xs
xsm
sm
md
lg

จับเสี่ยจอมบงการปิดคดี! สั่งตายคนต้านถ่านหิน

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

28 กรกฎาคม 2554 คนร้ายใช้ปืนบาเร็ตต้า ขนาด .40 ลั่นไกยิง "นายทองนาค เสวกจินดา" อายุ 46 ปี แกนนำต่อต้านการขนส่งถ่านหินในพื้นที่ ต.ท่าทราย จ.สมุทรสาคร ขณะกำลังนั่งอยู่ที่โต๊ะม้าหินอ่อนหน้าบ้านที่เปิดเป็นร้านขายก๋วยเตี๋ยว โดยกระสุนเข้าไหล่ซ้าย 3 นัด เข้าช่องท้องและหน้าอก กระสุนฝังในทะลุหลัง 3 นัด รวม 6 นัด ซึ่งกระสุนปืนทั้งหมดได้เข้าไปทำลาย ปอด หัวใจ ตับ ทำให้เสียชีวิต หลังเกิดเหตุคนร้ายได้ขี่รถ จยย.หลบหนีไปอย่างรวดเร็ว

ความโหดร้ายที่เกิดขึ้นกับแกนนำต่อต้านโรงงานขนส่งถ่านหินครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เบาะแสจากพยานแวดล้อมว่ามีคนร้าย 2 คน สวมเสื้อแจ็คเก็ตสีดำ สวมหมวกกันน็อคปิดบังใบหน้า ขับขี่ จยย.ไม่ทราบยี่ห้อ และหมายเลขทะเบียน มาจอดใก้ลจุดเกิดเหตุบริเวณหน้าบ้านผู้ตาย โดยคนร้ายที่นั่งซ้อนท้ายเป็นคนยิงเป้าหมายหลายนัด ขณะที่กล้องวงจรปิดหน้าบ้านผู้ใหญ่ "บุญเชิด โรจน์รุ่ง" ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 4 ต.ท่าทราย ได้จับภาพรถคนร้ายไว้ได้ขณะขับรถหลบหนีผ่านไป ซึ่งภาพคนร้ายที่ปรากฎสวมหมวกปิดบังใบหน้า คนขี่สวมเสื้อผ้าชุดดำ ส่วนคนซ้อนท้ายสวมเสื้อเขียว โดยข้อมูลเหล่านี้เจ้าหน้าที่ตำรวจบอกว่าเป็นประโยชน์ต่อการสืบตามจับคนร้ายพอสมควร ประกอบกับคำยืนกรานของ "จอมขวัญ เสวกจินดา" ภรรยาผู้ตาย บอกว่าสามีไม่เคยมีเรื่องกับใครนอกจากถูกข่มขู่ผ่านมาทางคนรอบข้างตลอดว่า "ให้ระวังตัว เก่งนักเหรอ จะโดนอุ้ม จะโดนยิง" ซึ่งข้อมูลเบื้องต้นทั้งหมดทำให้เจ้าหน้าที่เกิดความมั่นใจในการขยายผลไล่ล่าคนร้ายมาดำเนินคดี

ปมที่จะนำไปสู่การสังหาร "ทองนาค เสวกจินดา" แกนนำคนสำคัญที่ต่อต้านโรงงานถ่านหินมานานกว่า 2 ปี ตำรวจมุ่งประเด็นไปที่การที่ผู้ตายรวมตัวกับชาวบ้านดักจับรถบรรทุกถ่านหิน ของบริษัทแห่งหนึ่งในพื้นที่จังหวัดสมุทรสาคร ที่ลักลอบนำถ่านหินเข้ามาในพื้นที่ ทั้งที่มีคำสั่งจากผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาครให้หยุดการขนถ่านหินทั้งเข้า และออก โดยหลังจากเกิดเหตุการณ์ชุมนุมใหญ่เมื่อวันที่ 13 ก.ค.ที่ผ่านมา "ทองนาค เสวกจินดา" และชาวบ้านได้ร่วมกันสกัดจับรถขนถ่านหิน ก่อนที่จะแจ้งให้เจ้าหน้าที่ทางหลวงชนบทมาจับกุมไปดำเนินคดี ประกอบกับก่อนการถูกลอบสังหารเพียง 2 วัน โดยเมื่อวันที่ 26 ก.ค. ที่ผ่านมา "ทองนาค เสวกจินดา" ได้ไปขึ้นศาลปกครอง เพื่อเป็นพยานในการดำเนินคดีกับบริษัท เทคนิคทีม (ประเทศไทย) จำกัด ที่นำถ่านหินเข้ามาในพื้นที่หมู่ที่ 4 ตำบลท่าทราย โดยมีคดีความกันมาตั้งแต่ประมาณเดือน ก.ย. 53 โดยญาติ ๆ บอกว่าก่อนถูกยิง "ทองนาค เสวกจินดา" เคยถูกข่มขู่จากเจ้าของรถขนถ่ายถ่านหินว่าให้ระวังตัวไว้ให้ดี

