xs
xsm
sm
md
lg

จับนักธุรกิจเมืองนนท์โกงซื้อขายน้ำตาล 60 ล้าน

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

นายสรายุทธ แสนสุข อายุ 53 ปี นักธุรกิจชาวนนทบุรี ผู้ต้องหาฉ้อโกงน้ำตาล 60 ล้าน ปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา
กองปราบฯ ตามรวบนักธุรกิจใหญ่ชาวนนทบุรี ร่วมกับพวกปลอมเอกสาร อ้างได้รับโควตาน้ำตาล มีนักการเมืองชาวชลบุรี รับประกัน หลอกขายน้ำตาลทรายให้นักธุรกิจชาวอินโดนีเซีย มูลค่า 60 ล้าน แต่ไม่ได้รับของตามที่ตกลง เจ้าตัวปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา

วันนี้ (8 ก.ค.) เมื่อเวลา 10.30 น.ที่ กองปราบปราม พล.ต.ต.สุพิศาล ภักดีนฤนาถ ผบก.ป. พ.ต.อ.ปิยะ เจริญสุข ผกก.1 บก.ป. พ.ต.ท.เกียรติศักดิ์ สระทองออย รองผกก.1 บก.ป. พ.ต.ท.คณพัฒน์ พาหุมันโต สว.กก.1 บก.ป. และ พ.ต.ท.ธีรพัฒน์ ธารีไทย สว.กก.1.บก.ป. ร่วมจับกุมนายสรายุทธ แสนสุข อายุ 53 ปี นักธุรกิจ และผู้บริหารบริษัท สามเสน ไอแม็กซ์ จำกัด ชาวนนทบุรี ตามหมายจับศาลแขวงพระนครใต้ ที่ 191/2549 ลงวันที่ 7 มีนาคม 2549 ข้อหาร่วมกันฉ้อโกง โดยจับกุมตัวได้ที่บ้านเลขที่ 40/3352-3 ประชานิเวช 3 ซ.25 ต.ท่าทราย อ.เมือง จ.นนทบุรี

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 25 ม.ค.-18 ส.ค.2548 ผู้ต้องหาร่วมกับพวก ซึ่งเป็นบุคคลและนิติบุคคล รวม 9 คน หลอกขายน้ำตาลทราย จำนวน 3.7 หมื่นตัน ให้กับ นายบูดี้ ยูโวโน นักธุรกิจชาวอินโดนีเซีย ซึ่งได้รับสัมปทานจากรัฐบาลอินโดนีเซียให้เป็นผู้นำเข้าน้ำตาลทราย มูลค่าความเสียหาย 60 ล้านบาท ซึ่งผู้เสียหายได้เข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน กก.1 บก.ป.ต่อมาพนักงานสอบสวนรวบรวมหลักฐานพบว่าบริษัท เกรท มอเตอร์ จำกัด โดยมีนายคฑา เศรษฐบุตร เป็นกรรมการผู้จัดการ และ นางทศพร เจียรพัฒนาคม มีส่วนเกี่ยวข้องจึงได้เรียกตัวมารับทราบข้อหาแล้ว

ส่วน นายสรายุทธ นั้น เป็นผู้นำใบส่งสินค้ามาให้ผู้เสียหาย เพื่อไปรอรับน้ำตาลที่ท่าเรือในประเทศอินโดนีเซีย แต่เมื่อถึงนัดหมายปรากฏว่าไม่มีเรือส่งสินค้ามาแต่อย่างใด ซึ่งเมื่อทวงถามก็ถูกบ่ายเบี่ยงจนทำให้ถูกรัฐบาลอินโดนีเซียสั่งปรับเป็นเงินจำนวน 19 ล้านบาท ผู้เสียหายจึงนำใบส่งสินค้าไปตรวจสอบพบว่าเป็นเอกสารที่ทำปลอมขึ้น จึงเข้ามาแจ้งความดำเนินคดีครั้งนี้ โดยหนึ่งในตัวการสำคัญที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้เป็นนักการเมืองท้องถิ่น จ.ชลบุรี คนหนึ่งที่อ้างว่าได้รับโควต้าน้ำตาลที่มีนักการเมืองระดับชาติรับประกันจึงทำให้นักธุรกิจที่มาติดต่อหลงเชื่อทำธุรกิจด้วยเพราะเชื่อว่าไม่น่ามีปัญหาใดๆ ซึ่งหลังจากนี้พนักงานสอบสวนจะได้รวบรวมหลักฐานออกหมายเรียกผู้เกี่ยวข้องมารับทราบข้อหาอีกครั้ง

