เพชรบุรี - นักวิชาการขนส่งชำนาญการ สำนักงานการขนส่งทางน้ำที่ 3 สาขาเพชรบุรี หัวหน้าฝ่ายคุ้มครองและป้องกันทรัพยากรป่าชายเลน ส่วนบริหารจัดการทรัพยากรป่าชายเลนที่ 5 เพชรบุรี นำกำลังบุกจับเจ้าของร้านอาหารเรือแลเล หลังพบปลูกสิ่งปลูกสร้างลุกล้ำลำน้ำและป่าชายเลน
เมื่อเวลา 13.00 น.วันนี้ (16 ส.ค.) นายปณัย หนูแท้ นักวิชาการขนส่งชำนาญการ สำนักงานการขนส่งทางน้ำที่ 3 สาขาเพชรบุรี พร้อมด้วย นายรัชชัย พรพา หัวหน้าฝ่ายคุ้มครองและป้องกันทรัพยากรป่าชายเลน ส่วนบริหารจัดการทรัพยากรป่าชายเลนที่ 5 เพชรบุรี สำนักอนุรักษ์ทรัพยากรป่าชายเลนกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นายชัยยศ สงวนทรัพย์ นายกเทศมนตรีตำบลบางตะบูน และนายภคพัส ส่งวัฒนายุทธ หัวหน้าฝ่ายความมั่นคงอำเภอบ้านแหลม พร้อมเจ้าหน้าที่ ตชด.144 คณะเข้าตรวจสอบพื้นที่บริเวณร้านอาหารเรือแลเล ที่สร้างอยู่บริเวณปากอ่าวบางตะบูน หมู่ 3 ต.บางตะบูน อ.บ้านแหลม จ.เพชรบุรี ซึ่งเป็นร้านอาหารของ นายนภดล นิยมค้า ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 8 ต.บางตะบูนออก อ.บ้านแหลม จ.เพชรบุรี
หลังจากรับแจ้งว่า มีการปลูกสิ่งปลูกสร้างและนำเรือมาดัดแปลงเพื่อประกอบกิจการร้านค้าอาหารชื่อ “เรือแลเล” โดยสภาพพื้นที่โดยรอบในบริเวณสิ่งปลูกสร้างเป็นป่าชายเลนที่สมบูรณ์มีน้ำทะเลท่วมถึง มีร่องรอยตัดฟันไม้ป่าชายเลนเพื่อนำพื้นที่ไปสร้างสิ่งปลูกสร้างเป็นร้านอาหาร ด้านทิศเหนือของพื้นที่จรดปากอ่าวบางตะบูน
จากการเข้าตรวจสอบพบว่าพื้นที่ดังกล่าวติดอยู่กับชายฝั่งแนวป่าชายเลนที่ปัจจุบันมีการนำเรือขนาดใหญ่เข้ามาจอดโดยเปิดเป็นร้านอาหาร อีกทั้งมีการขยับขยายแนวสิ่งปลูกสร้างที่กำลังดำเนินการอยู่ โดยการก่อสร้างเป็นลักษณะทำฐานเทปูนลงไปในทะเลโดยมีการตั้งเสาปูนเพื่อเป็นฐานอย่างเห็นได้ชัด
นายปณัย หนูแท้ นักวิชาการขนส่งชำนาญการ สำนักงานการขนส่งทางน้ำที่ 3 สาขาเพชรบุรี เปิดเผยว่า หลังจากรับแจ้งจากทางอำเภอบ้านแหลม ว่า มีการปลูกสร้างลุกล้ำลำน้ำจึงมาตรวจสอบซึ่งพบว่าพื้นที่ดังกล่าวกำลังมีการก่อสร้างในลักษณะต่อเติมเป็นฐานพื้นยื่นออกไปจากตัวเรือเดิมที่ปลูกสร้างเป็นเรือและเปิดเป็นร้านอาหาร ทั้งนี้พื้นที่ดังกล่าวเคยมีการฟ้องร้องมาแล้ว 1 ครั้ง เมื่อปีพ.ศ.2547 ที่ได้มีการดำเนินคดีอันเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติการเดินเรือในน่านน้ำไทย พ.ศ.2546 โดยคดียังอยู่ในชั้นศาล ทั้งนี้ จากการตรวจสอบในวันนี้จะต้องมีการดำเนินคดีและสั่งระงับการก่อสร้างในทันที
