รวบฝาแฝดหนุ่มใหญ่ทำหน้าที่เป็นม้าเร็วคอยตระเวนกดถอนเงินของเหยื่อที่ถูกหลอกออกจากตู้เอทีเอ็ม สารภาพก่อนหน้านี้ทำฟันปลอมขาย กิจการไม่ดีเลยเลิกทำ จนมาเจอคนจีนที่พูดไทยได้ในบ่อนชักชวนมาทำงานนี้ จะได้ส่วนแบ่ง 3 เปอร์เซ็นต์ของยอดเงินที่ถอน ทำมาเดือนเศษมูลค่ากว่า 1 ล้าน
วันนี้ (18 ต.ค.) เวลา 11.00 น. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ อาคารกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง พล.ต.ต.ปัญญา มาเม่น รอง ผบช.ก. พล.ต.ต.อดิศร์ งามจิตสุขศรี ผบก.ทท. พร้อมด้วยพล.ต.ต.โกวิทย์ วงศ์รุ่งโรจน์ ผบก.ปอศ. แถลงการจับกุมนายพลเชษฐ์ และนายเอนก มั่งคั่ง อายุ 50 ปี ชาว กทม. ซึ่งเป็นพี่น้องฝาแฝด พร้อมของกลางบัตรอิเล็กทรอนิกส์ หรือบัตรเอทีเอ็มของธนาคารไทยพาณิชย์ 5 ใบ ธนาคารกรุงเทพ 3 ใบ ธนาคารกสิกรไทย 2 ใบ กระเป๋าสะพาย 1 ใบ โทรศัพท์มือถือและซิมการ์ด พร้อมใช้งาน จำนวน 4 เครื่อง
พล.ต.ต.ปัญญาเปิดเผยว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจาก พ.ต.ท.สถิตย์ พรมอุทัย รองผกก.1 บก.ทท. พ.ต.ต.จักรกริช เสรีบุตร สว.งานสืบสวน กก.1 บก.ทท. พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจงานสืบสวน กก.1 บก.ทท. ได้รับแจ้งข้อมูลจากธนาคารกรุงเทพ จำกัด(มหาชน) และธนาคาร กสิกรไทย ว่า มีกลุ่มม้าถอนเงิน โดยจะทำหน้าที่นำบัตรเอทีเอ็มมาถอนเงินสดออกจากตู้เอทีเอ็มเมื่อสามารถหลอกเหยื่อได้สำเร็จ ซึ่งทางธนาคารได้ส่งภาพถ่ายของคนร้ายมาประกอบในการติดตาม โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้วางกำลังเฝ้าสังเกตการณ์ที่ ห้างเดอะมอลล์ สาขาบางกะปิ พบผู้ต้องสงสัย 2 คน ท่าทางมีพิรุธ อยู่บริเวณลานจอดรถ ชั้น 3A จึงได้แสดงตัวขอตรวจค้นพบของกลางดังกล่าว และควบคุมตัวมาดำเนินคดี
จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การว่า ก่อนหน้านี้มีอาชีพทำฟันปลอมขาย แต่กิจการไม่ดี จึงเลิกทำ และได้รู้มาจักกับคนจีนที่พูดภาษาไทยได้ ในสถานที่เล่นการพนัน จึงถูกชักชวน โดยตนมีหน้าที่รอรับโทรศัพท์ ซึ่งเมื่อมีเงินที่หลอกลวงได้จากผู้อื่นนำเข้าบัญชีแล้ว ตนจะนำบัตรเอทีเอ็มไปกดเงินจากตู้เอทีเอ็ม ซึ่งจะได้ค่าตอบแทนเป็นเงิน จำนวน 3 เปอร์เซ็นต์ ของยอดเงินที่ถอน ทั้งนี้ ทำมาแล้ว 1 เดือนเศษ มูลค่ากว่า 1 ล้านบาท ซึ่งตอนแรกคนจีนบอกว่าเป็นบัตรเอทีเอ็มของชาวต่างชาติ แต่พอกดมาแล้วจึงรู้ว่าเป็นของคนไทย จึงรู้สึกผิดและเสียใจ
