สระแก้ว - กลุ่มต้านโรงไฟฟ้าสระแก้ว ฮือปิดถนนหน้าสำนักงาน ส.ส.เพื่อไทย เพื่อคัดค้านการก่อสร้างโรงไฟฟ้าชีวมวล ด้าน ผู้ว่าฯ แจง ใช้ไม้นวม และไม่ต้องการให้ผู้มีเจตนาไม่บริสุทธิ์ทำร้ายสระแก้ว
วันนี้ (11 ก.ย.) ที่บริเวณหน้าสำนักงานสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) พรรคเพื่อไทย จ. สระแก้ว ริมถนนสุวรรณศร อ.เมือง จ.สระแก้ว ได้มีกลุ่มชาวบ้านจากตำบลศาลาลำดวน จำนวนประมาณ 200 คน เดินทางไปรวมตัว และปิดถนนสุวรรณศร ขาออกจากตัวเมือง เพื่อยื่นหนังสือถึง นายฐานิสร์ เทียนทอง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้ระงับโครงการก่อสร้างโรงไฟฟ้าชีวมวล ขนาด 9 เมกะวัตต์ ในพื้นที่ แต่ นายฐานิสร์ ติดราชการช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมอยู่ต่างจังหวัด จึงมีเจ้าหน้าที่ออกมารับหนังสือแทน และรับปากว่า จะนำเรียน นายฐานิสร์ ให้ สร้างความไม่พอใจให้กลุ่มผู้ประท้วงและพากันฮือปิดถนนทั้ง 4 เลน ทำให้การจราจรในเมืองสระแก้วเป็นอัมพาตทันที
นายศานิตย์ นาคสุขศรี ผู้ว่าราชการจังหวัด กล่าวว่า ตนไม่ทราบว่า กลุ่มชาวบ้านต้องการอะไร เพราะก่อนหน้านี้ ได้รวมตัวกันไปพบตนแล้ว และได้ยื่นข้อเรียกร้องไปดำเนินการ ใน 3 ประเด็น คือ เรื่องที่ผู้นำท้องถิ่นปลอมลายมือชื่อชาวบ้านที่เข้าประชุมชี้แจงเรื่องก่อตั้งโรงไฟฟ้า ตนก็ให้ไปแจ้งความดำเนินคดี และทางตำรวจก็ได้สอบสวนและส่งไปยัง ป.ป.ช.แล้ว อีกประเด็นหนึ่งที่ต้องการให้ย้ายโรงไฟฟ้าออกจากพื้นที่เดิม
จังหวัดก็ได้ส่งเรื่องไปยังกระทรวงอุตสาหกรรมให้พิจารณาดำเนินการแล้ว เพราะจังหวัดไม่มีอำนาจ ส่วนประเด็นสุดท้ายต้องการให้ระงับการก่อสร้างทันที ก็แนะนำให้ไปฟ้องศาลปกครอง และร้องขอความคุ้มครองชั่วคราว ซึ่งศาลปกครองภาค 2 ก็นัดไต่สวนแล้ว ในวันที่ 10 เดือนหน้านี้ ทุกอย่างที่ต้องการกำลังอยู่ในกระบวนการทั้งสิ้น ส่วนข้อเรียกร้องให้ถอดถอนกำนัน และ นายก อบต.คงทำให้ไม่ได้ เพราะไม่มีอำนาจ
“ทางจังหวัดคงไม่ใช้ความรุนแรงกับชาวบ้าน คงต้องใช้วิธีเจรจากันก่อน แต่ถ้าประชาชนต้องเดือดร้อนอย่างมาก และการพูดคุยไม่ได้ผล ก็คงต้องใช้มาตรการทางกฎหมายต่อไป ขอให้ประชาชนมั่นใจในตัวผู้ว่า ว่าดำเนินการทุกอย่างโปร่งใส และตรวจสอบได้ ผมไม่ต้องการให้คนอื่น ที่มีเจตนาไม่บริสุทธิ์ เข้ามาทำร้ายจังหวัดสระแก้ว” ถึงแม้ว่า ชาวบ้านที่ประท้วงจะด่าว่า นักการเมืองและข้าราชการชั่ว ก็ตาม”
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า หลังจากปิดถนนทั้ง 4 เลน หน้าสำนักงาน ส.ส.แล้ว กลุ่มชาวบ้านได้ ยื่นข้อเรียกร้องให้ ทางราชการออกคำสั่งให้โรงงานไฟฟ้า เคลื่อนย้ายเครื่องมือหนัก ออกจากสถานที่ก่อสร้างทันที แต่ไม่ได้รับการตอบสนองใดๆ จึงได้ตัดสินใจ ยุติการปิดถนน และ เคลื่อนย้ายไปชุมนุมที่บริเวณก่อสร้างโรงไฟฟ้าแทน
