เวรกรรมสาวไทย! ถูกสาวลาวหลอกทำศัลยกรรมราคาถุก ด้วยการฉีดซิลิโคน เสริมความงาม แต่สุดท้ายใบหน้าอักเสบ จึงแจ้งตำรวจกก.สด.ไปจับกุม เจ้าตัวรับสารภาพ รับฉีดใบหน้าเพื่อลบริ้วรอย ทั้งตีนกา เสริมจมูก เสริมคาง และสลายไขมัน ราคาจะมีตั้งแต่ 3,000-10,000 บาท รายได้ขั้นต่ำวันละ 5 พันบาท
วันนี้ (1 ก.ย.) เมื่อเวลา 12.30 น. พ.ต.ท.สำเริง ส่งเสียง รองผกก.ดส.บชน. พ.ต.ท.ศยาม อินทร์สุวรรณโณ สว.กก.ดส.พร้อมด้วย นายชาตรี พินใย นิติกรชำนาญการสำนักกฎหมาย กรมสนับสนุนสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข นำกำลังเข้าจับกุมตัว นางแหล่ หรือ เจนนี่ ทำมะวงสา อายุ 27 ปี ชาวลาว ภายในห้องพักเลขที่ B721 ชั้น7 แอนนาเพลส เลขที่ 713 ซอยลาดพร้าว 101 แยก21 แขวงเจ้าคุณสิงห์ เขตวังทองหลาง กทม.พร้อมของกลางเข็มฉีดยาจำนวนมาก ยาฉีดเสริมความงาม ซีลิโคน ยาแก้ปวด ยาแก้อักเสบ พร้อมตัวยาประเภทเสริมความงามอีกจำนวนมาก โทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง สมุดบัญชีลูกค้าอีก 1 เล่ม
พ.ต.ท.สำเริง กล่าวว่า สืบเนื่องจาก กก.ดส.ได้รับการร้องเรียนจากผู้เสียหายหลายราย ว่า ถูกนางแหล่ หลอกว่า สามารถรักษาริ้วรอยบนใบหน้าได้ โดยการฉีดยา รวมทั้งยังสามารถเสริมจมูก เสริมคางและเสริมหน้าอกได้ในราคาถูกอีกด้วย จึงหลงเชื่อมาใช้บริการ แต่ต่อมาไม่นานก็เกิดใบหน้าอักเสบไม่เป็นไปตามที่อ้างสรรพคุณไว้ จึงเข้ามาร้องเรียนให้จับกุม เจ้าหน้าที่ กก.ดส. จึงประสานกับทางกระทรวงสาธารณสุขเข้าตรวจสอบ โดยใช้สายลับเป็นผู้หญิงทำทีติดต่อขอเข้าไปฉีดหน้ากับนางแหล่ ในราคา 3 พันบาท เพื่อลบรอยตีนการอบดวงตา นางแหล่จึงนัดให้มาหาที่ห้องพักในวันนี้
พ.ต.ท.สำเริง กล่าวต่อว่า เมื่อสายลับเข้าไปภายในห้องก็พบว่ายังมีผู้หญิงคนไทย 1 คน กับผู้หญิงชาวลาวอีก 1 คน รอใช้บริการอยู่ในห้อง จากนั้นขณะที่นางแหล่กำลังจะฉีดยาให้ลูกค้า สายลับจึงส่งสัญญาณให้เจ้าหน้าที่นำกำลังเข้าจับกุมตัวเอาไว้ได้พร้อมของกลางดังกล่าว
จากการสอบสวน นางแหล่ ให้การรับสารภาพว่า เคยเป็นผู้ช่วยพยาบาลอยู่ที่คลินิกเสริมความงามแห่งหนึ่ง ทำให้รู้จักกับคนขายยาและเวชภัณฑ์เสริมความงาม และเห็นว่าทำง่ายไม่ต้องใช้เครื่องมืออะไรมากมาย จึงผันตัวออกมารับจ้างทำเอง แล้วติดต่อซื้อของจากคนขายดังกล่าว โดยจะรับฉีดใบหน้าเพื่อลบริ้วรอย ทั้งตีนกา เสริมจมูก เสริมคาง และสลายไขมัน ราคาจะมีตั้งแต่ 3,000-10,000 บาท แล้วแต่ลูกค้าจะทำอะไรบ้าง ซึ่งทำมาแล้ว 2-3 เดือน วันหนึ่งมีรายได้ขั้นต่ำ 5,000 บาท ส่วนวันนี้ตั้งแต่เช้ามีผู้มาใช้บริการแล้ว 4 ราย ได้เงินกว่า 2 หมื่นบาท ก็มาถูกจับกุมเสียก่อน
