รองผู้กำกับสืบสวน สน.หนองแขม ไม่ทราบเรื่อง 2 สายตรวจที่ถูกคนร้ายยิงเคยมีเรื่องวิวาทใกล้ที่เกิดเหตุ ยันลูกน้องอัธยาศัยดีมวลชนในพื้นที่รักใคร่ ส่วนความคืบหน้าคดีต้องรอคนเจ็บฟื้นมาให้ปากคำระบุตัวคนร้าย แต่ดูจากอาวุธปืนที่ใช้เชื่อไม่ใช่อาชญากรธรรมดา
ความคืบหน้าคดีที่ ด.ต.ชูกิจ เจริญธนารักษ์ อายุ 42 ปี ผบ.หมู่ ป.สน.หนองแขม ถูกยิงเสียชีวิต และ จ.ส.ต.ประเสริฐ กล่ำศรี อายุ 46 ปี เจ้าหน้าที่สายตรวจ สน.หนองแขม ได้รับบาดเจ็บ ขณะเรียกตรวจค้นวัยรุ่นต้องสงสัย ใกล้กับปากซอยเพชรเกษม 81 เหตุเกิดเมื่อวานที่ผ่านมา
ล่าสุด วันนี้ ( 8 ก.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงกลางดึกประมาณ 1 สัปดาห์ ก่อนหน้าที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทั้ง 2 นาย จะถูกยิงจนเสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บนั้น มีชาวบ้านเห็นเหตุการณ์ตำรวจในเครื่องแบบชกต่อยกับผู้ต้องสงสัยบริเวณลานกว้างตรงข้ามกับร้านขายอุปกรณ์ก่อสร้างด้านหลังศูนย์การค้าหนองแขม ซึ่งอยู่ห่างจากปากซอยเพชรเกษม 81 ประมาณ 500 เมตร จึงรุดไปตรวจสอบ พบนายลอ เจริญสุข อายุ 78 ปี อาชีพคนเก็บของเก่าซึ่งปลูกเพิงพักอยู่ในลานกว้างดังกล่าวเล่าว่าเหตุการณ์ตำรวจชกต่อยกับผู้ต้องสงสัยมีอยู่จริงโดยเกิดขึ้นเมื่อช่วงกลางดึกสัปดาห์ที่แล้วซึ่งตนจำวันเวลาไม่ได้ชัดเจน แต่ตนตื่นขึ้นมาเห็นตำรวจในเครื่องแบบ 1 นาย กำลังมีเรื่องชกต่อยชุลมุนกับผู้ต้องสงสัยชายอายุประมาณ 30 ปี รูปร่างสูงท้วม ผิวเนื้อดำแดง ตัดผมสั้นเกรียน สวมเสื้อยืดสีขาว นุ่งกางเกงขาสั้น ใส่รองเท้าผ้าใบคล้ายคนเพิ่งกลับจากออกกำลังกาย โดยทั้ง 2 ฝ่าย ชกต่อยกันตัวต่อตัวและมีชายแต่งกายคล้ายตำรวจนอกเครื่องแบบอีก 2 คน ยืนคุมเชิงอยู่ แต่ทั้ง 2 ฝ่าย ไม่ได้รับบาดเจ็บมากมายนักเมื่อแยกย้ายกันแล้ว ตำรวจคนดังกล่าวกับชายที่มาด้วยกันอีก 2 คน ก็ขึ้นรถ จยย.จำนวน 2 คัน พากันขับขี่ออกไป ส่วนชายคู่กรณีตนไม่เห็นว่า เดินทางออกจากจุดเกิดเหตุไปอย่างไร ทั้งนี้ตนไม่สามารถยืนยันได้ ว่าตำรวจในเครื่องแบบที่มีเรื่องในวันนั้นจะใช่ ด.ต.ชูกิจ หรือ จ.ส.ต.ประเสริฐ ที่ถูกคนร้ายยิงจนเสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บหรือไม่ เพราะไม่เคยรู้จักหรือเห็นหน้ากันมาก่อน
ด้าน พ.ต.ท.เกียรติศักดิ์ ตั้งปรัชญากูล รอง ผกก.สส.สน.หนองแขม กล่าวว่า ยังไม่ได้รับรายงานว่าตำรวจทั้ง 2 นาย เคยไปมีเรื่องกับใครหรือไม่แต่ตนเชื่อว่า ไม่มีแน่นอนเพราะตำรวจทั้ง 2 นายเป็นคนมีอัธยาศัยดีมวลชนในพื้นที่ก็รักใคร่หลังทราบข่าวว่าทั้งคู่ถูกยิงยังมีชาวบ้านรุดไปสอบถามความคืบหน้าถึงในที่เกิดเหตุ ที่ผ่านมาตำรวจทั้ง 2 นายก็มีผลงานการจับกุมอยู่ในเกณฑ์ที่ดีมากโดยเฉพาะคดีจับกุมคนร้ายครอบครองอาวุธปืนแต่ก็ไม่น่าจะเป็นสาเหตุให้คนร้ายมาผูกใจเจ็บจนต้องมาดักแก้แค้นในภายหลัง ส่วนความคืบหน้าทางคดีขณะนี้ยังไม่มีความคืบหน้ามากนักเบื้องต้นชุดทำงานมุ่งเป้าไปที่คนร้ายรายสำคัญที่อาจมีประวัติพัวพันกับกลุ่มมือปืนรับจ้าง มีการรวบรวมพยานหลักฐานไปได้มากพอสมควรแล้ว หลักฐานที่ได้จากกล้องวงจรปิดในละแวกใกล้เคียงก็ยังไม่สามารถระบุตัวคนร้ายได้แต่เชื่อว่าหากอาการของ จ.ส.ต.ประเสริฐ ดีขึ้นก็จะมีข่าวดีแน่นอนเพราะเจ้าตัวพยักหน้ายืนยันว่าจดจำใบหน้าคนร้ายได้อย่างชัดเจน
พ.ต.ท.เกียรติศักดิ์ กล่าวต่อว่า ขณะนี้ จ.ส.ต.ประเสริฐ ยังไม่สามารถพูดจาได้ ความคืบหน้าด้านอาการแพทย์ก็กำลังพิจารณาอยู่ว่าจะผ่าตัดหรือไม่เพราะกระสุนตัดเข้าต้นคอไปกดทับเส้นประสาท แต่ตนได้ให้ฝ่ายสืบสวนนำภาพบุคคลที่เข้าข่ายต้องสงสัยประมาณ 3-4 คน ไปให้ จ.ส.ต.ประเสริฐ ดูแล้วซึ่งเจ้าตัวก็ส่ายหน้าปฏิเสธว่าไม่ใช่ ส่วนหลักฐานอื่นๆ เท่าที่ทราบตอนนี้คือคนร้ายใช้กระสุนปืนขนาด 11 มม.แบบหัวระเบิดซึ่งมีอานุภาพสูงกว่าแบบธรรมดา พิสูจน์ให้เห็นว่าคนร้ายย่อมไม่ใช่อาชญากรธรรมดาอย่างแน่นอน