กองปราบฯ ตามรวบโชเฟอร์แท็กซี่หนีคดีซิ่งรถชนเสาไฟฟ้าทำ 2 สาวค้ายาบ้าดับ 1 แขนขาดอีก 1 ตำรวจผงะพบยาบ้าซุกช่องคลอด 2 สาว 2.7 หมื่นเม็ด เจ้าตัวรับหนีตั้งหลักและไม่รู้เห็นกับยาบ้าจำนวนดังกล่าว
วานนี้ (4 ส.ค.) ที่กองปราบปราม เมื่อเวลา 19.00 น. พ.ต.อ.อธิป แท่นนิล ผกก.5 บก.ป. พ.ต.ท.สมบัติ มีมงคล สว.กก.5 บก.ป.นำกำลังจับกุม นายธนากร หรือแจ๊ค เกตุประดิษฐ์ อายุ 38 ปี อาชีพขับรถแท็กซี่ อยู่บ้านเลขที่ 93/3 หมู่ 5 ต.คูบางหลวง อ.ลาดหลุมแก้ว จ.ปทุมธานี ตามหมายจับศาลจังหวัดนครปฐม ที่ 387/2554 ลงวันที่ 4 สิงหาคม 2554 ข้อหาขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ทรัพย์สินผู้อื่นได้รับความเสียหาย, ขับรถในทางที่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อบุคคล ทรัพย์สินผู้อื่นแล้วไม่หยุดช่วยเหลือหรือแจ้งต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ โดยจับกุมได้ที่หน้าบริษัท แกรนด์สปอร์ต จำกัด แขวงคลองกุ่ม เขตบึงกุ่ม กทม.
ทั้งนี้เมื่อเวลา 04.30 น.วันที่ 9 มิถุนายนที่ผ่านมา ผู้ต้องหาซึ่งขับรถแท็กซี่ยี่ห้อโตโยต้า สีชมพู ทะเบียน ทศ 8092 กรุงเทพมหานคร ได้รับว่าจ้างจากนางสุดาพร พรรุ่งเรืองลาภ อายุ 38 ปี และนางอรทัย อภิสุนทรกุล อายุ 32 ปี ชาว จ.เชียงราย จากบริเวณห้างสรรพสินค้าฟิวเจอร์พาร์ครังสิต ให้ไปส่งที่บริเวณหน้าห้างบิ๊กซีนครปฐม แต่ระหว่างทางได้ประสบอุบัติเหตุพลิกคว่ำชนกับเสาไฟฟ้าบนถนนเพชรเกษม กม.ที่ 44 ต.บางแก้ว อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ทำให้นางอรทัยซึ่งนั่งอยู่ที่เบาะหลังเสียชีวิต ส่วนนางสุดาพรได้รับบาดเจ็บแขนขาด
ต่อมา พนักงานสอบสวน สภ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ได้รับแจ้งและเข้าตรวจสอบเหตุที่เกิดขึ้นแล้ว พบกระเป๋าสะพาย 2 ใบ และเครื่องช็อตไฟฟ้า ขณะที่นางสุดาพรซึ่งได้รับบาดเจ็บอยู่นั้นยังไม่ยอมให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยทำแผลเพื่อปฐมพยาบาลในเบื้องต้น แต่กลับขอตัวไปถ่ายปัสสาวะที่ป่าข้างทางด้วยท่าทางมีพิรุธ เมื่อเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบบริเวณดังกล่าวจึงพบห่อยาบ้า 2 มัด บรรจุอยู่ในถุงยางอนามัย รวมกว่า 12,000 เม็ด จึงคุมตัวนางสุดาพรเอาไว้ โดยนางสุดาพรให้การว่ายังมียาบ้าถูกซุกซ่อนในช่องคลอดของนางอรทัยผู้เสียชีวิตอีกด้วย จึงนำศพไปเอกซเรย์ที่โรงพยาบาล พบยาบ้าอีกกว่า 15,000 เม็ดตามที่นางสุดาพรให้การไว้ ขณะที่นายธนากร โชเฟอร์แท็กซี่หลังเกิดเหตุได้อาศัยช่วงชุลมุนหลบหนีไป
จากการสอบสวน นางสุดาพรระบุว่าช่วงที่นั่งอยู่ในรถแท็กซี่นั้น นายธนากรได้ขับพาตนกับผู้เสียชีวิตออกนอกเส้นทาง กระทั่งเมื่อถึงบริเวณจุดเกิดเหตุ นายธนากรก็นำเครื่องช็อตไฟฟ้าออกมาโดยพยายามจะจี้ตนกับผู้เสียชีวิต แต่ตนฮึดสู้จึงเป็นเหตุให้รถเกิดเสียหลักพลิกคว่ำ อย่างไรก็ตาม ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อ และได้ซักถามถึงยาบ้าที่พบในตัวและเตรียมพิจารณาดำเนินคดี จากนั้นทางพนักงานสอบสวนได้รวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติหมายจับนายธนากร ก่อนที่ชุดสืบสวน กก.5 บก.ป.จะสามารถติดตามจับกุมตัวนายธนากรไว้ได้ดังกล่าว
ขณะที่ นายธนากรให้การว่า ตนไม่ได้มีเจตนาที่จะหลบหนี แต่ด้วยความตกใจและรู้สึกกลัวจนทำอะไรไม่ถูกจึงคิดว่าจะต้องหนีไปก่อน ส่วนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ทราบว่าผู้เสียชีวิตมียาบ้าติดตัวอยู่ด้วย และยืนยันว่าไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องยาเสพติด โดยรับทั้งสองโดยสารมากับรถตามที่เขาได้จ้าง ซึ่งตนต่อรองขอให้เหมาจ่ายเป็นเงิน 800 บาท แต่ก็กดมิตเตอร์ไว้ด้วย และไม่ได้ก่อเหตุใช้เครื่องช็อตไฟฟ้าจี้ทั้งสองแต่อย่างใด
นายธนากรให้การอีกว่า สำหรับสาเหตุที่ต้องพกเครื่องช็อตไฟฟ้าไว้กับตัวนั้นก็เพื่อใช้ป้องกันตัว เพราะก่อนหน้านี้ตนเคยถูกคนร้ายที่แฝงตัวมาในคราบผู้โดยสารจี้ชิงทรัพย์ และทำร้ายร่างกาย แถมยังถูกโยนกุญแจรถทิ้งไปกว่าจะหาเจอและขับรถกลับมาได้ก็ใช้เวลานาน ซึ่งครั้งนั้นนับว่ายังโชคดีที่ตนรอดชีวิตมาได้จึงทำให้รู้สึกแค้นใจและต้องเตรียมอุปกรณ์ป้องกันตัวเอาไว้ โดยตนเคยพกกระบองเวลาออกขับรถทำงาน แต่ก็ต้องเจอด่านตรวจของตำรวจยึดไปจึงหันมาพกเครื่องช็อตไฟฟ้าดังกล่าว ทั้งนี้ ชุดจับกุมได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาส่ง สภ.นครชัยศรี รับไว้ดำเนินคดีต่อไป