นครบาลสนอง “เหลิม” เดินหน้าปราบยานรก!

นครบาลเปิดสัมมนาโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการตรวจยึดทรัพย์ และขยายการจับกุมเครือข่ายค้ายาเสพติด ตามแผนวาระตำรวจแห่งชาติ ขณะที่ รอง ผบช.น.ยันจะไม่ทำแบบไฟไหม้ฟาง แต่จะเดินหน้าปราบปรามอบายมุขอย่างต่อเนื่อง เกิดศักยภาพสนองนโยบาย “เป็ดเหลิม” ที่กำชับไว้

วันนี้ (3 ต.ค.) เมื่อเวลา 10.30 น. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) ณ ห้องประชุมใหญ่ บช.น. พล.ต.ต.อิทธิพล พิริยะภิญโญ รอง ผบช.น. และพล.ต.ต.สมชาย พัชรอินโต ผบก.น.5 ได้เข้าร่วมสัมมนาเปิดโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการตรวจยึดทรัพย์ และขยายการจับกุมเครือข่ายผู้เกี่ยวข้องยาเสพติด เพื่ออบรมให้ความรู้แก่ข้าราชการตำรวจ ระดับผู้ปฏิบัติการในสังกัดจำนวน 250 นาย

พล.ต.ต.อิทธิพลกล่าวว่า การสัมมนาในครั้งนี้เป็นเรื่องที่อยู่ในแผนวาระตำรวจแห่งชาติอยู่แล้ว ซึ่งจะเน้นในเรื่องการขยายผลในการเพิ่มมาตรการบทลงโทษในการยึดทรัพย์สินของผู้จำหน่ายยาเสพติด โดยใช้กฎหมายทุกฎหมายมาเป็นส่วนช่วยในการขยายผล เพื่อสืบไปถึงตัวการค้ายาเสพติด ตามที่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรีได้กำชับสั่งการไว้

พล.ต.ต.อิทธิพลกล่าวอีกว่า ขณะนี้ พล.ต.ท.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบช.น.ได้มอบหมายให้กองสืบสวน 2 ดำเนินการอยู่ โดย กทม.มีการระบาดของยาเสพติดประมาณ 35 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งแบ่งเป็นพื้นที่ละ 120 ชุมชน โดยในท้องที่ บก.น.5 มีด้วยกัน 2 สน.ได้แก่ สน.บางนา สน.ทุ่งมหาเมฆ และพื้นที่รอยต่อวัดพระยาไกร และคลองเตย โดยได้กำชับตำรวจทุกคนที่เข้าร่วมการอบรม ให้ศึกษากฎหมายเกี่ยวกับการปราบปราม และยึดทรัพย์ผู้ค้ายาเสพติดอย่างละเอียดรอบคอบ พร้อมประสานข้อมูลกับตำรวจในพื้นที่อื่น เพื่อให้การจับกุมเครือข่ายค้ายาเสพติดเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น และให้ทุก สน.ทำการปิดล้อมตรวจค้นตามสถานบันเทิง และสถานบริการ พร้อมทั้งตั้งด่านตรวจค้นตามช่วงเวลาที่ได้วางแผนไว้

“การทำโครงการในครั้งนี้ไม่เป็นแบบไฟไหม้ฟางแน่นอน เพราะทางรองนายกรัฐมนตรีเป็นตำรวจเก่ามาก่อน ย่อมรู้ดีว่าควรจะดำเนินการต่อไปอย่างไร และยืนยันว่าโครงการนี้จะมีการดำเนินการต่อไปอย่างต่อเนื่อง ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเองคงไม่กล้าทำแบบไฟไหม้ฟางและเชื่อว่าตำรวจได้ให้ความสำคัญและเต็มที่กับการทำงานอยู่แล้ว” พล.ต.ต.อิทธิพลกล่าว

พล.ต.ต.อิทธิพลกล่าวต่อว่า ในพื้นที่สีแดงที่กำลังมีการแพร่ระบาดของยาเสพติด มีด้วยกัน 20 สน.120 ชุมชน ส่วนที่ไม่อยู่ในเขตพื้นที่สีแดงมีประมาณกว่า 8 หมื่นราย ซึ่งได้มีการจัดตั้งโครงการชุมชนสีขาวเป็นโครงการบำบัดให้แก่ผู้เสพยาเสพติดที่ต้องการเลิกยาอย่างเด็ดขาดและมีความสมัครใจในการเข้าร่วมโครงการ โดยให้ทุก สน.เข้ามามีส่วมร่วม แบ่งเป็น สน.ละ 3 ชุมชน ในการรับผิดชอบภายในพื้นที่ดังกล่าวด้วย