คณะมนตรีสิทธิมนุษยชนสหประชาชาติ ตรวจเยี่ยมการคัดแยกและปฏิบัติกับเหยื่อขบวนการค้ามนุษย์ของ สตม.พร้อมชี้แจงปมหญิงเวียดนามเข้ามาอุ้มบุญในไทย จนเจ้าหน้าที่สิทธิฯ เข้าใจระบบการทำงาน ขณะที่ สตม.เผยผลการจัดอันดับของอเมริกา พบไทยยังน่าห่วงกับการละเมิดสิทธิ ชี้ หาก 2 ปีไม่ดีขึ้น จะส่งผลกระทบต่อไทยทั้งการส่งออก-การค้า โดย สตม.จะเร่งสร้างภาพลักษณ์ในประเทศให้ดีขึ้น
วันนี้ (10 ส.ค.) เมื่อเวลา 11.30 น.พล.ต.ท.วิบูลย์ บางท่าไม้ ผบช.สตม. พล.ต.ต.ม.ล.พันธ์ศักดิ์ เกษมสันต์ รองผบช.สตม. พล.ต.ต.มนู เมฆหมอก ผบก.สส.สตม. พร้อมเจ้าหน้าที่จากสำนักงานตำรวจตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) ให้การต้อนรับคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ นำโดย Ms.Joy Ezeilo ผู้รายงานพิเศษว่าด้วยการค้ามนุษย์โดยเฉพาะสตรีและเด็ก เจ้าหน้าที่กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เจ้าหน้าที่กระทรวงการต่างประเทศ ที่เดินทางเข้าตรวจเยี่ยมการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สตม.ในการคัดแยกและการปฏิบัติกับเหยื่อของขบวนการค้ามนุษย์ข้ามชาติ
พล.ต.ท.วิบูลย์ เปิดเผยว่า คณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ เดินทางมาตรวจเยี่ยม และประเมินการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ สตม.ว่า เป็นไปตามหลักสากลหรือไม่ เนื่องจากประเทศไทยถูกจัดอันดับอยู่ในกลุ่มประเทศ TIER 2 เช่น ญี่ปุ่น ลาว เป็นต้น ซึ่งกลุ่มประเทศเหล่านี้จะอยู่ในโซนที่เฝ้าระวัง เนื่องจากมีรายงานว่าเป็นกลุ่มที่มีการละเมิดสิทธิค่อนข้างมาก ซึ่งส่งผลทำให้ประเทศไทยถูกกีดกั้นทางการค้า และด้านอื่นๆ ตามมา โดยทาง สตม.มีห้องกักอยู่ทั้งหมด 13 แห่งทั่วประเทศ ก่อนดำเนินการผลักดันส่งกลับประเทศ และหากเป็นเหยื่อที่ถูกกระทำก็จะให้การช่วยเหลือตามขั้นตอนต่อไป
พล.ต.ท.วิบูลย์ กล่าวต่อว่า Ms.Joy Ezeilo ให้ความสนใจในประเด็นที่กลุ่มผู้หญิงชาวเวียดนามที่เข้ามาอุ้มบุญในประเทศไทย ซึ่งตนได้ชี้แจงไปแล้ว ว่า ขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ได้ทำการคัดแยกเหยื่อโดยให้การช่วยเหลืออย่างเต็มที่ พร้อมทั้งส่งให้ทางกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ดำเนินการต่อไปแล้ว ส่วนผู้ที่กระทำผิดหรือพิสูจน์ได้แล้วว่าไม่ใช่เหยื่อ ทางเจ้าหน้าที่ได้ทำการส่งฟ้องศาลและดำเนินคดีต่อไปเช่นกัน
