ผบก.น.9 สั่งทีมสืบทุกโรงพักหาข่าวคนต้องสงสัย เร่งตามจับคนร้ายยิง “ดาบตำรวจ” เสียชีวิต ชี้เป็นเหตุอุกอาจกล้ายิง จิตใจโหดเหี้ยม ไม่กลัวกฎหมาย เผยมุ่งเป้าไปที่คนร้ายมีหมายจับคดีค้างเก่า-กลุ่มค้ายาเสพติดรายใหญ่ในพื้นที่ เพราะชักปืนยิง ตร.ในเครื่องแบบได้แม่นยำ ต้องเชี่ยวชาญฝึกฝนมา พร้อมเรี่ยไรเงินช่วยครอบครัว ด.ต.5 แสนบาท ด้าน จ.ส.ต.ที่บาดเจ็บจะเรี่ยไรเงิน 1.5 แสนบาท มอบให้บ่ายนี้ ขณะที่ “ภาณุพงศ์” นัดถกคลี่คลายคดีวันที่ 10 ก.ค.อีกครั้ง
วันนี้ (8 ก.ค.) เมื่อเวลา 10.30 น. ที่กองบังคับการตำรวจนครบาล 9 พล.ต.ต.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผบก.น.9 เปิดเผยถึงความคืบหน้ากรณีที่ ด.ต.ชูกิจ เจริญธนารักษ์ อายุ 42 ปี ผบ.หมู่ ป.สน.หนองแขม ถูกยิงเสียชีวิต และ จ.ส.ต.ประเสริฐ กล่ำศรี อายุ 46 ปี เจ้าหน้าที่สายตรวจ สน.หนองแขม ได้รับบาดเจ็บ ขณะเรียกตรวจค้นวัยรุ่นต้องสงสัย ใกล้กับปากซอยเพชรเกษม 81 เหตุเกิดเมื่อวานที่ผ่านมา (7 ก.ค.) นั้น ว่า หลังเกิดเหตุ พล.ต.อ.ภาณุพงศ์ สิงหรา ณ อยุธยา รอง ผบช.น.ได้เรียกประชุมชุดคลี่คลายคดีทั้งในส่วนของ บก.น.9 และ บก.สส.บช.น. เพื่อเเบ่งหน้าที่กันทำงาน โดยให้ทาง สน.หนองแขม เร่งรวบรวมพยานหลักฐาน และตรวจสอบดูจากกล้องวงจรปิดให้ได้มากที่สุด ส่วน บก.สส.บช.น.ให้ใช้ยุทธวิธีการสืบสวนทางเทคนิค อย่างไรก็ตาม พล.ต.อ.ภาณุพงศ์จะมีการเรียกประชุมเพื่อติดตามความคืบหน้าคดีอีกครั้งในวันที่ 10 ก.ค.นี้ เวลา 14.00 น. ซึ่งขณะนี้ตนได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ กก.สส.บก.น.9 และฝ่ายสืบสวนทุกโรงพัก ให้ช่วยกันหาข่าวเกี่ยวกับบุคคลต้องสงสัยให้ได้มากที่สุด เนื่องจากคนร้ายรายนี้มีพฤติกรรมอุกอาจจิตใจโหดเหี้ยมกล้ายิง แม้เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจในเครื่องแบบอย่างไม่เกรงกลัวกฎหมาย