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหา เปิดสถานเวชกรรมโดยไม่มีใบอนุญาต ประกอบอาชีพเวชกรรมโดยไม่มีใบอนุญาต และเป็นชาวต่างด้าวประกอบอาชีพโดยไม่มีใบอนุญาต นำตัวส่งพนักงานสอบสวน กก.ดส.ขยายผลเพื่อหาผู้ร่วมกระทำความผิดมาดำเนินคดีต่อไป
วันนี้ (1 ก.ย.) เมื่อเวลา 12.30 น. พ.ต.ท.สำเริง ส่งเสียง รองผกก.ดส.บชน. พ.ต.ท.ศยาม อินทร์สุวรรณโณ สว.กก.ดส.พร้อมด้วย นายชาตรี พินใย นิติกรชำนาญการสำนักกฎหมาย กรมสนับสนุนสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข นำกำลังเข้าจับกุมตัว นางแหล่ หรือ เจนนี่ ทำมะวงสา อายุ 27 ปี ชาวลาว ภายในห้องพักเลขที่ B721 ชั้น7 แอนนาเพลส เลขที่ 713 ซอยลาดพร้าว 101 แยก21 แขวงเจ้าคุณสิงห์ เขตวังทองหลาง กทม.พร้อมของกลางเข็มฉีดยาจำนวนมาก ยาฉีดเสริมความงาม ซีลิโคน ยาแก้ปวด ยาแก้อักเสบ พร้อมตัวยาประเภทเสริมความงามอีกจำนวนมาก โทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง สมุดบัญชีลูกค้าอีก 1 เล่ม
พ.ต.ท.สำเริง กล่าวว่า สืบเนื่องจาก กก.ดส.ได้รับการร้องเรียนจากผู้เสียหายหลายราย ว่า ถูกนางแหล่ หลอกว่า สามารถรักษาริ้วรอยบนใบหน้าได้ โดยการฉีดยา รวมทั้งยังสามารถเสริมจมูก เสริมคางและเสริมหน้าอกได้ในราคาถูกอีกด้วย จึงหลงเชื่อมาใช้บริการ แต่ต่อมาไม่นานก็เกิดใบหน้าอักเสบไม่เป็นไปตามที่อ้างสรรพคุณไว้ จึงเข้ามาร้องเรียนให้จับกุม เจ้าหน้าที่ กก.ดส. จึงประสานกับทางกระทรวงสาธารณสุขเข้าตรวจสอบ โดยใช้สายลับเป็นผู้หญิงทำทีติดต่อขอเข้าไปฉีดหน้ากับนางแหล่ ในราคา 3 พันบาท เพื่อลบรอยตีนการอบดวงตา นางแหล่จึงนัดให้มาหาที่ห้องพักในวันนี้
พ.ต.ท.สำเริง กล่าวต่อว่า เมื่อสายลับเข้าไปภายในห้องก็พบว่ายังมีผู้หญิงคนไทย 1 คน กับผู้หญิงชาวลาวอีก 1 คน รอใช้บริการอยู่ในห้อง จากนั้นขณะที่นางแหล่กำลังจะฉีดยาให้ลูกค้า สายลับจึงส่งสัญญาณให้เจ้าหน้าที่นำกำลังเข้าจับกุมตัวเอาไว้ได้พร้อมของกลางดังกล่าว
จากการสอบสวน นางแหล่ ให้การรับสารภาพว่า เคยเป็นผู้ช่วยพยาบาลอยู่ที่คลินิกเสริมความงามแห่งหนึ่ง ทำให้รู้จักกับคนขายยาและเวชภัณฑ์เสริมความงาม และเห็นว่าทำง่ายไม่ต้องใช้เครื่องมืออะไรมากมาย จึงผันตัวออกมารับจ้างทำเอง แล้วติดต่อซื้อของจากคนขายดังกล่าว โดยจะรับฉีดใบหน้าเพื่อลบริ้วรอย ทั้งตีนกา เสริมจมูก เสริมคาง และสลายไขมัน ราคาจะมีตั้งแต่ 3,000-10,000 บาท แล้วแต่ลูกค้าจะทำอะไรบ้าง ซึ่งทำมาแล้ว 2-3 เดือน วันหนึ่งมีรายได้ขั้นต่ำ 5,000 บาท ส่วนวันนี้ตั้งแต่เช้ามีผู้มาใช้บริการแล้ว 4 ราย ได้เงินกว่า 2 หมื่นบาท ก็มาถูกจับกุมเสียก่อน
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหา เปิดสถานเวชกรรมโดยไม่มีใบอนุญาต ประกอบอาชีพเวชกรรมโดยไม่มีใบอนุญาต และเป็นชาวต่างด้าวประกอบอาชีพโดยไม่มีใบอนุญาต นำตัวส่งพนักงานสอบสวน กก.ดส.ขยายผลเพื่อหาผู้ร่วมกระทำความผิดมาดำเนินคดีต่อไป