ด้าน นายรัชชัย พรพา หัวหน้าฝ่ายคุ้มครองและป้องกันทรัพยากรป่าชายเลน ส่วนบริหารจัดการทรัพยากรป่าชายเลนที่ 5 เพชรบุรี เปิดเผยว่า ต้องให้เจ้าของร้านนำเอกสารหลักฐานแสดงความเป็นเจ้าของมาแสดงยืนยันว่าพื้นที่ดังกล่าวไม่ได้อยู่ในเขตของป่าชายเลน และต้องให้เจ้าหน้าที่ทำการตรวจสอบโดยวัดพิกัด หากพบว่ามีการลุกล้ำลำน้ำจริงจะต้องดำเนินคดีตามกฎหมาย
ด้าน นายชัยยศ สงวนทรัพย์ นายกเทศมนตรีตำบลบางตะบูน เปิดเผยว่า สำหรับการตรวจสอบต้องปล่อยให้แต่ละหน่วยงานตรวจสอบส่วนเทศบาลให้ดำเนินการสั่งระงับสิ่งปลูกสร้างใหม่ และสั่งรื้อถอนเนื่องจากกีดขวางเส้นทางการก่อสร้างเส้นทางศึกษาธรรมชาติที่เชื่อมต่อกับศูนย์ระบบนิเวศป่าชายเลน
ทั้งนี้ หลังจากการตรวจสอบเจ้าหน้าที่ฝ่ายคุ้มครองและป้องกันป่าชายเลน ส่วนบริหารจัดการทรัพยากรป่าชายเลน ที่ 5 เจ้าหน้าที่สถานีพัฒนาทรัพยากรป่าชายเลนที่ 6 (เพชรบุรี) หน่วยประสานงานป้องกันการทำลายทรัพยากรป่าไม้จังหวัดเพชรบุรี เจ้าหน้าที่เจ้าท่าภูมิภาคที่ 3 สาขาเพชรบุรี กองร้อยตำรวจตระเวนชายแดนที่ 144 และเทศบาลตำบลบางตะบูน ที่ร่วมกันตรวจสอบพบว่า มีการปลูกสร้างถาวรเป็นห้องน้ำ 2 หลังที่มีการยกเสาคอนกรีตฝังลงไปในดินป่าชายเลน มุงหลังคากระเบื้อง บ้านพัก 1 หลัง ทางเดินสะพานไม้เสาคอนกรีตฝังลงไปในพื้นดินป่าชายเลนเชื่อมต่อพื้นดินกับห้องน้ำ เรือไม้ดัดแปลงใช้ทำเป็นที่นั่งรับประทานอาหาร สภาพเรือลอยไม่ได้ เรือปูนดัดแปลงสภาพเรือลอยไม่ได้วางกีดขวางทางน้ำ
ทั้งนี้ จึงได้ร่วมกันทำบันทึกการตรวจสอบ ตรวจยึด และจับกุม นายนภดล นิยมค้า เจ้าของร้านอาหารเรือแลเล โดยกล่าวหาเป็นผู้กระทำความผิดตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พุทธศักราช 2484 มาตรา 45 ฐานก่อสร้าง แผ้วถาง ยึดถือครอบครองหรือกระทำด้วยประการใด ๆ อันเป็นการทำลายป่าหรือเข้ายึดถือครอบครอง เข้าทำประโยชน์หรืออยู่อาศัยเพื่อตนเองหรือผู้อื่นโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ โดยทางสำนักงานการขนส่งทางน้ำที่ 3 สาขาเพชรบุรี ได้มีหนังสือแจ้งระงับการก่อสร้างทั้งหมด
