หนุ่มวิศวกร แจ้งจับ “ไฮโซแชมป์” อดีตผู้จัดการส่วนตัว “หมออ้อย” หลอกโอนเงิน 9,000 พัน อ้างเป็นคอร์สเรียนร้องเพลง ก่อนปั้นเข้าวงการบันเทิง แทบช็อกเจอข้อมูลถูกจับฉ้อโกงเหยื่อหลายราย ด้านพนักงานสอบสวนลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน
วันนี้ (11 ก.ย.) เมื่อเวลา 12.00 น.นายดุลย หรือดุล เหมปฐวี อายุ 26 ปี อาชีพวิศวกรบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง อยู่บ้านเลขที่ 234 ถนนจักรวรรดิ แขวงจักรวรรดิ เขตสัมพันธวงศ์ กทม.เข้าแจ้งความกับ พ.ต.ท.ธนภัทร สุขมี พงส.(สบ2) สน.สุทธิสาร ให้ดำเนินคดีกับนายรัฐ หรือแชมป์ หรือ ไฮโซแชมป์ ริมธีรกุล อายุ 25 ปี อดีตผู้จัดการส่วนตัวของ นส.จุฑารัตน์ เทียมสุวรรณ หรือ หมออ้อย ดารานางแบบ ในข้อหาฉ้อโกงทรัพย์
นายดุลย กล่าวว่า เหตุเกิดเมื่อวันที่ 27 ส.ค.ที่ผ่านมา ขณะที่ตนกำลังเดินไปเรียนพิเศษอยู่บริเวณหน้าห้างสยามพารากอน อยู่ๆ ก็มีชายคนหนึ่งลักษณะคล้ายพิธีกรชื่อดังเดินปรี่เข้ามาหาตน จากนั้นแนะนำตัวเองว่า ชื่อ “อั้ม” ทราบชื่อภายหลัง คือ นายรัฐ หรือ แชมป์ หรือไฮโซแชมป์ พร้อมบอกว่าอยู่ในวงการบันเทิง ฉายา “เจ้าแม่แอร์เมส” ก่อนจะถามตนว่ารู้จักหรือไม่ ได้ดูข่าวบันเทิงบ้างหรือเปล่า พร้อมกับแนะนำตัวเองต่อว่าทำรายการบันเทิงรายการเซ็กซี่ไนท์ อยู่ทางเคเบิลทีวีช่องหนึ่ง ของสตูดิโอ เอช พลัส อยู่ที่ตึก “โอซีเอ็ม” (OCM) ใกล้กับหนังสือพิมพ์แนวหน้า สนใจจะเข้าวงการบันเทิงหรือไม่ ตนจึงตอบไปว่าไม่อยากเป็นนักร้อง แต่หากเป็นพิธีกรและทำช่วงวันหยุดได้ก็น่าสนใจ นายแชมป์ ก็บอกว่า ได้พร้อมกับให้เบอร์โทรศัพท์ไว้
นายดุลย กล่าวต่อว่า หลังจากเลิกเรียนพิเศษตนเลยโทรศัพท์ไปหานายแชมป์ โดย นายแชมป์อ้างว่า มาดูพี่กาละแมร์เดินแบบอยู่ที่ห้างเซ็นทรัลเวิลด์ พร้อมกับนัดให้ตนมาหา หลังจากไปถึงแล้วตนก็เห็นนายแชมป์อยู่ด้านหน้าเวทีซึ่งก็ไม่ได้สนใจอะไร ต่อมา นายแชมป์ ได้พาตนไปนั่งคุยที่ร้านอาหารชั้น 7 ของห้าง พร้อมกับหยิบอัลบัมรูปถ่ายที่นายแชมป์ถ่ายกับดาราชื่อดังหลายคน โดยเฉพาะต้นเดอะสตาร์ที่นายแชมป์อ้างว่าเป็นเด็กในสังกัดออกมาให้ดู นอกจากนี้ยังมีรูปของ “หมออ้อย-จุฑารัตน์ เทียมสุวรรณ” เป็นจำนวนมากด้วย และนายแชมป์ก็อ้างกับตนว่าสนิทและรู้จักกับหมออ้อยอีกด้วย ทำให้ดูน่าเชื่อถือมากขึ้น จากนั้นนายแชมป์จึงพาตนไปถ่ายรูปที่สตูดิโอ ร้านมาสเตอร์ตรงข้ามห้างเซ็นทรัลลาดพร้าว พร้อมกับเอาใบสมัครมีชื่อบนหัวกระดาษว่า “แชมป์สตูดิโอ” มาให้กรอกประวัติและเลือกคอร์สเรียนร้องเพลงและเต้นรำ มีให้เลือก 2 คอร์ส 5,000 บาท เรียน 4 ชั่วโมง และ 9,000 บาท เรียน 8 ชั่วโมง โดยอ้างว่าถึงจะเป็นพิธีกรก็ต้องเรียนให้เป็นไว้ทุกอย่าง ตนจึงเลือกเรียนคอร์สละ 9,000 บาทไว้ แต่ยังไม่จ่ายเงิน
