จับได้แล้ว มือจี้แบงก์กรุงเทพ ใน ม.หอการค้าไทย เป็นนักศึกษาที่หมดสภาพการเป็นนักศึกษาไปแล้ว เพราะไม่ได้มาลงทะเบียนเรียนถึง 6 เดือน หลังหนีไปกบดานกับแฟนสาวที่เกาะล้าน โดยพบเงินสดเหลือเพียง 389,600 บาท นอกนั้นนำไปใช้ลงทะเบียนเรียนต่อและค่าลงทะเบียนให้แฟนสาวเรียน ป.โท
วันนี้ (7 ต.ค.) เมื่อเวลา 10.00 น.ที่มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ตึก 7 ห้องสมาคมศิษย์เก่ามหาวิทยาลัยหอการค้าไทย พล.ต.ท. จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบช.น. พล.ต.ต.อิทธิพล พิริยะภิญโญ รองผบช.น. พล.ต.ต.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบก.น.2 พล.ต.ต.รณศิลป์ ภู่สาระ ผบก.สส.บช.น.และเจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.น.2 ตำรวจ สน.สุทธิสาร ร่วมแถลงการจับกุม นายพิศุทธิ์ เจริญสุข อายุ 24 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลอาญาเลขที่ 1623/2554 ในข้อหาชิงทรัพย์โดยใช้อาวุธปืน และใช้ยานพาหนะเพื่อกระทำผิด หรือนำพาทรัพย์นั้นไปเพื่อหลบหนีการจับกุม พกพาอาวุธปืน และเครื่องกระสุนปืนไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยสามารถติดตามจับกุมได้ที่ มนตารีสอร์ท เกาะล้าน เลขที่ 234 ม.7 ต.เกาะล้าน อ.บางละมุง จ.ชลบุรี เมื่อวันที่ 6 ต.ค.เวลา 18.30 น.ที่ผ่านมา
พล.ต.ท.จักรทิพย์ เปิดเผยว่า หลังจากที่ดำเนินการสืบสอบติดตามคนร้ายมาดำเนินคดี ปรากฏว่า วันที่ 2 ต.ค.ได้ทราบตัวคนร้าย ชื่อ นายพิศุทธิ์ เจริญสุข ซึ่งเป็นนักศึกษาเก่าที่สถาบันแห่งนี้ ที่หมดสภาพการเป็นนักศึกษาไปแล้ว เพราะไม่ได้มาลงทะเบียนเรียนเป็นเวลา 6 เดือนแล้ว จึงได้ทำการขออนุมัติหมายจับ หลังจากนั้น ได้ทำการสืบสวน สามารถจับกุมตัวได้ที่ มนตารีสอร์ท เกาะล้าน ดังกล่าว พร้อมของกลางหลายรายการ อาทิ เงินสดทั้งหมด 389,600 บาท อาวุธปืนลูกซองสั้นไทยประดิษฐ์ 1 กระบอก พร้อมกระสุนปืน 1 นัด เครื่องแต่งกายที่สวมใส่ในวันก่อเหตุ ประกอบด้วย เสื้อยืดสีดำ, กางเกงยีนส์สีดำ, รองเท้าผ้าใบ และถุงผ้าสีขาวที่ใช่ใส่เงิน จำนวน 1 ใบ จากนั้นนำตัวเข้ามาสอบสวนที่ กทม.
“การทำงานของตำรวจนครบาล สำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ และการประสานข้อมูลจากผู้บริหารของมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ทำให้สามารถดำเนินการจับคนร้ายได้อย่างรวดเร็ว โดยคดีนี้ใช้เวลาทั้งหมดเพียง 5 วัน” พล.ต.ท.จักรทิพย์ กล่าว
ด้าน นายพิศุทธิ์ ให้การว่า เป็นคนโคราช ก่อนหน้านี้ เคยกู้เงินเรียนจากทาง กยศ.แต่ไม่ผ่าน เงินจึงไม่พอใช้จ่าย ทั้งนี้ ได้วางแผนที่จะปล้นล่วงหน้าเพียงแค่ 1 วัน และที่เลือกธนาคารแห่งนี้เพราะเห็นว่าเงียบดี มีคนไม่มาก จากนั้นได้นำเงินบางส่วนไปลงทะเบียนเรียน และบางส่วนนำไปให้แฟนสาวจ่ายค่าเทอม ปริญญาโท ที่มหาวิทยาลัยอีกแห่งหนี่ง โดยทางบ้านไม่ทราบว่านำเงินมาจากไหน
“ผมรู้ตัวแล้วว่าจะถูกจับ เพราะภาพที่ออกทางสื่อจำนานมาก จึงชวนแฟนสาวไปเที่ยวที่ดังกล่าว เพื่อทำใจ แต่ก็มาถูกจับกุมได้ในที่สุด” นายพิศุทธิ์ กล่าว
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวคนร้ายไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพทุกขั้นตอนการลงมือก่อเหตุ ตั้งแต่ชี้จุดทางเข้าธนาคารด้านในตึก 7 ต่อมาคนร้ายมายืนอยู่หน้าตู้เอทีเอ็มแกล้งเขียนใบฝากเงินนำไปยื่นกับพนักงานหน้าเคาน์เตอร์พร้อมกับใช้ปืนจี้ แล้วคนร้ายปีนเคาน์เตอร์เข้าไปด้านในบังคับพนักงานธนาคารให้เปิดตู้เซฟ แล้วออกจากธนาคารด้านหน้าของตึกดังกล่าว หลบหนีโดยใช้เส้นทางถนนวิภาวดี หลังจากทำแผนเสร็จจึงนำตัวไปดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