ต่อมาหลังจาก "ทองนาค เสวกจินดา" ไปขึ้นศาลปกครองเมื่อ 26 ก.ค. และมาถูกคนร้ายยิงเสียชีวิต เมื่อ 28 ก.ค. โดยในวันรุ่งขึ้น( 29 ก.ค.) ถัดจากวันตายของเจ้าตัว ศาลปกครองกลางได้มีคำสั่ง เกี่ยวกับคำขอกำหนดมาตรการหรือวิธีการคุ้มครอง เพื่อบรรเทาทุกข์ชั่วคราวก่อนการพิพากษาของผู้ฟ้องคดีที่ นายทองนาค ที่ 1 กับพวกรวม 3 คน ฟ้ององค์การบริหารส่วนตำบลท่าทรายว่า (ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1) สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดสมุทรสาคร (ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 2) สำนักงานขนส่งทางน้ำจังหวัดสมุทรสาคร (ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 3) และบริษัท เทคนิคทีม (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ร้องขอ ดำเนินการเกี่ยวกับการประกอบกิจการถ่านหินโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายสิ่งแวดล้อม ขอให้ศาลสั่งให้ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 2 ควบคุมการประกอบกิจการถ่านหินดังกล่าวให้ถูกต้องตามกฎหมาย และขอให้ศาลมีคำสั่งกำหนดมาตรการหรือวิธีการคุ้มครองเพื่อบรรเทาทุกข์ชั่วคราวก่อนการพิพากษา โดยให้หยุดการเก็บกองขนถ่าย และขนส่งถ่านหินในเขตพื้นที่ตำบลท่าทรายไว้เป็นการชั่วคราว ก่อนการพิพากษาคดี

หลังจากได้มีการพิจารณาจากข้อเท็จจริงแล้ว ศาลจึงได้มีคำสั่งให้ระงับการประกอบกิจการถ่านหินทุกกรณี ในพื้นที่ที่อยู่ในความรับผิดชอบของผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 โดยให้ผู้ถูกฟ้องคดีทั้งสาม ปฏิบัติหน้าที่ตามที่กฎหมายบัญญัติให้เป็นอำนาจหน้าที่ของผู้ถูกฟ้องคดีแต่ละรายไว้ เพื่อควบคุม ตรวจสอบ หรือกำกับให้มีการปฏิบัติตามคำสั่งศาล และคำสั่งของผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาครที่มีคำสั่งในพื้นที่ดังกล่าวอย่างเคร่งครัด ทั้งนี้จนกว่าศาลจะมีคำสั่งเป็นอย่างอื่น

จากเหตุการณ์สังหารอย่างอุกอาจกลางใจเมืองสมุทรสาครครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจภูธร ภาค 7 ตำรวจในท้องที่ และเพื่อให้เกิดความมั่นใจกับการทำงานของตำรวจ ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยพล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ผบ.ตร. ได้ประสานไปยังกองปราบปรามให้ลงพื้นที่ช่วยทำคดีคู่ขนานกันไปกับพื้นที่ เพื่อตรวจสอบที่มาที่ไป พร้อมตั้งรางวัลนำจับ 5 หมื่นบาท ล่ามือปืนยิงแกนนำต้านถ่านหิน และตั้ง "พล.ต.อ.ภาณุพงศ์ สิงหรา ณ อยุธยา" รองผบ.ตร. คุมทีมคลี่คลายเร่งรัดสืบสวนติดตามหาตัวคนร้ายที่ก่อเหตุมาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็วที่สุด

ถัดมา 4 วัน ในเช้าของวันที่ 1 ส.ค. แม้ความคืบหน้ายังไม่ชัดเจนว่าจะจับคนร้ายได้ แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจยังแสดงความเชื่อมั่นว่าจะจับคนร้ายฆ่า "ทองนาค เสวกจินดา" ได้เร็ว ๆ นี้ และในทางตรงกันข้ามความเคลื่อนไหวของบรรดาญาติ และแกนนำไม่เอาถ่านหินก็ได้แห่โลงศพเชิดชูวีรกรรม "ทองนาค" หลังถูกคนร้ายยิงเสียชีวิต ไปรอบเมืองมหาชัย ท่ามกลางสายฝนที่โปรยปรายลงมา โดยบนรถกระบะมีโลงศพเปล่า และรูปถ่าย "นายทองนาค เสวกจินดา" โดยจัดให้มีดอกไม้ธูปเทียนจุดบูชา เพื่อไว้อาลัยและเรียกดวงวิญญาณของ "ทองนาค" ให้รับรู้ในการเคลื่อนไหวเรียกร้องครั้งนี้ด้วย

