อดีต ส.จ.ชลบุรี ส่งทนายขอเลื่อนเข้ารับทราบข้อกล่าวหาคดีหลอกขายน้ำตาลทราย อ้างติดภารกิจรับเลือกตั้งนายกเทศมนตรี ขณะที่ ตร.พิจารณาเห็นว่าเหตุผลฟังไม่ขึ้น จะดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมาย ด้านคนใกล้ชิดอดีต ส.จ.รุดเข้ามอบตัวในคดีเดียวกัน พร้อมให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา
วันนี้ ( 26 ก.ค.) เมื่อเวลา 15.30 น.ที่ กองปราบปราม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสมศักดิ์ เนตรนิมิตร อดีต ส.จ.ชลบุรี ผู้ต้องหาตามหมายเรียกคดีร่วมกันฉ้อโกงและปลอมแปลงเอกสาร กรณีหลอกขายน้ำตาลทรายให้กับ นายบูดี้ ยูโวโน เจ้าของบริษัท พีที บูมิเรโจ จำกัด ชาวอินโดนีเซีย มูลค่าเสียหายกว่า 80 ล้านบาท ได้มอบอำนาจให้ทนายความ เดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.พงษ์ไสว แช่มลำเจียก พนักงานสอบสวน (สบ3) กก.1 บก.ป.เพื่อขอเลื่อนเข้ารับทราบข้อกล่าวหาดังกล่าว
นายสมศักดิ์ อ้างว่า ติดภารกิจรับสมัครเลือกตั้งนายกเทศมนตรี อ.เกาะสีชัง จ.ชลบุรี ภายในเดือนตุลาคมนี้ โดยให้เหตุผลว่าหากปรากฏเป็นข่าวถูกเผยแพร่ทางสื่อมวลชนแขนงต่างๆ จะทำให้เสียชื่อเสียง และยังไม่ขอกำหนดวัน เวลา การเข้าพบพนักงานสอบสวน
อย่างไรก็ตาม ทาง พ.ต.ท.พงษ์ไสว ได้ปฏิเสธการขอเลื่อนการรับทราบข้อกล่าวหาในครั้งนี้เนื่องจากพิจารณาแล้วเห็นว่า เหตุผลของผู้ต้องหาฟังไม่ขึ้น โดยหลังจากนี้ จะพิจารณาดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป
ทั้งนี้ วันเดียวกัน นายสมศักดิ์ ศักดิ์เกษมชัยกุล หรือ แซม อายุ 69 ปี คนใกล้ชิดของนายสมศักดิ์ อดีต ส.จ.ชลบุรี ได้เข้ามอบตัวกับพนักงานสอบสวน บก.ป.ในคดีเดียวกันนี้แล้ว พร้อมกับให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหาโดยขอให้การในชั้นศาลเท่านั้น
สำหรับ นายสมศักดิ์ หรือ แซม มีพฤติการณ์ในการร่วมกระทำความผิด เนื่องจากได้เดินทางไปฮ่องกง กับ นายสมศักดิ์ อดีต ส.จ.ชลบุรี เพื่อรับเงินค่ามัดจำในการสั่งซื้อน้ำตาลทรายจาก นายบูดี้ ยูโวโน ผู้เสียหาย เมื่อช่วงกลางปี 2548 เป็นจำนวน 30-40 ล้านบาท อย่างไรก็ดี คดีนี้ยังคงเหลือผู้ต้องหาอีก 3 ราย ที่ยังไม่เข้าพบพนักงานสอบสวนเพื่อรับทราบข้อกล่าวหาดังกล่าว
ทั้งนี้ สำหรับคดีที่เกิดขึ้นนี้ สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 25 มกราคม-18 สิงหาคม 2548 นายสมศักดิ์ ได้ร่วมกับพวก ซึ่งเป็นบุคคลและนิติบุคคล รวม 9 คน หลอกขายน้ำตาลทราย จำนวน 3.7 หมื่นตันมูลค่า 1.9 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือคิดเป็นเงินไทยกว่า 60 ล้านบาท ให้กับ นายบูดี้ ยูโวโน เจ้าของบริษัท พีที บูมิเรโจ จำกัด ชาวอินโดนีเซีย ซึ่งได้รับสัมปทานจากรัฐบาลอินโดนีเซียให้เป็นผู้นำเข้าน้ำตาลทราย แต่ภายหลังผู้ต้องหากลับไม่ส่งสินค้าให้กับผู้เสียหาย เมื่อทวงถามก็ถูกบ่ายเบี่ยงจนทำให้ถูกรัฐบาลอินโดนีเซีย สั่งปรับเป็นเงินอีก 20 ล้านบาท รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 80 ล้านบาท
ต่อมา ทางผู้เสียหายได้เข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน กก.1 บก.ป.ดำเนินคดีกับกลุ่มผู้ต้องหาทั้ง 9 ราย ซึ่งพนักงานสอบสวนพิจารณาออกหมายเรียกไปแล้ว จากนั้น นายคฑา เศรษฐบุตร และ นางทศพร เจียรพัฒนาคม กรรมการผู้จัดการบริษัท เกรท มอเตอร์ จำกัด ได้เข้ารับทราบข้อหา ส่วน นายสรายุทธ แสนสุข อายุ 53 ปี ผู้บริหารบริษัท สามเสน ไอแม็กซ์ จำกัด ถูกจับกุมตัวได้ที่บ้านเลขที่ 40/3352-3 ประชานิเวช 3 ซอย 25 ต.ท่าทราย อ.เมือง จ.นนทบุรี เมื่อวันที่ 8 กรกฎาคมที่ผ่านมา และล่าสุด นายรุ่งโรจน์ สุวรรณศรี อายุ 43 ปี เจ้าของบริษัท สุวรรณศรีทรานสปอร์ต จำกัด บริษัทที่ได้รับว่าจ้างให้ส่งสินค้า หนึ่งในผู้ต้องหาได้เข้ามอบตัวเมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม ที่ผ่านมา โดยให้การปฏิเสธว่าไม่มีส่วนรู้เห็นเรื่องการฉ้อโกงและขอต่อสู้คดีในชั้นศาล