ประหารชีวิตสาวพม่า และเพื่อนชาติเดียวกัน ร่วมกับหนุ่มไทยค้ายาบ้าเกือบแสนเม็ด ศาลปรานีลดโทษคงเหลือจำคุกตลอดชีวิต ส่วนเอเยนต์หนุ่มไทยเหลือจำคุก 25 ปี
วันนี้ (5 ส.ค.) ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลออกนั่งบัลลังก์อ่านคำพิพากษาคดีที่พนักงานอัยการฝ่ายคดียาเสพติดเป็นโจทก์ ฟ้อง นายชุติเดช บุญทวี อายุ 43 ปี ชาว จ.ชลบุรี น.ส.นางฟอง อายุ 26 ปี และ น.ส.หญิงอ้อ อายุ 24 ปี ทั้งสองมีสัญชาติพม่า ร่วมกันเป็นจำเลยที่ 1-3 ตามลำดับในความผิดฐานมีเมตแอมเฟตามีน หรือ ยาบ้า ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย
โดยคดีนี้โจทก์ฟ้องสรุปว่าเมื่อช่วงระหว่างปี พ.ศ.2549 - วันที่ 23 ธ.ค.2552 เจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการปราบปรามยาเสพติด 1 รับแจ้งจากสายลับว่าจำเลยที่ 1 เป็นเอเยนต์ค้ายาเสพติด จึงติดตามพฤติการณ์มาตลอด กระทั่งทราบว่าจำเลยที่ 1 ได้ขับรถยนต์ ฮอนด้า สีขาว ทะเบียน กบ 9689 ชลบุรี จาก จ.ชลบุรี ลงทางด่วน ถ.วิภาวดี เข้า ถ.ลาดพร้าว เลี้ยวไปตาม ถ.สตรีวิทยา 2 แล้ว จอดข้างทาง จากนั้นจำเลยที่ 2, 3 ได้ถือกล่องของขวัญคนละ 1 กล่องเดินข้ามถนนมาขึ้นรถ เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวขอตรวจค้นภายในกล่องของขวัญทั้ง 2 กล่อง มียาบ้าสีส้มสีแดงจำนวน 32,000 เม็ด ซุกซ่อนอยู่ สอบสวนขยายผลทราบอีกว่าจำเลยที่ 3 ได้เปิดห้องพักที่ โรงแรมโชคชัย เพลส ย่าน ถ.โชคชัย 4 จึงไปตรวจค้นพบยาบ้าอีก 60,000 เม็ด ซุกซ่อนในกระเป๋าเสื้อผ้า จึงนำจำเลยและยาบ้าของกลางส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดี จำเลยที่ 1 และ 3 ให้การรับสารภาพ ส่วนจำเลยที่ 2 ให้การปฏิเสธ อ้างว่า ไม่มีส่วนรู้เห็นเกี่ยวกับยาเสพติดแต่อย่างใด
ศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานแล้ว เห็นว่า ฝ่ายโจทก์มีเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมเข้าเบิกความ เป็นลำดับขั้นตอนสอดคล้องเชื่อมโยงต่อเนื่องกันปราศจากข้อสงสัย อีกทั้งของกลางมีจำนวนมากยากที่เจ้าหน้าที่จะตระเตรียมมาเพื่อปรักปรำใส่ร้ายจำเลย พยานโจทก์มีน้ำหนักมั่นคง เพราะหากจำเลยที่ 2 ไม่รู้เห็น จำเลยที่ 3 คงไม่นำจำเลยที่ 2 ไปด้วยกัน เพราะเป็นการเสี่ยง เชื่อว่าจำเลยที่ 2 ร่วมกระทำผิดด้วย
พิพากษาจำเลยทั้ง 3 มีความผิด ตาม พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 มาตรา 15 วรรคหนึ่ง, วรรคสาม (2) มาตรา 66 วรรคสาม ประกอบมาตรา 83 ตามประมวลกฎหมายอาญา จำคุกจำเลยที่ 1 ตลอดชีวิต ปรับ 4.8 ล้านบาท ส่วนจำเลยที่ 2, 3 ให้ประหารชีวิต ปรับคนละ 4.8 ล้านบาท
ทั้งนี้ จำเลยที่ 1 และ 3 ให้การรับสารภาพ เป็นประโยชน์ต่อการพิจารณา ลดโทษให้กึ่งหนึ่งคงจำคุกจำเลยที่ 1 ไว้ 25 ปี จำเลยที่ 2 จำคุกตลอดชีวิต ปรับคนละ 2.4 ล้านบาท สำหรับจำเลยที่ 3 ชั้นพิจารณาให้การเป็นประโยชน์บ้าง ลดโทษให้ 1 ใน 3 คงจำคุกไว้ตลอดชีวิต ปรับ 3.2 ล้านบาท ริบของกลาง