พล.ต.ต.ภัคพงศ์กล่าวอีกว่า ขณะนี้ตนได้มอบหมายให้ พ.ต.อ.ทักษิณ พ่วงเงิน รอง ผบก.น.9 ควบคุมการทำงานอย่างใกล้ชิด ส่วนแนวทางการสืบสวนยังมุ่งเป้าไปที่คนร้าย ซึ่งมีหมายจับคดีค้างเก่าติดตัวและกลุ่มยาเสพติดรายใหญ่ในพื้นที่ เนื่องจากคนที่จะชักปืนยิงตำรวจในเครื่องแบบ และยิงได้อย่างแม่นยำขนาดนี้ต้องเป็นผู้ที่ฝึกฝนการใช้อาวุธมาอย่างเชี่ยวชาญพอสมควร ซึ่งเบื้องต้นได้ให้ฝ่ายสืบสวนกระจายกำลังหาข่าวและกดดันคนร้ายในรัศมีไกลจากที่เกิดเหตุประมาณ 1 กิโลเมตร ส่วนการติดตามผลการตรวจสอบลายนิ้วมือแฝง และดีเอ็นเอที่คาดว่าน่าจะมีติดอยู่ที่ปลอกกระสุน ลูกกระสุน และแมกกาซีนปืน ขนาด 11 มม.ที่คนร้ายทำตกเอาไว้ ทราบว่า พล.ต.อ.ภาณุพงศ์ได้เร่งรัดไปที่กองพิสูจน์หลักฐานให้ช่วยส่งผลกลับมาอย่างเร่งด่วนเป็นกรณีพิเศษแล้วอย่างไรก็ตาม ยืนยันว่าตำรวจทุกหน่วยงานเร่งทำงานอย่างเต็มที่ เพื่อให้ได้ตัวคนร้ายรายนี้มาดำเนินคดีให้ได้อย่างรวดเร็วที่สุด
“สำหรับแนวทางการช่วยเหลือครอบครัว ด.ต.ชูกิจ เจริญธนารักษ์ ผู้เสียชีวิตนั้นเบื้องต้นกลุ่มข้าราชการตำรวจและพ่อค้าประชาชนในพื้นที่ บก.น.9 ได้ช่วยกันเรี่ยไรเงินสด จำนวน 500,000 บาท ไปมอบให้นางมาลา เนียมศิริ ผู้เป็นมารดาแล้ว ส่วนแนวทางการช่วยเหลืออื่นๆ ตามสิทธิ์จะทยอยติดตามมาภายหลัง ด้าน จ.ส.ต.ประเสริฐ กล่ำศรี ผู้ได้รับบาดเจ็บ ทาง บก.น.9 ก็จะเรี่ยไรเงินสดจำนวน 150,000 บาท ไปมอบให้ที่ รพ.ตำรวจ ในช่วงบ่ายวันนี้ โดยอาการของ จ.ส.ต.ประเสริฐ ก็เริ่มดีขึ้น โดยรู้สึกตัวดี แต่ยังต้องดูอาการอยู่ในห้องไอซียู. ซึ่งคงจะรอให้เจ้าตัวพักฟื้นอีกสักระยะแล้วจะให้พนักงานสอบสวนนำเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญเข้าไปสอบปากคำ เพื่อทำการสเกตช์ภาพคนร้ายรายนี้มาดำเนินคดีต่อไป” พล.ต.ต.ภัคพงศ์กล่าว
"จ.ส.ต." แขนขยับได้แล้ว
ด้านพ.ต.อ.นพ.สุพล จงพาณิชย์กุลธร นพ.(สบ 5) และรองโฆษก รพ.ตำรวจ เปิดเผยอาการของ จ.ส.ต.ประเสริฐ กล่ำศรี ว่า คนไข้ถูกยิงเข้าที่บริเวณคอด้านซ้ายทะลุออกสะบักขวา แพทย์ได้ทำการผ่าตัดเมื่อคืนที่ผ่านมาพบกระดูกข้อที่ 7 แตก เนื้อหุ้มไขสันหลังฉีกขาด ทำให้มีน้ำไขสันหลังรั่ว แพทย์ใช้กาวติดและให้เลือด 2 ยูนิต โดยใช้เวลาการผ่าตัด 2 ชั่วโมง ผลการผ่าตัดเป็นที่น่าพอใจ อย่างไรก็ตาม หลังผ่าตัดต้องรอให้ร่างกายพักฟื้น และรอดูอาการที่ห้องไอซียู. ขณะนี้ยังใส่ท่อหายใจ แขนของคนไข้ขยับได้ แต่ขายังไม่สามารถขยับได้ ซึ่งยังต้องรอการฟื้นตัวของประสาทไขสันหลัง และระวังโรคแทรกซ้อน และการติดเชื้อ