แม่หมอมุก เผย อาการหมอมุกดีวันดีคืน หน้าตาสดใส จิบน้ำเองได้ แต่ยังให้ข้อมูลตำรวจไม่ได้ เพราะยังไม่พูด ขณะที่มารดา “พ.อ.” เข้าเยี่ยมหมอมุก พร้อม “พล.อ.อำพล ตุ้มทอง” โดยบอกถ้าต้องการให้ช่วยเหลืออะไรให้บอก ส่วนพระแก้วมรกตจำลอง ที่แม่ “พ.อ.” มอบให้จะนำไปบริจาควัด เพื่อเป็นการอโหสิกรรมซึ่งกันและกัน
วันนี้ (28 มิ.ย.) เมื่อเวลา 10.30 น.ที่หออภิบาลผู้ป่วยหนัก (I.C.U.) อาคารท่านผู้หญิงประภาศรี กำลังเอก โรงพยาบาลพระมงกุฏเกล้า พญ.พรรณกร อิ่มวิทยา มารดา พญ.หทัยพร อิ่มวิทยา หรือ หมอมุก เปิดเผยถึงความคืบหน้าอาการล่าสุดของหมอมุก ว่า ขณะนี้หมอมุกอาการดีขึ้นตามลำดับ ถือว่าดีวันดีคืน โดยเมื่อวานนี้ (27 มิ.ย.) หมอมุก สามารถลุกนั่งได้ และเช้าวันนี้ยังสามารถยกแขนขึ้นได้ทั้ง 2 ข้าง และบิดตัวไปมาได้ ส่วนหน้าตาก็มีความสดใส ซึ่งกำลังหัดให้หมอมุกจิบน้ำเอง เพื่อที่จะไม่ต้องให้อาหารทางสายยาง และคาดว่า หมอมุกจะออกจากห้องไอ.ซี.ยู.ได้เร็วๆ นี้
พญ.พรรณกร กล่าวอีกว่า ขณะนี้หมอมุกยังไม่สามารถให้ข้อมูลใดๆ กับตำรวจได้ เพราะยังไม่สามารถสื่อสารด้วยการพูดได้ อีกทั้งความจำก็ยังถือว่าไม่แม่นยำ เนื่องจากได้รับการกระทบกระเทือนทางสมอง ซึ่งต้องใช้เวลาในการฟื้นฟูสักระยะ
“รู้สึกดีใจที่หมอมุกอาการดีวันดีคืน ยิ้มได้ ก็ดีใจ ส่วนเรื่องโทรศัพท์ข่มขู่ตามที่เป็นข่าวนั้นทราบเรื่องแต่ไม่ได้เป็นผู้ที่รับโทรศัพท์โดยตรง แต่ไม่ได้หนักใจอะไร เพราะตำรวจทำหน้าที่ดูแลเป็นอย่างดี โดยรับมาจากบ้านมาส่งที่โรงพยาบาลขอขอบคุณที่มาดูแลความปลอดภัยให้รู้สึกอุ่นใจ ทั้งนี้ ยังได้กำลังใจจากหลายส่วนทั้งคนในประเทศ หรือแม้แต่ต่างประเทศที่ทราบ ก็โทรศัพท์มาให้กำลังใจ ส่วนคดีปล่อยให้เป็นหน้าที่ของตำรวจ ดำเนินการไปตามขั้นตอน” พญ.พรรณกร กล่าว
ด้าน พ.อ.นพ.พีระพล ปกป้อง ผู้อำนวยการกองอุบัติเหตุและเวชกรรมฉุกเฉิน โรงพยาบาลพระมงกุฏเกล้า เปิดเผยว่า อาการล่าสุดหมอมุกสามารถลุกนั่งได้ ยิ้มตอบโต้ สามารถใช้สายตามองด้านข้างได้แล้ว ลืมตาหลับตาได้ดี แต่ยังมีความกังวลเรื่องไข้ ที่ยังไม่คงที่ โดยตอนนี้ยังมีไข้เล็กน้อยที่ 38 องศาเซลเซียส แต่ยังไม่พบอาการติดเชื้อ ซึ่งขณะนี้สามารถเริ่มโปรแกรมกายภาพบำบัดได้แล้ว โดยจะทำกายภาพบำบัดทุกวัน วันละ 30 นาที ส่วนสาเหตุที่หมอมุกยังไม่สามารถพูดได้เนื่องจากสมองส่วนหน้าได้รับการกระทบกระเทือนต้องรอการฟื้นตัวก่อน แต่ถือว่าสมองฟื้นตัวดีขึ้นทุกวัน
พ.อ.นพ.พีระพล กล่าวว่า จะให้หมอด้านประสาท ช่วยดูแลเรื่องการกระตุ้นประสาท เพื่อให้หมอมุกสามารถพูดได้ ส่วนการขยับร่างกายขณะนี้ยังถือว่าไม่สมบูรณ์ แต่สามารถทำตามคำสั่งง่ายๆ ได้อย่างลืมตา หลับตา โดยแพทย์จะพยายามให้แขนขาใช้งานได้สมบูรณ์ โดยให้เริ่มยืดแขนขา จนสามารถลุกจากเตียงได้ อย่างไรก็ตาม เชื่อว่า สมองหมอมุกน่าจะกลับมาเป็นปกติได้ และคาดว่า อีก 2-3 วัน จะสามารถย้ายออกจากห้องไอ.ซี.ยู.ส่วนการให้อาหารยังคงให้อาหารทางสายยางอยู่ เพราะหมอมุกยังไม่สามารถบังคับร่างกายได้ตามปกติ หากให้หมอมุกรับประทานอาหารเอง อาจเกิดการสำลัก และส่งผลให้มีอาการปอดบวมได้ ซึ่งในช่วงบ่ายจะมี พ.ท.นพ.วิภู กำเนิดดี แพทย์เวชศาสตร์ฟื้นฟู รพ.พระมงกุฎฯ ทำการฝังเข็มเพื่อกระตุ้นระบบประสาทให้ฟื้นตัว ซึ่งทางแพทย์ก็พยายามทำการรักษาทุกทางเพื่อให้อาการหมอมุกดีขึ้น
ต่อมาเวลา 13.00 น. พ.ท.นพ.วิภู กำเนิดดี แพทย์ประจำกองเวชศาสตร์ฟื้นฟู รพ.พระมงกุฎฯ เดินทางมาดูอาการ และทำการฝังเข็มรักษาอาการใช้เวลาประมาณ 40 นาที ก่อนเปิดเผยต่อสื่อมวลชน ว่า ตนเป็นรุ่นพี่หมอมุกที่กองเวชศาสตร์ฟื้นฟู ซึ่งหลังจากตรวจอาการแล้วได้ทำการฝังเข็มรักษา 10 จุด ที่บริเวณ หัว ลำตัวและขา เพื่อกระตุ้นสมอง ปรับสมดุลของร่างกาย เพื่อป้องกันโรค โดยจะทำการรักษาครั้งละ 30 นาที สัปดาห์ละ 3 วัน ก่อนฝังตนหยิบเข็มให้หมอมุกดู แต่หมอทำหน้านิ่ง แต่ว่าขณะที่ฝังเข็มบางจุดมีอาการกระตุก ซึ่งเป็นสัญญาณที่ดีว่ามีการตอบสนอง และตนเคยรักษาผู้ป่วยอาการลักษณะนี้ใช้เวลาประมาณ 1-2 ปี ส่วนหมอมุกไม่สามารถตอบได้ว่าต้องใช้เวลาเท่าไหร่
ทั้งนี้ พญ.พรรณกร เปิดเผยว่า ในช่วงสายที่ผ่านมาขณะที่กำลังนำน้ำแข็งให้หมอมุกเคี้ยวตามคำแนะนำแพทย์ และพยาบาลเดินมาแจ้งว่ามีคนมาเยี่ยมหมอมุกรออยู่หน้าห้อง ซึ่งเมื่อออกมาพบ คือ มารดาของ พ.อ.ศักดิ์สิทธิ์ ภู่กลั่น ที่ได้เข้ามอบตัว และยอมรับว่า เป็นผู้ขับรถชนหมอมุก พร้อมชายอีกสองคน และ พล.อ.อำพล ตุ้มทอง นายทหารนอกราชการ รออยู่
“ยอมรับว่า ไม่เคยทราบล่วงหน้าว่ามารดาของ พ.อ.ศักดิ์สิทธิ์ จะมาเยี่ยมและยังรู้สึกงงๆ โดยมารดาของ พ.อ.ศักดิ์สิทธิ์ ได้บอกถึงเหตุผลการมาเยี่ยมในครั้งนี้ ว่า มาในฐานะหัวอกคนเป็นแม่เหมือนกัน ขณะที่ พล.อ.อำพล พูดว่าถ้าต้องการให้ช่วยเหลืออะไรให้บอก ซึ่งเรื่องนี้ไม่ต้องการเรียกร้องอะไรทั้งสิ้น เนื่องจากหมอมุก ได้รับพระกรุณาจากสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ รับไว้เป็นคนไข้ในพระบรมราชินูปถัมภ์ และจะนำพระแก้วมรกตจำลอง ที่นำมามอบให้ไปบริจาคให้กับวัด เพื่อที่จะได้เป็นการอโหสิกรรมซึ่งกันและกัน” พญ.พรรณกร กล่าว
ทั้งนี้ พ.ต.อ.สมาน รอดกำเนิด ผู้กำกับการ สน.พญาไท ได้นำแจกันดอกไม้เข้าเยี่ยมอาการหมอมุกด้วย
วันนี้ (28 มิ.ย.) เมื่อเวลา 10.30 น.ที่หออภิบาลผู้ป่วยหนัก (I.C.U.) อาคารท่านผู้หญิงประภาศรี กำลังเอก โรงพยาบาลพระมงกุฏเกล้า พญ.พรรณกร อิ่มวิทยา มารดา พญ.หทัยพร อิ่มวิทยา หรือ หมอมุก เปิดเผยถึงความคืบหน้าอาการล่าสุดของหมอมุก ว่า ขณะนี้หมอมุกอาการดีขึ้นตามลำดับ ถือว่าดีวันดีคืน โดยเมื่อวานนี้ (27 มิ.ย.) หมอมุก สามารถลุกนั่งได้ และเช้าวันนี้ยังสามารถยกแขนขึ้นได้ทั้ง 2 ข้าง และบิดตัวไปมาได้ ส่วนหน้าตาก็มีความสดใส ซึ่งกำลังหัดให้หมอมุกจิบน้ำเอง เพื่อที่จะไม่ต้องให้อาหารทางสายยาง และคาดว่า หมอมุกจะออกจากห้องไอ.ซี.ยู.ได้เร็วๆ นี้
พญ.พรรณกร กล่าวอีกว่า ขณะนี้หมอมุกยังไม่สามารถให้ข้อมูลใดๆ กับตำรวจได้ เพราะยังไม่สามารถสื่อสารด้วยการพูดได้ อีกทั้งความจำก็ยังถือว่าไม่แม่นยำ เนื่องจากได้รับการกระทบกระเทือนทางสมอง ซึ่งต้องใช้เวลาในการฟื้นฟูสักระยะ
“รู้สึกดีใจที่หมอมุกอาการดีวันดีคืน ยิ้มได้ ก็ดีใจ ส่วนเรื่องโทรศัพท์ข่มขู่ตามที่เป็นข่าวนั้นทราบเรื่องแต่ไม่ได้เป็นผู้ที่รับโทรศัพท์โดยตรง แต่ไม่ได้หนักใจอะไร เพราะตำรวจทำหน้าที่ดูแลเป็นอย่างดี โดยรับมาจากบ้านมาส่งที่โรงพยาบาลขอขอบคุณที่มาดูแลความปลอดภัยให้รู้สึกอุ่นใจ ทั้งนี้ ยังได้กำลังใจจากหลายส่วนทั้งคนในประเทศ หรือแม้แต่ต่างประเทศที่ทราบ ก็โทรศัพท์มาให้กำลังใจ ส่วนคดีปล่อยให้เป็นหน้าที่ของตำรวจ ดำเนินการไปตามขั้นตอน” พญ.พรรณกร กล่าว
ด้าน พ.อ.นพ.พีระพล ปกป้อง ผู้อำนวยการกองอุบัติเหตุและเวชกรรมฉุกเฉิน โรงพยาบาลพระมงกุฏเกล้า เปิดเผยว่า อาการล่าสุดหมอมุกสามารถลุกนั่งได้ ยิ้มตอบโต้ สามารถใช้สายตามองด้านข้างได้แล้ว ลืมตาหลับตาได้ดี แต่ยังมีความกังวลเรื่องไข้ ที่ยังไม่คงที่ โดยตอนนี้ยังมีไข้เล็กน้อยที่ 38 องศาเซลเซียส แต่ยังไม่พบอาการติดเชื้อ ซึ่งขณะนี้สามารถเริ่มโปรแกรมกายภาพบำบัดได้แล้ว โดยจะทำกายภาพบำบัดทุกวัน วันละ 30 นาที ส่วนสาเหตุที่หมอมุกยังไม่สามารถพูดได้เนื่องจากสมองส่วนหน้าได้รับการกระทบกระเทือนต้องรอการฟื้นตัวก่อน แต่ถือว่าสมองฟื้นตัวดีขึ้นทุกวัน
พ.อ.นพ.พีระพล กล่าวว่า จะให้หมอด้านประสาท ช่วยดูแลเรื่องการกระตุ้นประสาท เพื่อให้หมอมุกสามารถพูดได้ ส่วนการขยับร่างกายขณะนี้ยังถือว่าไม่สมบูรณ์ แต่สามารถทำตามคำสั่งง่ายๆ ได้อย่างลืมตา หลับตา โดยแพทย์จะพยายามให้แขนขาใช้งานได้สมบูรณ์ โดยให้เริ่มยืดแขนขา จนสามารถลุกจากเตียงได้ อย่างไรก็ตาม เชื่อว่า สมองหมอมุกน่าจะกลับมาเป็นปกติได้ และคาดว่า อีก 2-3 วัน จะสามารถย้ายออกจากห้องไอ.ซี.ยู.ส่วนการให้อาหารยังคงให้อาหารทางสายยางอยู่ เพราะหมอมุกยังไม่สามารถบังคับร่างกายได้ตามปกติ หากให้หมอมุกรับประทานอาหารเอง อาจเกิดการสำลัก และส่งผลให้มีอาการปอดบวมได้ ซึ่งในช่วงบ่ายจะมี พ.ท.นพ.วิภู กำเนิดดี แพทย์เวชศาสตร์ฟื้นฟู รพ.พระมงกุฎฯ ทำการฝังเข็มเพื่อกระตุ้นระบบประสาทให้ฟื้นตัว ซึ่งทางแพทย์ก็พยายามทำการรักษาทุกทางเพื่อให้อาการหมอมุกดีขึ้น
ต่อมาเวลา 13.00 น. พ.ท.นพ.วิภู กำเนิดดี แพทย์ประจำกองเวชศาสตร์ฟื้นฟู รพ.พระมงกุฎฯ เดินทางมาดูอาการ และทำการฝังเข็มรักษาอาการใช้เวลาประมาณ 40 นาที ก่อนเปิดเผยต่อสื่อมวลชน ว่า ตนเป็นรุ่นพี่หมอมุกที่กองเวชศาสตร์ฟื้นฟู ซึ่งหลังจากตรวจอาการแล้วได้ทำการฝังเข็มรักษา 10 จุด ที่บริเวณ หัว ลำตัวและขา เพื่อกระตุ้นสมอง ปรับสมดุลของร่างกาย เพื่อป้องกันโรค โดยจะทำการรักษาครั้งละ 30 นาที สัปดาห์ละ 3 วัน ก่อนฝังตนหยิบเข็มให้หมอมุกดู แต่หมอทำหน้านิ่ง แต่ว่าขณะที่ฝังเข็มบางจุดมีอาการกระตุก ซึ่งเป็นสัญญาณที่ดีว่ามีการตอบสนอง และตนเคยรักษาผู้ป่วยอาการลักษณะนี้ใช้เวลาประมาณ 1-2 ปี ส่วนหมอมุกไม่สามารถตอบได้ว่าต้องใช้เวลาเท่าไหร่
ทั้งนี้ พญ.พรรณกร เปิดเผยว่า ในช่วงสายที่ผ่านมาขณะที่กำลังนำน้ำแข็งให้หมอมุกเคี้ยวตามคำแนะนำแพทย์ และพยาบาลเดินมาแจ้งว่ามีคนมาเยี่ยมหมอมุกรออยู่หน้าห้อง ซึ่งเมื่อออกมาพบ คือ มารดาของ พ.อ.ศักดิ์สิทธิ์ ภู่กลั่น ที่ได้เข้ามอบตัว และยอมรับว่า เป็นผู้ขับรถชนหมอมุก พร้อมชายอีกสองคน และ พล.อ.อำพล ตุ้มทอง นายทหารนอกราชการ รออยู่
“ยอมรับว่า ไม่เคยทราบล่วงหน้าว่ามารดาของ พ.อ.ศักดิ์สิทธิ์ จะมาเยี่ยมและยังรู้สึกงงๆ โดยมารดาของ พ.อ.ศักดิ์สิทธิ์ ได้บอกถึงเหตุผลการมาเยี่ยมในครั้งนี้ ว่า มาในฐานะหัวอกคนเป็นแม่เหมือนกัน ขณะที่ พล.อ.อำพล พูดว่าถ้าต้องการให้ช่วยเหลืออะไรให้บอก ซึ่งเรื่องนี้ไม่ต้องการเรียกร้องอะไรทั้งสิ้น เนื่องจากหมอมุก ได้รับพระกรุณาจากสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ รับไว้เป็นคนไข้ในพระบรมราชินูปถัมภ์ และจะนำพระแก้วมรกตจำลอง ที่นำมามอบให้ไปบริจาคให้กับวัด เพื่อที่จะได้เป็นการอโหสิกรรมซึ่งกันและกัน” พญ.พรรณกร กล่าว
ทั้งนี้ พ.ต.อ.สมาน รอดกำเนิด ผู้กำกับการ สน.พญาไท ได้นำแจกันดอกไม้เข้าเยี่ยมอาการหมอมุกด้วย