ศรส.ลต.ตร.ยังเฝ้าระวังพื้นที่ 61 เขตเลือกตั้ง 25 จังหวัด หวั่นเกิดเหตุรุนแรงจนถึง 7 ก.ค. เกรงเช็คบิลหัวคะแนน ที่ทำคะแนนไม่เข้าเป้าที่ตั้งไว้ ตั้่งจุดตรวจเข้ม 5 จังหวัดมีสิทธิ์โดนใบแดง พร้อมให้ รปภ.ว่าที่ ส.ส.ทั้ง 500 คนจนกว่า กกต.รับรอง
วันนี้ (4 ก.ค.) เมื่อเวลา 12.00 น. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ ที่ปรึกษา (สบ 10) พล.ต.ต.ประวุฒิ ถาวรศิริ โฆษก ตร. แถลงภายหลังการประชุมศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อยการเลือกตั้ง (ศรส.ลต.ตร.) โดย พล.ต.อ.พงศพัศกล่าวว่า ช่วงนี้ยังอยู่ระหว่างการดำเนินการตามแผนรักษาความปลอดภัยทางการเลือกตั้ง และระดมกวาดล้างอาชญากรรม โดยจะสิ้นสุดในวันที่ 7 ก.ค.นี้ นอกจากนี้ยังคงมีการตรวจจุดตรวจเข้มข้น 61 เขตเลือกตั้ง ใน 25 จังหวัด ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ ศรส.ลต.ตร.กำหนดให้เป็นพื้นที่เฝ้าระวังมีเหตุการณ์รุนแรง และยังให้ทุกพื้นที่ประเมินสถานการณ์ภายหลังการเลือกตั้ง และความขัดแย้งระหว่างตัวบุคคล หัวคะแนน หรือผู้สมัคร ส.ส. หรือพรรคการเมือง ซึ่งมีการหวั่นเกรงว่าจะมีการล้างแค้นหัวคะแนน ที่ผลคะแนนไม่เป็นไปตามเป้า ซึ่งข้อมูลเหล่านี้ทุกพื้นที่ก็มีอยู่แล้ว โดยเฉพาะ 5 จังหวัดที่ กกต.ประกาศว่าจะมีการให้ใบแดงผู้สมัคร ส.ส. ประกอบด้วย สุโขทัย ชัยภูมิ มหาสารคาม บุรีรัมย์ และศรีสะเกษ
พล.ต.อ.พงศพัศกล่าวอีกว่า ในช่วงนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจที่รักษาความปลอดภัยให้กับ ว่าที่ ส.ส. ทั้งรายชื่อและแบ่งเขต ผู้สมัคร ส.ส.ก็ยังคงให้ทำหน้าที่ต่อไปจนกว่าจะถึงวันที่ 7 ก.ค. หรือจนกว่าจะมีการร้องขอว่าไม่ต้องการแล้ว หรือเจ้าหน้าที่ตำรวจประเมินว่าไม่จำเป็นต้องรักษาความปลอดภัย รวมถึงว่าที่ ส.ส.ทั้งรายชื่อและแบบแบ่งเขตทั้ง 500 คนด้วย จนกว่าว่าที่ ส.ส.เหล่านี้จะเดินทางมาพบ กกต. เพื่อให้มีการรับรองการเป็น ส.ส.
