ASTVผู้จัดการรายวัน- เจ้าของโรงถ่านหิน มอบตัวคดีจ้างวานฆ่า“ทองนาค”แกนนำต่อต้านโรงถ่านหิน ให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ขณะที่ตำรวจ มั่นใจหลักฐานชัด ส่วนคนขับรถเทรลเลอร์ที่คอยคุ้มกันทีมสังหารติดต่อขอเข้ามอบตัววันนี้ (4 ส.ค.)
วานนี้(3 ส.ค.) เวลา 11.00 น.ที่กองบังคับการตำรวจภูธรจ.สมุทรสาคร พล.ต.อ.ปานศิริ ประภาวัต รองผบ.ตร.(ปป.1) พร้อมด้วย พล.ต.ท.พงษ์สันต์ เจียมอ่อน ผบช.ภ.7 พล.ต.ต.บวร นันทะยาวงศ์ รองผบช.ภ.7 และพล.ต.ต.สมเกียรติ แสงสินศร ผบก.ภ.จว.สมุทรสาคร ร่วมรับมอบตัว นายธนยศ หรือ เบื๊อก วงศ์พิมพ์ อายุ 53 ปี เจ้าของโรงถ่านหิน ที่ถูกตั้งข้อกล่าวหาว่าใช้จ้างวานฆ่านายทองนาค เสวกจินดา แกนนำต่อต้านโรงงานถ่านหินในพื้นที่ ต.ท่าทราย อ.เมือง จ.สมุทรสาคร เมื่อวันที่ 28 ก.ค.ที่ผ่านมา
นายธนยศ ได้กล่าวปฏิเสธข้อกล่าวหาทั้งหมด พร้อมกล่าวว่า ที่ตนมาในวันนี้ เพื่อมาแสดงความบริสุทธิ์ โดยส่วนตัวรู้จักกับนายสิทธิโชค หรือผู้ใหญ่เล็ก นอบน้อม มาประมาณ 7-8 ปีแล้ว ช่วงที่ทำบ่อกุ้งได้ไปมาหาสู่กัน หลังจากตนทราบว่ามีหมายจับเมื่อวันที่ 2 ส.ค.ที่ผ่านมา ตนก็ได้โทรหา พ.ต.อ.บรรจง อมฤทธิ์ ผกก.สส.บก.สส.ภ.7 ให้พามามอบตัวทันที ทั้งนี้ตนได้ทำถ่านหินมาประมาณ 3 เดือน โดยทำคนเดียว ได้รายได้ 2,000-3,000 บาทต่อวัน และมีรถวิ่งเพียง 2 คัน และไม่เคยโกรธเคืองกับผู้ตาย แต่ผู้ตายได้ฟ้องโรงงานหลายบริษัท ทั้งนี้ การที่เข้ามามอบตัวครั้งนี้ เพราะเจ้าหน้าที่ได้ออกหมายจับเป็นผู้ต้องหา จึงจำเป็นต้องมาแสดงตน เพื่อความบริสุทธิ์ใจ
พล.ต.อ.ปานศิริ กล่าวว่า คดีที่เกิดขึ้นทาง ผบ.ตร.ได้มอบหมายให้ พล.ต.อ.ภาณุพงศ์ สิงหรา ณ อยุธยา รองผบ.ตร.(ปป.3) ดำเนินการด้านสืบสวนมือปืน และมอบหมายให้ตนสอบสวน เพื่อขยายผลถึงผู้ใช้จ้างวานให้ได้ โดยในขณะนี้นายธนยศ เข้ามอบตัวแล้ว ซึ่งตนก็มาดูในรูปคดีให้หลักฐานมั่นคงแข็งแรง โดยได้สั่งเพิ่มสำนวนบางประเด็น แต่ถ้าเกี่ยวข้องถึงใครตำรวจจะดำเนินการอย่างเต็มที่ โดยประเด็นสังหารนั้นเป็นเรื่องของถ่านหินแน่นอน ซึ่งตอนนี้หลักฐานค่อนข้างชัดทั้งพยานหลักฐาน และมือปืน พร้อมด้วยรถ โดยในส่วนของผู้จ้างวานจะสอบสวนให้ดีที่สุด