เบื้องต้น นายสรายุทธ ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา โดยอ้างว่า ก่อนหน้านี้ตนทำธุรกิจสัมปทานไม้ในพม่า ทำบ่อทราย แร่ และธุรกิจอีกหลายอย่าง ซึ่งเป็นพ่อค้าคนกลางซื้อมาขายไปเพื่อเอากำไร ต่อมารู้จักนักการเมืองท้องถิ่น จ.ชลบุรี คนหนึ่ง ซึ่งอ้างว่ามีน้ำตาลทรายจำนวนมากซึ่งมีนักการเมืองระดับชาติรับประกัน พร้อมทั้งพาไปดูน้ำตาลทรายในเรือสินค้าที่เกาะสีชัง และในโกดังย่านพระประแดง จ.สมุทรปราการ

“ช่วงแรกผมยังไม่ค่อยเชื่อใจแต่นักการเมืองผู้นี้ได้ชวนไปที่บ้านพักใน จ.ชลบุรี เมื่อไปถึงก็พบ นายสมชาย คุณปลื้ม หรือกำนันเป๊าะนั่งอยู่ ด้วย โดยทั้งคู่ดูสนิทสนมกันจนถึงขั้นดึงพระเครื่องออกจากคอมาดูกันได้ จึงเกิดความเชื่อใจ” นายสรายุทธ กล่าว

นายสรายุทธ กล่าวต่อว่า จากนั้นตนได้ติดต่อเพื่อนนักธุรกิจด้วยกันให้หาลูกค้ามาซื้อ ก็ได้บริษัทน้ำตาลจากอินโดนีเซีย และนักการเมืองท้องถิ่นผู้นี้เป็นผู้ดำเนินการส่งสินค้าทางเรือทั้งหมดซึ่งตนก็ได้จ่ายเงินสดให้ไป 60 ล้านบาท โดยจ่ายเงินให้ที่ห้างสรรพสินค้าบิ๊กซี บางนา จำนวน 20 ล้านบาท และจ่ายที่โกดังย่านพระประแดง อีก 40 ล้านบาทแต่นักการเมืองท้องถิ่นผู้นี้ให้ลูกน้องเป็นคนเซ็นรับมอบเงินแทน ต่อมาทราบว่าถูกหลอกและออกหมายจับในคดีดังกล่าวซึ่งขอยืนยันว่าไม่ได้มีส่วนร่วมในการโกงแต่อย่างใด

สำหรับผู้ต้องหากลุ่มนี้ยังถูกผู้เสียหายซึ่งเป็นนักธุรกิจอีกหลายรายเข้าแจ้งความดำเนินคดีในกรณีที่ถูกหลอกให้ซื้อขายน้ำตาลมูลค่าหลายล้านบาทเช่นเดียวกัน ซึ่งบางคดีได้เรียกตัวผู้ที่เกี่ยวข้องรวมทั้งนักการเมืองท้องถิ่นรายนี้มารับทราบข้อกล่าวหา และสั่งฟ้องต่ออัยการไปแล้วในข้อหา ร่วมกันฉ้อโกงซื้อขายน้ำตาลทรายขาว มูลค่าเกือบ 20 ล้านบาท ซึ่งมีนายปิติพล ถิ่นพนม อายุ 46 ปี กรรมการบริษัท เอส เอส เวิลด์ อิมพอร์ต จำกัด เป็นผู้เสียหาย
กำลังโหลดความคิดเห็น