ด้าน พล.ต.ต.ประวุฒิกล่าวว่า มาตรการระดมกวาดล้างอาชญากรรมยังดำเนินการต่อไป แม้จะผ่านพ้นวันที่ 7 ก.ค.แล้วก็จะมีการกำหนดแผน เพื่อป้องกันอาชญากรรมหลังจากนี้ต่อไปด้วย
นอกจากนี้ ศรส.ลต.ตร.ยังสรุปคดีความผิดกฎหมายเลือกตั้ง ส.ส.ตั้งแต่วันที่ 11 พ.ค. - 3 ก.ค. ประกอบด้วย การซื้อเสียง 12 คดี ที่ จ.ศรีสะเกษ สุโขทัย กาฬสินธุ์ นครราชสีมา มหาสารคาม แม่ฮ่องสอน อุทัยธานี สมุทรปราการ และภูเก็ต คดีใส่ร้าย กล่าวเท็จให้เข้าใจผิดในคะแนนนิยม ม.53 (5) จำนวน 15 คดี ที่เชียงใหม่ สุโขทัย กำแพงเพชร กรุงเทพ และนครราชสีมา คดีฉีกบัตร 18 คดี คดีหาเสียงเกินเวลาห้าม 1 คดี คดีนำบัตรออกนอกหน่วยเลือกตั้ง 1 คดี คดีจำหน่ายสุรา 62 คดี รวม 109 คดี
ทั้งนี้ สรุปคดีอาญาที่เกี่ยวกับการเลือกตั้ง 84 คดี ประกอบด้วย คดีฆ่า 3 คดี ยิงนายวิโรจน์ ดำสนิท อดีตนายก อบต.โผงเผง อ.ป่าโมก จ.อ่างทอง และหัวคะแนนของพรรคชาติไทยพัฒนา ยิง นายมงคล วีรวัฒน์พงษธร ผญบ.บ้านห้วยส้าน ต.แม่สลองใน อ.แม้ฟ้าหลวง จ.เชียงราย และยิงนายสุบรรณ จิรพันธุ์วาณิช นายก อบจ.ลพบุรี คดีพยายามฆ่า 5 คดี ประกอบด้วย ปาระเบิดใส่บ้านนายมาโนชย์ เรือนทอง หัวคะแนนนายวรชัย เหมมะ ผู้สมัครส.ส.เพื่อไทย ใช้อาวุธสงครามยิงถล่มบ้าน นายเจิรญ เจ๊ะสมัน หัวคะแนนนายพนิช วิกิตเศรษฐ์ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ คนร้ายยิงใส่บ้านของนายพันธ์ศักดิ์ คำแห้ว ประธานสภาเทศบาลเมืองเขลางค์นคร จ.ลำปาง คดียิงใส่ที่ทำการพรรคประชาธิปัตย์ สาขาหนองจอก ซึ่งเป็นบ้านพักของนายประเสริฐ มะดะเรส ผู้สนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์ และคดียิงนายประชา ประสพดี
คดีทะเลาะวิวาท คดีหมิ่นประมาท คดีวางระเบิด คดีแจ้งความเท็จ คดีลงข้อความเท็จ คดีทำร้ายร่างกาย คดีละเว้นการปฏิบัติหน้าที่อย่างละ 1 คดี คดีข่มขู่ 3 คดี และคดีทำลายป้าย 65 คดี รวม 84 คดี
พล.ต.ต.ประวุฒิกล่าวถึงการรายงานผลคะแนนเลือกตั้งว่ามีความล่าช้าที่ อ.อุ้มฝาง และอ.แม่เมย จ.ตาก ในพื้นที่ บช.ภ. 6 เนื่องจากมีฝนฟ้าคะนอง ไม่มีสัญญาณโทรศัพท์ จึงต้องเดินทางรถยนต์รายงานผลคะแนน โดยรายงานเสร็จสิ้นในเวลา 07.20 น. และเป็นหน่วยสุดท้าย ถือว่าขณะนี้การรายงานผลครบ 100 เปอร์เซ็นต์แล้ว ซึ่งยังมีความยากลำบากในการลำเลียงหีบบัตรเลือกตั้งตามเกาะต่างๆ เช่น สตูล และเกาะสมุย โดยตำรวจน้ำสามารถปฎิบัติหน้าที่ได้สำเร็จลุล่วงเป็นอย่างดี
สำหรับหีบบัตรได้ลำเลียงมาเก็บไว้ที่สถานีตำรวจ โดยจะเก็บรักษาไว้เป็นระยะเวลา 1 ปี ซึ่งระหว่างนี้อาจมีการร้องเรียนต่างๆ ก็สามารถตรวจสอบได้ โดยการเก็บรักษาจะปฏิบัติเหมือนเดิมคือ มีกุญแจ 3 ดอก และคณะกรรมการ 3 ฝ่าย