พล.ต.อ.ปานศิริ กล่าวว่า สำหรับผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมส่วนใหญ่จะรับสารภาพ ถึงแม้ให้การภาคเสธ แต่ก็เป็นประโยชน์ต่อรูปคดีอย่างมาก ซึ่งทั้งหมดขณะนี้ยังไม่มีการให้ประกันตัว เนื่องจากมีพยานถูกข่มขู่และมีความเกรงกลัว โดยพนักงานสอบสวนได้คัดค้านการประกันตัว หากพนักงานสอบสวน ได้สอบปากคำนายธนยศ แล้วเสร็จเมื่อไร ตนจะให้ทางกองปราบปราม ร่วมกับ ตร.ภาค 7 ไปตรวจค้นบ้านนายธนยศ อีกครั้ง เนื่องจากครั้งแรกอาจไม่ได้หลักฐานเพียงพอ
พ.ต.อ.จำแลง สุดใจ ผกก.สภ.เมืองสมุทรสาคร เปิดเผยว่า เบื้องต้นตำรวจได้นำตัว นายธนยศ ไปค้นบ้านเพื่อหาพยานหลักฐานที่อาจเชื่อมโยงถึงคดี แต่อย่างไรก็ตาม แม้ผู้ต้องหาจะให้การปฏิเสธ ซึ่งถือเป็นสิทธิของผู้ต้องหา ทางพนักงานสอบสวนก็มีพยานหลักฐานที่จะดำเนินการเอาผิดได้ และหลังจากตำรวจเดินทางไปค้นบ้านผู้ต้องหาแล้ว ได้ควบคุมตัวไปฝากขังยังศาลจังหวัดสมุทรสาคร พร้อมกับคัดค้านการประกันตัว เช่นเดียวกับผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมตัวได้ก่อนหน้านี้เช่นกัน
ทั้งนี้ นายไพโรจน์ แสงสว่าง หรือ อุ้ย แสงสว่าง อายุ 28 ปี คนขับรถเทรลเลอร์ที่คอยคุ้มกันทีมสังหาร ซึ่งตกเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับที่ 295/2554 ลงวันที่ 1 ส.ค.2554 ในข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและไตร่ตรองไว้ก่อนนั้น ได้ติดต่อขอเข้ามอบตัวกับพนักงานสอบสวนในวันนี้ (4 ส.ค.) เวลา 12.00 น.ที่ สภ.เมืองสมุทรสาคร
วานนี้(3 ส.ค.) เวลา 11.00 น.ที่กองบังคับการตำรวจภูธรจ.สมุทรสาคร พล.ต.อ.ปานศิริ ประภาวัต รองผบ.ตร.(ปป.1) พร้อมด้วย พล.ต.ท.พงษ์สันต์ เจียมอ่อน ผบช.ภ.7 พล.ต.ต.บวร นันทะยาวงศ์ รองผบช.ภ.7 และพล.ต.ต.สมเกียรติ แสงสินศร ผบก.ภ.จว.สมุทรสาคร ร่วมรับมอบตัว นายธนยศ หรือ เบื๊อก วงศ์พิมพ์ อายุ 53 ปี เจ้าของโรงถ่านหิน ที่ถูกตั้งข้อกล่าวหาว่าใช้จ้างวานฆ่านายทองนาค เสวกจินดา แกนนำต่อต้านโรงงานถ่านหินในพื้นที่ ต.ท่าทราย อ.เมือง จ.สมุทรสาคร เมื่อวันที่ 28 ก.ค.ที่ผ่านมา
นายธนยศ ได้กล่าวปฏิเสธข้อกล่าวหาทั้งหมด พร้อมกล่าวว่า ที่ตนมาในวันนี้ เพื่อมาแสดงความบริสุทธิ์ โดยส่วนตัวรู้จักกับนายสิทธิโชค หรือผู้ใหญ่เล็ก นอบน้อม มาประมาณ 7-8 ปีแล้ว ช่วงที่ทำบ่อกุ้งได้ไปมาหาสู่กัน หลังจากตนทราบว่ามีหมายจับเมื่อวันที่ 2 ส.ค.ที่ผ่านมา ตนก็ได้โทรหา พ.ต.อ.บรรจง อมฤทธิ์ ผกก.สส.บก.สส.ภ.7 ให้พามามอบตัวทันที ทั้งนี้ตนได้ทำถ่านหินมาประมาณ 3 เดือน โดยทำคนเดียว ได้รายได้ 2,000-3,000 บาทต่อวัน และมีรถวิ่งเพียง 2 คัน และไม่เคยโกรธเคืองกับผู้ตาย แต่ผู้ตายได้ฟ้องโรงงานหลายบริษัท ทั้งนี้ การที่เข้ามามอบตัวครั้งนี้ เพราะเจ้าหน้าที่ได้ออกหมายจับเป็นผู้ต้องหา จึงจำเป็นต้องมาแสดงตน เพื่อความบริสุทธิ์ใจ