วันนี้ (11 ก.ย.) ที่บริเวณหน้าสำนักงานสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) พรรคเพื่อไทย จ. สระแก้ว ริมถนนสุวรรณศร อ.เมือง จ.สระแก้ว ได้มีกลุ่มชาวบ้านจากตำบลศาลาลำดวน จำนวนประมาณ 200 คน เดินทางไปรวมตัว และปิดถนนสุวรรณศร ขาออกจากตัวเมือง เพื่อยื่นหนังสือถึง นายฐานิสร์ เทียนทอง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้ระงับโครงการก่อสร้างโรงไฟฟ้าชีวมวล ขนาด 9 เมกะวัตต์ ในพื้นที่ แต่ นายฐานิสร์ ติดราชการช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมอยู่ต่างจังหวัด จึงมีเจ้าหน้าที่ออกมารับหนังสือแทน และรับปากว่า จะนำเรียน นายฐานิสร์ ให้ สร้างความไม่พอใจให้กลุ่มผู้ประท้วงและพากันฮือปิดถนนทั้ง 4 เลน ทำให้การจราจรในเมืองสระแก้วเป็นอัมพาตทันที
นายศานิตย์ นาคสุขศรี ผู้ว่าราชการจังหวัด กล่าวว่า ตนไม่ทราบว่า กลุ่มชาวบ้านต้องการอะไร เพราะก่อนหน้านี้ ได้รวมตัวกันไปพบตนแล้ว และได้ยื่นข้อเรียกร้องไปดำเนินการ ใน 3 ประเด็น คือ เรื่องที่ผู้นำท้องถิ่นปลอมลายมือชื่อชาวบ้านที่เข้าประชุมชี้แจงเรื่องก่อตั้งโรงไฟฟ้า ตนก็ให้ไปแจ้งความดำเนินคดี และทางตำรวจก็ได้สอบสวนและส่งไปยัง ป.ป.ช.แล้ว อีกประเด็นหนึ่งที่ต้องการให้ย้ายโรงไฟฟ้าออกจากพื้นที่เดิม
จังหวัดก็ได้ส่งเรื่องไปยังกระทรวงอุตสาหกรรมให้พิจารณาดำเนินการแล้ว เพราะจังหวัดไม่มีอำนาจ ส่วนประเด็นสุดท้ายต้องการให้ระงับการก่อสร้างทันที ก็แนะนำให้ไปฟ้องศาลปกครอง และร้องขอความคุ้มครองชั่วคราว ซึ่งศาลปกครองภาค 2 ก็นัดไต่สวนแล้ว ในวันที่ 10 เดือนหน้านี้ ทุกอย่างที่ต้องการกำลังอยู่ในกระบวนการทั้งสิ้น ส่วนข้อเรียกร้องให้ถอดถอนกำนัน และ นายก อบต.คงทำให้ไม่ได้ เพราะไม่มีอำนาจ
“ทางจังหวัดคงไม่ใช้ความรุนแรงกับชาวบ้าน คงต้องใช้วิธีเจรจากันก่อน แต่ถ้าประชาชนต้องเดือดร้อนอย่างมาก และการพูดคุยไม่ได้ผล ก็คงต้องใช้มาตรการทางกฎหมายต่อไป ขอให้ประชาชนมั่นใจในตัวผู้ว่า ว่าดำเนินการทุกอย่างโปร่งใส และตรวจสอบได้ ผมไม่ต้องการให้คนอื่น ที่มีเจตนาไม่บริสุทธิ์ เข้ามาทำร้ายจังหวัดสระแก้ว” ถึงแม้ว่า ชาวบ้านที่ประท้วงจะด่าว่า นักการเมืองและข้าราชการชั่ว ก็ตาม”
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า หลังจากปิดถนนทั้ง 4 เลน หน้าสำนักงาน ส.ส.แล้ว กลุ่มชาวบ้านได้ ยื่นข้อเรียกร้องให้ ทางราชการออกคำสั่งให้โรงงานไฟฟ้า เคลื่อนย้ายเครื่องมือหนัก ออกจากสถานที่ก่อสร้างทันที แต่ไม่ได้รับการตอบสนองใดๆ จึงได้ตัดสินใจ ยุติการปิดถนน และ เคลื่อนย้ายไปชุมนุมที่บริเวณก่อสร้างโรงไฟฟ้าแทน