ตัวแทนชาวบ้านบนเกาะสีชังยื่นหนังสือร้องเรียนต่อ ป.ป.ช. ให้เร่งตรวจสอบความไม่ชอบมาพากลของโครงการก่อสร้างถนน และปรับภูมิทัศน์บนเกาะช่วงช่องเขาขาด ทั้งที่เรื่องถูกระงับไปแต่ยังอนุมัติงบ 24 ล้านให้ดำเนินการ หวั่นเรื่องเงียบจนทำให้มรดกโลกถูกบุกรุกมิชอบ
วันนี้ (22 ก.ย.) เมื่อเวลา 11.00 น. ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ถนนสนามบินน้ำ อ.เมือง จ.นนทบุรี นายณัฐพล วงษ์มณีวรรณ์ อายุ 26 ปี พร้อมด้วยกลุ่มตัวแทนชาวบ้านที่อาศัยอยู่บนเกาะสีชังจำนวนหนึ่งได้เดินทางมายังสำนักงาน ป.ป.ช.เพื่อยื่นเรื่องร้องเรียนถึงความไม่ชอบมาพากลของโครงการก่อสร้างถนนและปรับปรุงภูมิทัศน์บนเกาะสีชัง บริเวณช่องอิศิรยาภรณ์ หรือช่องเขาขาด ที่นายดำรงค์ เภตรา นายกเทศบาลตำบลเกาะสีชัง เป็นผู้อนุมัติงบประมาณการก่อสร้าง เพื่อเข้าก่อสร้างถนนในพื้นที่อนุรักษ์ป่าสงวนโดยไม่ได้รับอนุญาตจากกรมป่าไม้ จนกระทั่งถูกเจ้าหน้าที่ป่าไม้แจ้งความดำเนินคดี นอกจากนี้ยังถูกกรมเจ้าท่าแจ้งความดำเนินคดีก่อสร้างเขื่อนรุกล้ำไปในทะเลโดยไม่ได้รับอนุญาต กระทั่งโครงการก่อสร้างดังกล่าวทั้งหมดถูกระงับไว้ เนื่องจากถูกกรมเจ้าท่า กรมป่าไม้ กรมที่ดิน และทางอำเภอเกาะสีชังได้เข้าแจ้งความเพื่อดำเนินคดีที่ สภ.เกาะสีชัง ไปแล้วนั้นตั้งแต่ปี 2552 ปรากฏว่าต่อมาทางเทศบาลเกาะสีชังยังคงมีการอนุมัติเงินจำนวน 24 ล้านบาท เพื่อเข้าไปดำเนินการก่อสร้างต่อ ทั้งๆ ที่โครงการดังกล่าวยังถูกระงับการก่อสร้าง ซึ่งต่อมาคณะกรรมาธิการการปกครองส่วนท้องถิ่น ได้นำเรื่องดังกล่าวมาพิจารณาแล้วมีความเห็นว่า นายดำรงค์ เภตรา นายกเทศบาลตำบลเกาะสีชัง กระทำความผิดจริง จึงทำเรื่องสรุปทั้งหมดส่งมาให้ทาง ป.ป.ช.พิจารณาคดีดังกล่าว ตั้งแต่ปี 2552 แต่เรื่องกลับเงียบหายไป จนชาวบ้านเป็นห่วงว่า หาก ปปช.ยังไม่หยิบเรื่องดังกล่าวมาพิจารณาให้เร็ว หลังปล่อยผ่านมา 2 ปี ก็จะทำให้เกาะสีชังซึ่งเป็นมรดกโลก และมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ตั้งแต่สมัย ร.4 และปัจจุบันยังคงเป็นพื้นที่ป่าอนุรักษ์ ถูกเทศบาลดันทุรังเข้าไปบุกรุกก่อสร้างสิ่งแปลกปลอม จนทำให้เสียภูมิทัศน์ในพื้นที่ส่วนอนุรักษ์ของเกาะสีชังไป
นายณัฐพลกล่าวว่า พวกตนเชื่อว่าการกระทำดังกล่าวของนายกเทศบาลตำบลเกาะสีชัง น่าจะมีการทุจริตงบประมาณก่อสร้าง จึงอยากให้ทาง ป.ป.ช.เร่งพิจารณาคดีดังกล่าวให้รวดเร็ว ก่อนที่พื้นที่อนุรักษ์ป่าของเกาะสีชังจะถูกทำลายมากไปกว่านี้ และหากยังไม่มีความคืบหน้าอีก ชาวบ้านบนเกาะจะรวมตัวกันมาปักหลักประท้วงที่หน้าสำนักงาน ป.ป.ช.ต่อไป
อย่างไรก็ตาม นายไกรวัลย์ เตียงตั้ง เจ้าพนักงานปราบปรามการทุจริต ฝ่ายปฏิบัติการ ของ ป.ป.ช.ซึ่งลงมารับเรื่องร้องเรียนกับตัวแทนชาวบ้านบนเกาะสีชัง กล่าวว่า ตนเพิ่งรับโอนคดีดังกล่าวจากเจ้าหน้าที่คนเก่าได้เพียง 2 เดือน จึงเพิ่งนำเรื่องนี้ขึ้นมาพิจารณา แต่เนื่องจากขั้นตอนในการปฏิบัติมีหลายขั้นตอนและต้องใช้ระยะเวลาในการทำแผนงานเพื่อลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง ก่อนจะนำเรื่องเสนอผู้ใหญ่ต่อไป ทั้งนี้ หลังจากได้รับเรื่องร้องเรียนจากชาวบ้านแล้ว ตนจะเร่งดำเนินการทำแผนงานให้แล้วเสร็จ เพื่อลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงในเรื่องนี้ให้เร็วขึ้นก่อนปลายปีนี้แน่นอน
