รวบแล้ว! “หนุ่มแบงก์” ฉกเครื่องเพชร-ทองรูปพรรณ มูลค่า 25 ล้านจากตู้เซฟธนาคารกรุงเทพ สาขารัชดา-ลาดพร้าว รับนำเงินไปใช้หนี้ ซื้อรถเบนซ์สปอร์ต รุ่นอี 250 และปรนเปรอแฟนหนุ่ม
วันนี้ (9 ก.ย.) ที่ สน.พหลโยธิน เมื่อเวลา 21.30 น. พ.ต.อ.พีระพงศ์ วงษ์สมาน รอง ผบก.น.2 พ.ต.ท.วีระ งามเลิศ พนักงานสอบสวน สน.พหลโยธิน พ.ต.ท.สุรจิตร์ เปลี่ยนประเสริฐ พ.ต.ท.ทวีวงศ์ ดิษฐ์แย้ม สว.สส.สน.พหลโยธิน ร่วมแถลงข่าวจับกุม นายสุวิชาญ แสงแก้ว อายุ 25 ปี เจ้าหน้าที่ฝ่ายประสานงานต่างประเทศ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) สาขารัชดา-ลาดพร้าว ถนนรัชดาภิเษก แขวงจันทรเกษม เขตจตุจักร กทม. หลังก่อเหตุขโมยทรัพย์สินภายในตู้นิรภัยของธนาคาร
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 8 ก.ย. ที่ผ่านมา เกิดเหตุคนร้ายขโมยทรัพย์สินภายในตู้นิรภัยของธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) สาขารัชดา-ลาดพร้าว โดยทรัพย์สินซึ่งเป็นพระเครื่องชื่อดัง ทองคำและเครื่องเพชรสูญหายไปประมาณ 25 ล้านบาท จากการตรวจสอบตู้นิรภัยของลูกค้าไม่พบร่องรอยการงัดแงะ และธนาคารมีระบบรักษาความปลอดภัยอย่างแน่นหนา ประตูเหล็กหลายชั้นกว่าจะเข้าถึงด้านในได้ และยังมีกล้องวงจรปิดคอยจับภาพผู้ที่เข้าออกห้องดังกล่าวอยู่ตลอดเวลา
นอกจากนั้นเวลาลูกค้าเข้าตรวจสอบทรัพย์สินที่เก็บไว้ จะมีเจ้าหน้าที่ถือกุญแจตู้คนละดอกไขเปิดพร้อมกัน เจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่าคนร้ายน่าจะเป็นพนักงานของธนาคาร จึงให้เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานเก็บลายนิ้วมือแฝงและสอบปากคำพนักงานของธนาคารทั้งหมดกว่า 20 คน พร้อมทั้งนำภาพจากกล้องวงจรปิดไปตรวจหาตัวผู้ต้องสงสัย
ต่อมาเมื่อช่วงบ่ายมีนางวันเพ็ญ รัศมีเพชรโสภณ อายุ 57 ปี พนักงานของธานาคารเข้าแจ้งความเพิ่มเติมว่า ทรัพย์ที่เก็บไว้ในตู้เซฟสูญหายไปประมาณ 15 ล้านบาท มีทองรูปพรรณ เครื่องเพชร และนายสุวิชาญ ทรัพย์สินสูญหายไป 10 ล้านบาท มีนาฬิกายี่ห้อดังและเงินสดจำนวนหนึ่ง มูลค่าความเสียหายทั้งหมดกว่า 25 ล้านบาท
จากนั้นพนักงานสอบสวนเชิญตัว นายสุวิชาญ และนางวันเพ็ญ มาสอบปากคำเพิ่มเติม โดย นายสุวิชาญให้การมีพิรุธ ประกอบกับจากการตรวจสอบจากกล้องวงจรปิด พบนายสุวิชาญเข้าออกห้องนิรภัยบ่อยจนผิดปกติ นอกจากนี้ยังมีพฤติกรรมการใช้จ่ายเงินเกินตัว โดยซื้อรถเมอร์เซเดส เบนซ์ สปอร์ต รุ่นอี 250 สีขาว ทะเบียนป้ายแดง ธ 6969 กทม. และนำเงินไปปรนเปรอแฟนหนุ่ม เจ้าหน้าที่จึงสอบปากคำนายวิชาญอย่างเคร่งเครียด กระทั่งเจ้าตัวยอมรับสารภาพว่าเป็นผู้โจรกรรมทรัพย์สินจากตู้นิรภัยจริง
นายสุวิชาญให้การรับสารภาพว่า ทำงานอยู่ในตำแหน่งพนักงานประสานต่างประเทศมาเป็นเวลานานกว่า 3 ปี มีความสนิทสนมกับผู้เสียหายรายอื่นเป็นอย่างดี สังเกตเห็นผู้ร่วมงานหลายรายมักเช่าตู้นิรภัยของธนาคารเก็บทรัพย์สินมีค่าไว้ จึงทำทีไปขอเช่าตู้นิรภัยบ้างโดยไม่มีทรัพย์สินมีค่าที่จะเก็บรักษา จากนั้นหาช่วงเวลาที่เพื่อนร่วมงานเผลอแอบขโมยกุญแจนิรภัยของเพื่อนร่วมงานและของเจ้าหน้าที่ธนาคารที่มีหน้าที่ถือกุญแจ ก่อนเปิดตู้เซฟขโมยทรัพย์สิน
“ผมได้นำทองรูปพรรณไปขายที่ห้างทองชื่อดังย่านเยาวราช ส่วนพระเครื่องจะนำไปขายที่ห้างพันธุ์ทิพย์ งามวงศ์วาน นำเงินไปใช้หนี้ ซื้อของและใช้จ่ายส่วนตัว โดยก่อเหตุมาตั้งแต่เดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา” นายสุวิชาญกล่าว
ต่อมาเจ้าหน้าที่นำตัวนายสุวิชาญไปตรวจค้นทรัพย์สินที่ห้องพักภายในซอยลาดพร้าว 18 แขวงจอมพล เขตจตุจักร กทม. พบทรัพย์สินที่โจรกรรมมาหลายรายการ โดยทรัพย์สินของผู้ต้องหาที่อ้างว่าถูกโจรกรรมส่วนใหญ่เป็นของปลอม จากนั้นไปตรวจยึดทรัพย์สินที่ถูกนำไปขายยังสถานที่ต่างๆ ตามที่ผู้ต้องหากล่าวอ้าง ก่อนนำตัวพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สน.พหลโยธิน ดำเนินคดีต่อไป
ตร.สอบเจ้าของตู้เซฟเพิ่ม-พบทรัพย์สินหาย 20 ล้าน
มือดีฉกเครื่องเพชรในตู้เซฟ ธ.กรุงเทพ สูญกว่า 10 ล้าน