พล.ต.อ.ปานศิริ กล่าวว่า คดีที่เกิดขึ้นทาง ผบ.ตร.ได้มอบหมายให้ พล.ต.อ.ภาณุพงศ์ สิงหรา ณ อยุธยา รองผบ.ตร.(ปป.3) ดำเนินการด้านสืบสวนมือปืน และมอบหมายให้ตนสอบสวน เพื่อขยายผลถึงผู้ใช้จ้างวานให้ได้ โดยในขณะนี้นายธนยศ เข้ามอบตัวแล้ว ซึ่งตนก็มาดูในรูปคดีให้หลักฐานมั่นคงแข็งแรง โดยได้สั่งเพิ่มสำนวนบางประเด็น แต่ถ้าเกี่ยวข้องถึงใครตำรวจจะดำเนินการอย่างเต็มที่ โดยประเด็นสังหารนั้นเป็นเรื่องของถ่านหินแน่นอน ซึ่งตอนนี้หลักฐานค่อนข้างชัดทั้งพยานหลักฐาน และมือปืน พร้อมด้วยรถ โดยในส่วนของผู้จ้างวานจะสอบสวนให้ดีที่สุด
พล.ต.อ.ปานศิริ กล่าวว่า สำหรับผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมส่วนใหญ่จะรับสารภาพ ถึงแม้ให้การภาคเสธ แต่ก็เป็นประโยชน์ต่อรูปคดีอย่างมาก ซึ่งทั้งหมดขณะนี้ยังไม่มีการให้ประกันตัว เนื่องจากมีพยานถูกข่มขู่และมีความเกรงกลัว โดยพนักงานสอบสวนได้คัดค้านการประกันตัว หากพนักงานสอบสวน ได้สอบปากคำนายธนยศ แล้วเสร็จเมื่อไร ตนจะให้ทางกองปราบปราม ร่วมกับ ตร.ภาค 7 ไปตรวจค้นบ้านนายธนยศ อีกครั้ง เนื่องจากครั้งแรกอาจไม่ได้หลักฐานเพียงพอ
พ.ต.อ.จำแลง สุดใจ ผกก.สภ.เมืองสมุทรสาคร เปิดเผยว่า เบื้องต้นตำรวจได้นำตัว นายธนยศ ไปค้นบ้านเพื่อหาพยานหลักฐานที่อาจเชื่อมโยงถึงคดี แต่อย่างไรก็ตาม แม้ผู้ต้องหาจะให้การปฏิเสธ ซึ่งถือเป็นสิทธิของผู้ต้องหา ทางพนักงานสอบสวนก็มีพยานหลักฐานที่จะดำเนินการเอาผิดได้ และหลังจากตำรวจเดินทางไปค้นบ้านผู้ต้องหาแล้ว ได้ควบคุมตัวไปฝากขังยังศาลจังหวัดสมุทรสาคร พร้อมกับคัดค้านการประกันตัว เช่นเดียวกับผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมตัวได้ก่อนหน้านี้เช่นกัน
ทั้งนี้ นายไพโรจน์ แสงสว่าง หรือ อุ้ย แสงสว่าง อายุ 28 ปี คนขับรถเทรลเลอร์ที่คอยคุ้มกันทีมสังหาร ซึ่งตกเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับที่ 295/2554 ลงวันที่ 1 ส.ค.2554 ในข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและไตร่ตรองไว้ก่อนนั้น ได้ติดต่อขอเข้ามอบตัวกับพนักงานสอบสวนในวันนี้ (4 ส.ค.) เวลา 12.00 น.ที่ สภ.เมืองสมุทรสาคร
