xs
xsm
sm
md
lg

ล่าวัยโจ๋โหด ยิงตร.ดับ แค่ขอตรวจค้น

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน-ตำรวจสายตรวจ สน.หนองแขม เรียกวัยรุ่นต้องสงสัยตรวจค้น ถูกยิงสวนเสียชีวิต 1 บาดเจ็บ 1 สตช.ปูนบำเหน็จ 7 ขั้น 5 ชั้นยศเป็น “พ.ต.ท.”ให้แก่ “ดาบตำรวจ”ส่วนลูก-เมียให้สิทธิเข้าเป็นตำรวจ มอบเงินปลอบขวัญ 2 แสนบาท พร้อมแสดงความเสียใจต่อครอบครัวผู้สูญเสีย

เมื่อเวลา 05.30 น.วานนี้(7 ก.ค.)พ.ต.ท.วิชิต สวัสดี พนักงานสอบสวน (สบ 2) สน.หนองแขม รับแจ้งเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจถูกยิงเสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บ บริเวณหน้าร้านศรีสวัสดิ์เงินติดล้อ ใกล้ปากซอยถนนเพชรเกษม 81 แขวงหนองพลู เขตหนองแขม กทม.จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมด้วยแพทย์นิติเวชศิริราชพยาบาล เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน (พฐ.)และเจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง

ที่เกิดเหตุพบศพ ด.ต.ชูกิจ เจริญธนารักษ์ อายุ 42 ปี ผบ.หมู่ ป.สน.หนองแขม สภาพศพสวมเครื่องแบบมีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืน ขนาด 11 มม.เข้าที่กลางหลังนอนเสียชีวิตอยู่ใต้ต้นไม้ริมทางเท้า ใกล้กันพบรถจักรยานยนต์ตราโล่ห์ ทะเบียน 51932 จอดอยู่ และยังพบปลอกกระสุนปืนขนาด 11 มม.ตกอยู่ 2 ปลอก ห่างออกไปอีก 200 เมตรบนทางเท้ายังพบแมกกาซีนปืนพกขนาด 11 มม.ตกอยู่ เจ้าหน้าที่จึงเก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน

ส่วนผู้บาดเจ็บอีกหนึ่งรายทราบชื่อ ว่าที่ ร.ต.ต.ประเสริฐ กล่ำศรี อายุ 46 ปี เจ้าหน้าที่สายตรวจ สน.หนองแขม ได้รับบาดเจ็บถูกยิงที่ลำคอทะลุกลางหลัง เจ้าหน้าที่กู้ภัยนำส่งเข้ารักษาตัวที่ รพ.ศรีวิชัย 2 เบื้องต้นอาการปลอดภัยแล้ว แต่แพทย์ยังต้องให้พักรักษาตัวในห้องไอซียู

สอบสวนว่าที่ ร.ต.ต.ประเสริฐ ให้การในเบื้องต้นว่า ขณะที่กำลังปฏิบัติหน้าที่ออกตรวจความเรียบร้อยในพื้นที่โดย ด.ต.ชูกิจ เป็นผู้ขี่รถจักรยานยนต์ ส่วนตนซ้อนท้ายมาถึงบริเวณที่เกิดเหตุพบชายวัยรุ่นต้องสงสัยรูปร่างสูงโปร่งท่าทางมีพิรุธจึงเข้าทำการตรวจค้น แต่จังหวะนั้นคนร้ายได้ชักอาวุธปืนยิงใส่ ด.ต.ชูกิจ ที่ไม่ทันได้ตั้งตัวจนเสียชีวิตก่อนจะหันมายิงใส่ตนจนล้มลงแล้วอาศัยความมืดวิ่งหลบหนีไป โชคดีมีพลเมืองดีผ่านมาพบจึงช่วยนำตนส่งโรงพยาบาล

ที่ สน.หนองแขม พล.ต.ต.อิทธิพล พิริยะภิญโญ รองผบช.น.ได้เรียกประชุมตำรวจชุดคลี่คลายคดีในระดับโรงพัก และ กก.สส.บก.น.9 ใช้เวลานานเกือบ 1 ชั่วโมง ก่อนออกมาเปิดเผยว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานทั้งจากกล้องวงจรปิดและพยานแวดล้อม ซึ่งเราได้เชิญตัวบุคคลที่อยู่ใกล้เคียงกับจุดเกิดเหตุมาสอบปากคำแล้วแต่ยังไม่มีความคืบหน้าเท่าที่ควร ตนจึงกำชับให้ตำรวจเจ้าของพื้นที่เร่งรวบรวมรายละเอียดทางคดีให้ได้มากที่สุด เพื่อนำเข้าที่ประชุมกองบัญชาการตำรวจนครบาล ซึ่งจะมี พล.ต.อ.ภาณุพงศ์ สิงหรา ณ อยุธยา รองผบ.ตร.เดินทางมาเป็นผู้ควบคุมคดีด้วยตนเองต่อไป