นายดุลย กล่าวต่อไปว่า จากนั้นนายแชมป์ได้พานั่งรถแท็กซี่ไปรับหมออ้อยที่คอนโดแห่งหนึ่งย่านถนนลาดพร้าว จากนั้นจึงพากันไปกินส้มตำด้วยกันที่ข้างห้างเมเจอร์รัชโยธิน ระหว่างนั่งกินนายแชมป์ก็พูดจาหว่านล้อมตนต่างๆ และบอกว่าให้ตนไปเล่นกล้ามเพิ่ม หมออ้อยเลยบอกกับนายแชมป์ ว่า ลองพาตนไปแคสติ้ง ที่สตูดิโอที่อัดรายการ ในวันศุกร์ที่ 2 ก.ย.นี้ดู ตนก็ตกลงที่จะไป หลังจากรับประทานอาหารกันเสร็จตนได้นั่งรถกลับมากับนายแชมป์สองคน ระหว่างทางตนได้แวะลงไปกดเงินที่ตู้เอทีเอ็ม ธนาคารกรุงเทพ ตรงโลตัสเอ็กซ์เพลส ท้องที่สน.สุทธิสาร ให้กับนายแชมป์ 9,000 บาท โดยหลังจากจ่ายเงินตนได้ทวงถามหาใบเสร็จ แต่นายแชมป์กลับบอกว่าไม่ต้องมีหรอกเราสัญญากันด้วยใจก็พอ ก่อนจะแยกย้ายกันกลับ เลยทำให้ตนเอะใจเพราะผิดสังเกต รุ่งขึ้นตนเลยเข้าไปเสิร์ชชื่อในเว็บไซต์กูเกิ้ลโดยพิมพ์ชื่อหมออ้อยและแชมป์ดู ก็แทบช็อกเมื่อเห็นข่าวและภาพของนายแชมป์ถูกจับในข้อหาฉ้อโกงลักษณะเดียวกับที่ทำกับตน จึงปรึกษาผู้ใหญ่ ซึ่งแนะนำให้เล่นไปตามเกมนายแชมป์ก่อน
“เมื่อถึงวันที่ 2 ก.ย.ตนจึงไปหานายแชมป์ตามนัดเวลา 21.30 น.พอไปถึงนายแชมป์ยังมาไม่ถึง ตนเลยขึ้นไปหาหมออ้อยที่กำลังทำผมเตรียมอัดรายการอยู่ แต่หมออ้อยเหมือนจำตนไม่ได้ เลยบอกว่าที่ไปกินข้าวด้วยกันวันก่อน แล้วบอกให้มาแคสติ้งวันนี้ หมออ้อยจึงจำได้และบอกว่าวันนี้คงไม่มีการแคสติ้งอะไรหรอก และพี่ก็ไม่ได้สัญญาด้วยว่าจะให้มาแคสติ้ง ตนจึงถามเรื่องที่นายแชมป์เคยถูกจับ หมออ้อยจึงพูดว่านายแชมป์เป็นคนไม่ดีและเคยหลอกคนมาหลายคนแล้ว อีกทั้งหมอก็ไม่มีผู้จัดการส่วนตัวด้วย นายแชมป์ เป็นแค่คนใช้เท่านั้น จากนั้นตนจึงลงมาด้านล่างก็พบนายแชมป์กับเด็กผู้ชายคนหนึ่งอายุ 17 ปี คาดว่า น่าจะถูกหลอกมาเหมือนกัน เมื่อนายแชมป์เห็นตนจึงพาตนไปนั่งดูหมออ้อยอัดรายการ ตนจึงทวงถามว่าจะได้เรียนเมื่อไหร่ ทำให้นายแชมป์ไม่พอใจพร้อมกับพูดว่าอย่ามาเซ้าซี้ ถ้าได้เรียนเมื่อไหร่จะบอกเอง ตนจึงบอกว่าไม่เรียนแล้ว และจะขอเงินคืนเพราะรู้เรื่องที่นายแชมป์เคยถูกจับ และหากไม่คืนเงินก็จะไปแจ้งความ นายแชมป์จึงท้าตนให้ไปแจ้งความ ก่อนจะเรียกตนออกมาเจรจาด้านนอกห้องอัดว่า ที่เป็นข่าวเพราะถูกโมเดลลิ่งที่อื่นแกล้ง ลองคิดดูคนฟ้องกันจะไปกินข้าวด้วยกันได้ยังไง และยินดีจะคืนเงินทั้งหมดให้ภายในวันที่ 3-4 ก.ย.แต่เมื่อถึงเวลานัด นายแชมป์กลับไม่โอนเงินมาให้ วันนี้ตนจึงตัดสินใจเข้าแจ้งความ เพราะผิดสัญญาและไม่อยากให้ใครตกเป็นเหยื่อเหมือนกับตนอีก” วิศวกรหนุ่ม กล่าว
ด้าน พ.ต.ท.ธนภัทร กล่าวว่า เบื้องต้นได้รับเรื่องร้องทุกข์และลงบันทึกประจำวันไว้แล้ว หลังจากนี้จะเรียกนายดุลยมาสอบปากคำเพิ่มเติมอีก ส่วนคดีคงต้องรอดูก่อนว่านายแชมป์มีเจตนาฉ้อโกงหรือไม่ เพราะตามที่ตกลงเรียนกันนั้นยังอยู่ในเดือนกันยายน ต้องรอดูว่าหากพ้นเดือนนี้ไปแล้วหากไม่มีการเรียนการสอนกัน ไม่มีสถานที่เรียน และเชื่อได้ว่าเป็นการกระทำที่โกหกหลอกลวงมาตั้งแต่เริ่มต้นจริง ก็จะเข้าข่ายฉ้อโกงทันที ซึ่งเมื่อถึงตอนนั้นก็สามารถดำเนินคดีกับนายแชมป์ได้ แต่ตอนนี้คงต้องรอดูว่านายแชมป์จะตกลงกับนายดุลยอย่างไร ถ้าตกลงกันได้เรื่องราวก็จบลง หากตกลงไม่ได้และพิสูจน์ว่ากระทำผิดจริงก็ต้องเชิญตัวมาให้ปากคำต่อไป