลับเกินเวลาจากนั้นก็สามารถมาที่ สน.ฉลองกรุง เราก็ยินจัดรถไปส่งให้ เพราะน้ำบางช่วงรถเล็กสัญจรลำบากและอันตราย”

พ.ต.อ.โสภณ บอกอีกว่า โชคดีที่ช่วงนี้ยังเป็นช่วงปิดเทอมจึงยังมีคนมาใช้บริการไม่มากส่วนใหญ่เป็นผู้ใหญ่ และรถผู้ต้องขังที่นำมาให้บริการตอนนี้มีเพียงแค่คันเดียว อีกคันเป็นคันเก่าที่ยังเสียอยู่ แต่หากภาวะน้ำท่วมยังเลยไปถึงช่วงเปิดเทอมก็ได้สั่งการให้เตรียมซ่อมรถผู้ต้องขังอีกคัน เพื่อให้สามารถรับส่งคนได้เพิ่มขึ้นด้วย

น้ำท่วมปีนี้ไม่รู้ว่าจะรุนแรง หรือกินระยะเวลาอีกนานแค่ไหน แต่หากหน่วยงานในพื้นที่ ที่พอมีสรรพกำลัง อุปกรณ์ ที่มีอยู่นำมาใช้ให้เป็นประโยชน์ด้วยแนวความคิด ความเสียสละเพื่อประชาชนเช่นนี้ ก็จะเป็นการแบ่งเบาปัญหา หากทุกฝ่ายช่วยกันแม้จะเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่ก็จะทำให้ฝ่าฟันปัญหาน้ำท่วมไปได้อย่างแน่นอน