ทั้งนี้ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อกล่าวหาร่วมกันมีไว้เพื่อนำออกใช้ซึ่งบัตรอิเล็กทรอนิกส์ที่เกิดความเสียหายต่อผู้อื่น พร้อมนำตัวส่งพนักงานสอบสวน บก.ปอศ.ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
วันนี้ (18 ต.ค.) เวลา 11.00 น. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ อาคารกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง พล.ต.ต.ปัญญา มาเม่น รอง ผบช.ก. พล.ต.ต.อดิศร์ งามจิตสุขศรี ผบก.ทท. พร้อมด้วยพล.ต.ต.โกวิทย์ วงศ์รุ่งโรจน์ ผบก.ปอศ. แถลงการจับกุมนายพลเชษฐ์ และนายเอนก มั่งคั่ง อายุ 50 ปี ชาว กทม. ซึ่งเป็นพี่น้องฝาแฝด พร้อมของกลางบัตรอิเล็กทรอนิกส์ หรือบัตรเอทีเอ็มของธนาคารไทยพาณิชย์ 5 ใบ ธนาคารกรุงเทพ 3 ใบ ธนาคารกสิกรไทย 2 ใบ กระเป๋าสะพาย 1 ใบ โทรศัพท์มือถือและซิมการ์ด พร้อมใช้งาน จำนวน 4 เครื่อง
พล.ต.ต.ปัญญาเปิดเผยว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจาก พ.ต.ท.สถิตย์ พรมอุทัย รองผกก.1 บก.ทท. พ.ต.ต.จักรกริช เสรีบุตร สว.งานสืบสวน กก.1 บก.ทท. พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจงานสืบสวน กก.1 บก.ทท. ได้รับแจ้งข้อมูลจากธนาคารกรุงเทพ จำกัด(มหาชน) และธนาคาร กสิกรไทย ว่า มีกลุ่มม้าถอนเงิน โดยจะทำหน้าที่นำบัตรเอทีเอ็มมาถอนเงินสดออกจากตู้เอทีเอ็มเมื่อสามารถหลอกเหยื่อได้สำเร็จ ซึ่งทางธนาคารได้ส่งภาพถ่ายของคนร้ายมาประกอบในการติดตาม โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้วางกำลังเฝ้าสังเกตการณ์ที่ ห้างเดอะมอลล์ สาขาบางกะปิ พบผู้ต้องสงสัย 2 คน ท่าทางมีพิรุธ อยู่บริเวณลานจอดรถ ชั้น 3A จึงได้แสดงตัวขอตรวจค้นพบของกลางดังกล่าว และควบคุมตัวมาดำเนินคดี
จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การว่า ก่อนหน้านี้มีอาชีพทำฟันปลอมขาย แต่กิจการไม่ดี จึงเลิกทำ และได้รู้มาจักกับคนจีนที่พูดภาษาไทยได้ ในสถานที่เล่นการพนัน จึงถูกชักชวน โดยตนมีหน้าที่รอรับโทรศัพท์ ซึ่งเมื่อมีเงินที่หลอกลวงได้จากผู้อื่นนำเข้าบัญชีแล้ว ตนจะนำบัตรเอทีเอ็มไปกดเงินจากตู้เอทีเอ็ม ซึ่งจะได้ค่าตอบแทนเป็นเงิน จำนวน 3 เปอร์เซ็นต์ ของยอดเงินที่ถอน ทั้งนี้ ทำมาแล้ว 1 เดือนเศษ มูลค่ากว่า 1 ล้านบาท ซึ่งตอนแรกคนจีนบอกว่าเป็นบัตรเอทีเอ็มของชาวต่างชาติ แต่พอกดมาแล้วจึงรู้ว่าเป็นของคนไทย จึงรู้สึกผิดและเสียใจ
ทั้งนี้ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อกล่าวหาร่วมกันมีไว้เพื่อนำออกใช้ซึ่งบัตรอิเล็กทรอนิกส์ที่เกิดความเสียหายต่อผู้อื่น พร้อมนำตัวส่งพนักงานสอบสวน บก.ปอศ.ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป