รวบสองพ่อ-ลูกหนีคดียาเสพติด พบมีชื่ออันดับ 1 ตามหมายจับภูธรภาค 7 เจ้าของค่าหัว 1 แสนบาท หลังสายลับแจ้งว่าหลบมาซ่อนตัวอยู่ในคอนโดฯ ย่านบางแค สารภาพทำศัลยกรรมจมูกตบตาเจ้าหน้าที่ตำรวจนานกว่า 1 ปี
วันนี้ (28 มิ.ย.) พ.ต.อ.ธีระพงษ์ คล้ายแก้ว ผกก.สน.เพชรเกษม ได้รับแจ้งจากสายลับว่ามีนักค้ายาเสพติดที่มีหมายจับของตำรวจภูธรภาค 7 ค่าหัว 1 แสนบาท มาหลบซ่อนตัวอยู่ภายใน อาคารวิเศษสุขนคร คอนโดมิเนียม แขวงและเขตบางแค กทม. จึงรายงานผู้บังคับบัญชาก่อนประสานไปยัง พ.ต.ท.ไพโรจน์ ไตรธรรม รอง ผกก.ป.สน.เพชรเกษม พ.ต.ท.สมเกียรติ เริงหิรัญ รอง ผกก.สส.สน.พชรเกษม ให้นำกำลังเจ้าหน้าที่สายตรวจ และฝ่ายสืบสวนพร้อมอาวุธครบมือไปตรวจสอบ
ต่อมาเวลา 13.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำกำลังไปซุ่มสังเกตการณ์ กระทั่งพบนายสูงศักดิ์ จั่นน้ำแดง อายุ 55 ปี อยู่บ้านเลขที่ 27 หมู่ที่ 2 ต.ทุ่งกระพังโหม อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม ผู้ต้องหาตามหมายจับศาล จ.นครปฐม ที่ 376/2552 ในข้อหาครอบครองยาเสพติดเพื่อจำหน่าย เดินออกมาซื้อของบริเวณคลองหนองใหญ่ ห่างจากคอนโดมิเนียมประมาณ 1 กิโลเมตร เจ้าหน้าที่จึงเข้าจับกุมก่อนคุมตัวไปทำการตรวจสอบภายในห้องพัก
จากการตรวจสอบภายในห้องพักเลขที่ 510 ชั้น 5 ของวิเศษสุขนคร คอนโดมิเนียม พบนายเกรียงไกร จั่นน้ำแดง หรือแป๊ก กำแพงแสน อายุ 30 ปี บุตรชายของนายสูงศักดิ์ อยู่ภายในห้องพัก จึงควบคุมตัวเอาไว้ จากการตรวจค้นภายในห้องพักไม่พบสิ่งผิดกฎหมายแต่อย่างใด เจ้าหน้าที่จึงทำการยึดรถยนต์ 3 คันไปตรวจสอบ ประกอบด้วยรถยนต์โตโยต้า ฟอจูนเนอร์ สีขาว แต่งซิ่ง หมายเลขทะเบียน ฏง-6915 กรุงเทพมหานคร รถยนต์โตโยต้า คัมรี่ ไฮบริด สีขาว หมายเลขทะเบียน ญท-2907 กรุงเทพมหานคร และรถกระบะอีซูซุ ดีแมคซ์ 4 ประตู สีบรอนซ์เงิน หมายเลขทะเบียน กต-3980 กรุงเทพมหานคร
จากการสอบสวนนายเกรียงไกรให้การว่า มาพักอยู่กับพ่อที่กรุงเทพฯ และทำงานรับจ้างถมดินก่อสร้างหมู่บ้านในย่านคลองหนองใหญ่เพื่อหาเงินไปเป็นหลักทรัพย์ไว้ต่อสู้คดี ก่อนที่จะเข้ามอบตัวต่อตำรวจในเดือนหน้า เพราะตนทราบข่าวว่ากำลังถูกตามล่าตัวหลังจากตกเป็นผู้ต้องหาคดียาเสพติดอันดับ 1 ที่ทางภาค 7 ต้องการตัว และมีค่าหัวสูงถึง 1 แสนบาท ส่วนพ่อของตนหลบหนีหมายศาลเนื่องจากถูกศาลตัดสินจำคุกในคดียาเสพติดเป็นเวลา 24 ปี ตนจึงมาอยู่กับพ่อ สาเหตุที่หลบหนีมาได้ปีกว่าก็เพราะไปทำจมูกมา ประกอบกับกินเยอะจนน้ำหนักตัวเพิ่ม และใส่แว่นสายตา ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจจำไม่ได้ แต่ที่ถูกจับคาดว่าน่าจะมีคนที่รู้จักกันไปแจ้งเบาะแสกับตำรวจ
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจะทำการสอบประวัติก่อนส่งตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 รายไปดำเนินคดีที่ สภ.กำแพงแสนต่อไป