ต่อมาในช่วงบ่ายวันเดียวกันสำนักงานตำรวจแห่งชาติ นำโดย "พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี" ผบ.ตร. "พล.ต.อ.ภาณุพงศ์ สิงหรา ณ อยุธยา" รองผบ.ตร. ได้แถลงการจับกุม 1.นายนิพนธ์ หรือ หมู ยันตะละพะ , 2.นายจักรพงศ์ หรือ พงศ์ ขวัญพันธุ์งาม , 3.นายสุชชเดช หรือ อี๊ด ทับไกร และในเวลาห่างกันไม่นานในช่วงเย็น มือปืนยิง "ทองนาค" คือ 4.นายโยธิน หรือ บอย เทพเรียน หลังถูกกดดันจากเจ้าหน้าที่อย่างหนักได้เข้ามอบตัว พร้อมด้วย 5.นายสิทธิโชค นอบน้อม หรือผู้ใหญ่เล็ก ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 2 ต.สวนส้ม อ.บ้านแพ้ว จ.สมุทรสาคร ซึ่งนายสิทธิโชค สารภาพว่า ได้รับการติดต่อจากผู้จ้างวานในราคา 3 แสนบาท ในการจัดหาทีมสังหารไปฆ่าแกนนำต่อต้านโรงงานถ่านหิน อย่างไรก็ตาม การเข้ามอบตัวของมือปืน และผู้ใหญ่เล็ก ทำให้เจ้าหน้าที่ขยายผลโยงไปถึงตัวผู้บงการจนสามารถออกหมายจับได้

ชั่วข้ามคืน วันที่ 2 ส.ค. ศาลจังหวัดสมุทรสาครได้อนุมัติหมายจับ นายธนยศ หรือ เบื้อก วงศ์พิมพ์ อายุ 53 ปี เจ้าของโรงงานถ่านหินในพื้นที่จังหวัดสมุทรสาคร ผู้เสียผลประโยชน์ ฐานะผู้จ้างวานฆ่า "ทองนาค เสวกจินดา" พร้อมกับออกหมายจับ "ไพโรจน์ หรืออุ้ย แสงสว่าง" อายุ 28 ปี ซึ่งทำหน้าที่ขับรถเทรลเลอร์คุ้มกันทีมสังหารซึ่ง "ไพโรจน์" ได้เข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ว

3 ส.ค. "ธนยศ หรือ เบื๊อก วงศ์พิมพ์" อายุ 53 ปี เจ้าของโรงถ่านหิน ผู้ต้องหาจ้างวานฆ่า "ทองนาค เสวกจินดา" เดินทางเข้ามอบตัวต่อสู้คดี ปฏิเสธข้อกล่าวหาทั้งหมด แต่ยอมรับรู้จัก "สิทธิโชค หรือผู้ใหญ่เล็ก นอบน้อม" มาประมาณ 7-8 ปีแล้ว อ้างช่วงทำบ่อกุ้งได้ไปมาหาสู่กัน พร้อมยืนยันทำถ่านหินมาประมาณ 3 เดือน โดยทำคนเดียว ได้รายได้ 2,000-3,000 บาทต่อวันเท่านั้น และมีรถวิ่งเพียง 2 คัน ส่วนตัวไม่เคยโกรธเคืองกับผู้ตาย แต่ผู้ตายได้ฟ้องโรงงานหลายบริษัท ย้ำว่าการเข้ามามอบตัวครั้งนี้ เพราะเจ้าหน้าที่ได้ออกหมายจับเป็นผู้ต้องหา จึงจำเป็นต้องมาแสดงตน เพื่อความบริสุทธิ์ใจ

ถือว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจทำงานอย่างรวดเร็วภายในเวลาเพียง 5 วัน สามารถปิดคดีโดยตามจับคนร้ายได้ยกทีมทั้งผู้บงการและกลุ่มมือปืนรวม 7 ราย ซึ่งการรวบกลุ่มคนร้ายทั้งหมด และการที่ศาลปกครองได้มีคำสั่งให้ระงับการประกอบกิจการถ่านหินทุกกรณีในพื้นที่จังหวัดสมุทรสาครคงทำให้ "ทองนาค เสวกจินดา" นอนตายตาหลับ กับการทุ่มเทต่อต้านโรงงานถ่านหินตลอดมาจนสิ้นลมหายใจ!
นายทองนาค เสวกจินดา อายุ 46 ปี แกนนำต่อต้านการขนส่งถ่านหินในพื้นที่ ต.ท่าทราย จ.สมุทรสาคร ที่ถูกยิงเสียชีวิต
 นายธนยศ หรือ เบื้อก วงศ์พิมพ์ อายุ 53 ปี เจ้าของโรงงานถ่านหินในพื้นที่จังหวัดสมุทรสาคร ผู้เสียผลประโยชน์ ฐานะผู้จ้างวานฆ่า ทองนาค เสวกจินดา
1.นายนิพนธ์ หรือ หมู ยัน  ตะละพะ , 2.นายจักรพงศ์ หรือ พงศ์ ขวัญพันธุ์งาม ผู้ต้องหาร่วมฆ่า ทองนาค
นายโยธิน หรือ บอย เทพเรียน มือปืนลั่นไกสังหาร ทองนาค
กำลังโหลดความคิดเห็น