ทั้งนี้ จากการจัดอันดับของรัฐบาลสหรัฐอเมริกา พบว่า สถานการณ์การละเมิดสิทธิมนุษยชนของประเทศไทยยังน่าเป็นห่วง และหากภายใน 2 ปี ยังไม่ดีขึ้นจะมีการลดอันดับลง ซึ่งจะส่งผลต่อประเทศไทยอย่างมหาศาล ทั้งในเรื่องการค้า การส่งออก และแรงงาน ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ สตม.จะดำเนินการอย่างเต็มที่ เพื่อให้ภาพลักษณ์ประเทศดีขึ้น
วันนี้ (10 ส.ค.) เมื่อเวลา 11.30 น.พล.ต.ท.วิบูลย์ บางท่าไม้ ผบช.สตม. พล.ต.ต.ม.ล.พันธ์ศักดิ์ เกษมสันต์ รองผบช.สตม. พล.ต.ต.มนู เมฆหมอก ผบก.สส.สตม. พร้อมเจ้าหน้าที่จากสำนักงานตำรวจตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) ให้การต้อนรับคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ นำโดย Ms.Joy Ezeilo ผู้รายงานพิเศษว่าด้วยการค้ามนุษย์โดยเฉพาะสตรีและเด็ก เจ้าหน้าที่กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เจ้าหน้าที่กระทรวงการต่างประเทศ ที่เดินทางเข้าตรวจเยี่ยมการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สตม.ในการคัดแยกและการปฏิบัติกับเหยื่อของขบวนการค้ามนุษย์ข้ามชาติ
พล.ต.ท.วิบูลย์ เปิดเผยว่า คณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ เดินทางมาตรวจเยี่ยม และประเมินการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ สตม.ว่า เป็นไปตามหลักสากลหรือไม่ เนื่องจากประเทศไทยถูกจัดอันดับอยู่ในกลุ่มประเทศ TIER 2 เช่น ญี่ปุ่น ลาว เป็นต้น ซึ่งกลุ่มประเทศเหล่านี้จะอยู่ในโซนที่เฝ้าระวัง เนื่องจากมีรายงานว่าเป็นกลุ่มที่มีการละเมิดสิทธิค่อนข้างมาก ซึ่งส่งผลทำให้ประเทศไทยถูกกีดกั้นทางการค้า และด้านอื่นๆ ตามมา โดยทาง สตม.มีห้องกักอยู่ทั้งหมด 13 แห่งทั่วประเทศ ก่อนดำเนินการผลักดันส่งกลับประเทศ และหากเป็นเหยื่อที่ถูกกระทำก็จะให้การช่วยเหลือตามขั้นตอนต่อไป
พล.ต.ท.วิบูลย์ กล่าวต่อว่า Ms.Joy Ezeilo ให้ความสนใจในประเด็นที่กลุ่มผู้หญิงชาวเวียดนามที่เข้ามาอุ้มบุญในประเทศไทย ซึ่งตนได้ชี้แจงไปแล้ว ว่า ขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ได้ทำการคัดแยกเหยื่อโดยให้การช่วยเหลืออย่างเต็มที่ พร้อมทั้งส่งให้ทางกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ดำเนินการต่อไปแล้ว ส่วนผู้ที่กระทำผิดหรือพิสูจน์ได้แล้วว่าไม่ใช่เหยื่อ ทางเจ้าหน้าที่ได้ทำการส่งฟ้องศาลและดำเนินคดีต่อไปเช่นกัน
ทั้งนี้ จากการจัดอันดับของรัฐบาลสหรัฐอเมริกา พบว่า สถานการณ์การละเมิดสิทธิมนุษยชนของประเทศไทยยังน่าเป็นห่วง และหากภายใน 2 ปี ยังไม่ดีขึ้นจะมีการลดอันดับลง ซึ่งจะส่งผลต่อประเทศไทยอย่างมหาศาล ทั้งในเรื่องการค้า การส่งออก และแรงงาน ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ สตม.จะดำเนินการอย่างเต็มที่ เพื่อให้ภาพลักษณ์ประเทศดีขึ้น