ขณะที่ พ.ต.ท.จักรพงษ์ กิ่งแก้ว สวป.สน.หนองแขม กล่าวยืนยันว่า ตำรวจไม่ได้ประมาทเพราะเข้าทำการขอตรวจค้นคนร้ายตามยุทธวิธีที่ฝึกฝนกันเป็นประจำอยู่แล้ว คดีนี้ถือเป็นเหตุสุดวิสัยจริงๆ เนื่องจากคนร้ายไม่พูดพร่ำทำเพลงชักปืนยิงใส่ก่อน เท่าที่ดูจากพฤติกรรมการยิงและอาวุธของคนร้าย เชื่อว่า ต้องไม่ใช่วัยรุ่นขี้ยาธรรมดา ส่วนแมกกาซีนพร้อมกระสุนบรรจุอยู่ 3 นัด ที่ทำตกไว้ก็เป็นอุปกรณ์เสริมที่สามารถทำให้ใส่ลูกกระสุนได้มากขึ้น คาดว่า คนร้ายคงเป็นบุคคลหลบหนีหมายจับ หรือเคยก่อคดีสำคัญมาก่อนซึ่งเหตุการณ์นี้จะถือเป็นบทเรียนและเป็นสิ่งที่ผู้บังคับบัญชา รวมถึงเพื่อนร่วมงานของ ด.ต.ชูกิจ จะจดจำเอาไว้ตลอดไป

ต่อมาเวลา 11.30 น.ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.อ.ภาณุพงศ์ สิงหรา ณ อยุธยา รองผบ.ตร. พล.ต.ต.อิทธิพล พิริยะภิญโญ รองผบช.น. พล.ต.ต.รณศิลป์ ภู่สาระ ผบก.สส.บช.น. พล.ต.ต.ภัคพงษ์ พงษ์เภตรา ผบก.น.9 พ.ต.อ.ธนวัฒน์ ตั้งวงษ์เจริญ ผกก.สน.หนองแขม พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้อง เข้าประชุมคลี่คลายคดีดังกล่าว โดยใช้เวลาในการประชุม 2 ชั่วโมง

พล.ต.อ.ภาณุพงศ์ เปิดเผยว่า สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวของผู้เสียชีวิตด้วย ซึ่งเจ้าหน้าที่จะเร่งสืบสวนจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีให้ได้ เหตุการณ์ลักษณะนี้เคยเกิดขึ้นมาแล้วหลายครั้ง หลังจากนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องระวังตัวให้มากในการปฏิบัติงานให้มากขึ้น ซึ่งตนเคยเน้นย้ำเกี่ยวกับการออกปฏิบัติหน้าที่และการใส่เสื้อเกราะเพื่อป้องกันตัว แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นเหตุสุดวิสัย คนร้ายชักอาวุธปืนยิงใส่ โดยที่ตำรวจทั้งสองนายไม่ทันตั้งตัว

พล.ต.อ.ภาณุพงศ์ กล่าวว่า คนร้ายน่าจะเป็นคนในละแวกดังกล่าว หรือเป็นผู้ต้องหาที่หลบคดี แต่ข้อมูลตรงนี้เจ้าหน้าที่ยังได้มาไม่มากนัก ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด เพื่อหาเส้นทางการหลบหนี ประกอบกับสอบปากคำนายตำรวจที่ได้รับบาดเจ็บ เพื่อหารูปพรรณสัณฐานของคนร้าย

“ผมยืนยันว่า การปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นไปตามขั้นตอน ไม่มีการชักปืนออกมายิงก่อน ยกเว้นกรณีที่มีการต่อสู้ขัดขืนของคนร้าย ช่วงเกิดเหตุเจ้าหน้าที่เห็นวัยรุ่นชายมีพิรุธผิดปกติจึงเรียกตรวจค้นตามปกติ แต่ไม่มีใครคาดคิดว่าจู่ๆคนร้ายจะชักปืนออกมายิงใส่ก่อน การเสียชีวิตของเจ้าหน้าที่ตำรวจจากการปฏิบัติหน้าที่ครั้งนี้ จะได้รับการปูนบำเหน็จ 7 ขั้น 5 ชั้นยศ เป็น พ.ต.ท.ส่วนบุคคลในครอบครัวทั้งภรรยาและบุตรจะมีสิทธิในการเข้ารับราชการตำรวจต่อไป ส่วนการช่วยเหลือเบื้องต้นสมาคมข้าราชการตำรวจและมูลนิธิ ได้มอบเงินช่วยเหลือแล้วจำนวน 2 แสนบาท” พล.ต.อ.ภาณุพงศ์ กล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น