วันนี้ (22 ก.ย.) เมื่อเวลา 11.00 น. ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ถนนสนามบินน้ำ อ.เมือง จ.นนทบุรี นายณัฐพล วงษ์มณีวรรณ์ อายุ 26 ปี พร้อมด้วยกลุ่มตัวแทนชาวบ้านที่อาศัยอยู่บนเกาะสีชังจำนวนหนึ่งได้เดินทางมายังสำนักงาน ป.ป.ช.เพื่อยื่นเรื่องร้องเรียนถึงความไม่ชอบมาพากลของโครงการก่อสร้างถนนและปรับปรุงภูมิทัศน์บนเกาะสีชัง บริเวณช่องอิศิรยาภรณ์ หรือช่องเขาขาด ที่นายดำรงค์ เภตรา นายกเทศบาลตำบลเกาะสีชัง เป็นผู้อนุมัติงบประมาณการก่อสร้าง เพื่อเข้าก่อสร้างถนนในพื้นที่อนุรักษ์ป่าสงวนโดยไม่ได้รับอนุญาตจากกรมป่าไม้ จนกระทั่งถูกเจ้าหน้าที่ป่าไม้แจ้งความดำเนินคดี นอกจากนี้ยังถูกกรมเจ้าท่าแจ้งความดำเนินคดีก่อสร้างเขื่อนรุกล้ำไปในทะเลโดยไม่ได้รับอนุญาต กระทั่งโครงการก่อสร้างดังกล่าวทั้งหมดถูกระงับไว้ เนื่องจากถูกกรมเจ้าท่า กรมป่าไม้ กรมที่ดิน และทางอำเภอเกาะสีชังได้เข้าแจ้งความเพื่อดำเนินคดีที่ สภ.เกาะสีชัง ไปแล้วนั้นตั้งแต่ปี 2552 ปรากฏว่าต่อมาทางเทศบาลเกาะสีชังยังคงมีการอนุมัติเงินจำนวน 24 ล้านบาท เพื่อเข้าไปดำเนินการก่อสร้างต่อ ทั้งๆ ที่โครงการดังกล่าวยังถูกระงับการก่อสร้าง ซึ่งต่อมาคณะกรรมาธิการการปกครองส่วนท้องถิ่น ได้นำเรื่องดังกล่าวมาพิจารณาแล้วมีความเห็นว่า นายดำรงค์ เภตรา นายกเทศบาลตำบลเกาะสีชัง กระทำความผิดจริง จึงทำเรื่องสรุปทั้งหมดส่งมาให้ทาง ป.ป.ช.พิจารณาคดีดังกล่าว ตั้งแต่ปี 2552 แต่เรื่องกลับเงียบหายไป จนชาวบ้านเป็นห่วงว่า หาก ปปช.ยังไม่หยิบเรื่องดังกล่าวมาพิจารณาให้เร็ว หลังปล่อยผ่านมา 2 ปี ก็จะทำให้เกาะสีชังซึ่งเป็นมรดกโลก และมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ตั้งแต่สมัย ร.4 และปัจจุบันยังคงเป็นพื้นที่ป่าอนุรักษ์ ถูกเทศบาลดันทุรังเข้าไปบุกรุกก่อสร้างสิ่งแปลกปลอม จนทำให้เสียภูมิทัศน์ในพื้นที่ส่วนอนุรักษ์ของเกาะสีชังไป
นายณัฐพลกล่าวว่า พวกตนเชื่อว่าการกระทำดังกล่าวของนายกเทศบาลตำบลเกาะสีชัง น่าจะมีการทุจริตงบประมาณก่อสร้าง จึงอยากให้ทาง ป.ป.ช.เร่งพิจารณาคดีดังกล่าวให้รวดเร็ว ก่อนที่พื้นที่อนุรักษ์ป่าของเกาะสีชังจะถูกทำลายมากไปกว่านี้ และหากยังไม่มีความคืบหน้าอีก ชาวบ้านบนเกาะจะรวมตัวกันมาปักหลักประท้วงที่หน้าสำนักงาน ป.ป.ช.ต่อไป
อย่างไรก็ตาม นายไกรวัลย์ เตียงตั้ง เจ้าพนักงานปราบปรามการทุจริต ฝ่ายปฏิบัติการ ของ ป.ป.ช.ซึ่งลงมารับเรื่องร้องเรียนกับตัวแทนชาวบ้านบนเกาะสีชัง กล่าวว่า ตนเพิ่งรับโอนคดีดังกล่าวจากเจ้าหน้าที่คนเก่าได้เพียง 2 เดือน จึงเพิ่งนำเรื่องนี้ขึ้นมาพิจารณา แต่เนื่องจากขั้นตอนในการปฏิบัติมีหลายขั้นตอนและต้องใช้ระยะเวลาในการทำแผนงานเพื่อลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง ก่อนจะนำเรื่องเสนอผู้ใหญ่ต่อไป ทั้งนี้ หลังจากได้รับเรื่องร้องเรียนจากชาวบ้านแล้ว ตนจะเร่งดำเนินการทำแผนงานให้แล้วเสร็จ เพื่อลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงในเรื่องนี้ให้เร็วขึ้นก่อนปลายปีนี้แน่นอน