วันนี้ (7 ต.ค.) เมื่อเวลา 10.00 น.ที่มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ตึก 7 ห้องสมาคมศิษย์เก่ามหาวิทยาลัยหอการค้าไทย พล.ต.ท. จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบช.น. พล.ต.ต.อิทธิพล พิริยะภิญโญ รองผบช.น. พล.ต.ต.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบก.น.2 พล.ต.ต.รณศิลป์ ภู่สาระ ผบก.สส.บช.น.และเจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.น.2 ตำรวจ สน.สุทธิสาร ร่วมแถลงการจับกุม นายพิศุทธิ์ เจริญสุข อายุ 24 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลอาญาเลขที่ 1623/2554 ในข้อหาชิงทรัพย์โดยใช้อาวุธปืน และใช้ยานพาหนะเพื่อกระทำผิด หรือนำพาทรัพย์นั้นไปเพื่อหลบหนีการจับกุม พกพาอาวุธปืน และเครื่องกระสุนปืนไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยสามารถติดตามจับกุมได้ที่ มนตารีสอร์ท เกาะล้าน เลขที่ 234 ม.7 ต.เกาะล้าน อ.บางละมุง จ.ชลบุรี เมื่อวันที่ 6 ต.ค.เวลา 18.30 น.ที่ผ่านมา
พล.ต.ท.จักรทิพย์ เปิดเผยว่า หลังจากที่ดำเนินการสืบสอบติดตามคนร้ายมาดำเนินคดี ปรากฏว่า วันที่ 2 ต.ค.ได้ทราบตัวคนร้าย ชื่อ นายพิศุทธิ์ เจริญสุข ซึ่งเป็นนักศึกษาเก่าที่สถาบันแห่งนี้ ที่หมดสภาพการเป็นนักศึกษาไปแล้ว เพราะไม่ได้มาลงทะเบียนเรียนเป็นเวลา 6 เดือนแล้ว จึงได้ทำการขออนุมัติหมายจับ หลังจากนั้น ได้ทำการสืบสวน สามารถจับกุมตัวได้ที่ มนตารีสอร์ท เกาะล้าน ดังกล่าว พร้อมของกลางหลายรายการ อาทิ เงินสดทั้งหมด 389,600 บาท อาวุธปืนลูกซองสั้นไทยประดิษฐ์ 1 กระบอก พร้อมกระสุนปืน 1 นัด เครื่องแต่งกายที่สวมใส่ในวันก่อเหตุ ประกอบด้วย เสื้อยืดสีดำ, กางเกงยีนส์สีดำ, รองเท้าผ้าใบ และถุงผ้าสีขาวที่ใช่ใส่เงิน จำนวน 1 ใบ จากนั้นนำตัวเข้ามาสอบสวนที่ กทม.
“การทำงานของตำรวจนครบาล สำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ และการประสานข้อมูลจากผู้บริหารของมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ทำให้สามารถดำเนินการจับคนร้ายได้อย่างรวดเร็ว โดยคดีนี้ใช้เวลาทั้งหมดเพียง 5 วัน” พล.ต.ท.จักรทิพย์ กล่าว
ด้าน นายพิศุทธิ์ ให้การว่า เป็นคนโคราช ก่อนหน้านี้ เคยกู้เงินเรียนจากทาง กยศ.แต่ไม่ผ่าน เงินจึงไม่พอใช้จ่าย ทั้งนี้ ได้วางแผนที่จะปล้นล่วงหน้าเพียงแค่ 1 วัน และที่เลือกธนาคารแห่งนี้เพราะเห็นว่าเงียบดี มีคนไม่มาก จากนั้นได้นำเงินบางส่วนไปลงทะเบียนเรียน และบางส่วนนำไปให้แฟนสาวจ่ายค่าเทอม ปริญญาโท ที่มหาวิทยาลัยอีกแห่งหนี่ง โดยทางบ้านไม่ทราบว่านำเงินมาจากไหน
“ผมรู้ตัวแล้วว่าจะถูกจับ เพราะภาพที่ออกทางสื่อจำนานมาก จึงชวนแฟนสาวไปเที่ยวที่ดังกล่าว เพื่อทำใจ แต่ก็มาถูกจับกุมได้ในที่สุด” นายพิศุทธิ์ กล่าว
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวคนร้ายไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพทุกขั้นตอนการลงมือก่อเหตุ ตั้งแต่ชี้จุดทางเข้าธนาคารด้านในตึก 7 ต่อมาคนร้ายมายืนอยู่หน้าตู้เอทีเอ็มแกล้งเขียนใบฝากเงินนำไปยื่นกับพนักงานหน้าเคาน์เตอร์พร้อมกับใช้ปืนจี้ แล้วคนร้ายปีนเคาน์เตอร์เข้าไปด้านในบังคับพนักงานธนาคารให้เปิดตู้เซฟ แล้วออกจากธนาคารด้านหน้าของตึกดังกล่าว หลบหนีโดยใช้เส้นทางถนนวิภาวดี หลังจากทำแผนเสร็จจึงนำตัวไปดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
