โชเฟอร์หนุ่มซิ่งรถบัสชนรถตู้ตำรวจ สภ.โคกขาม ก่อนซิ่งหลบหนีพุ่งชนรถอีกหลายคันจนมีผู้เสียชีวิต 1 ราย เจ็บ 2 ราย ตร.สภ.โคกขามระบุโชเฟอร์คล้ายคนเมายา ตำรวจ สน.มักกะสัน เตรียมส่งตัวตรวจหาสารเสพติดที่ รพ.ตำรวจต่อไป
วันนี้ (6 พ.ค.) เมื่อเวลา 17.30 น. พ.ต.ท.ไพรัช ไสยเลิศ พนักงานสอบสวน (สบ3) สน.มักกะสัน รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถยนต์เฉี่ยวชนกันมีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต ที่เกิดเหตุบริเวณแยกมารยาทดี แขวงบางกะปิ เขตห้วยขวาง กทม.จึงเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่หน่วยแพทย์กู้ชีพนเรนทร รพ.พระมงกุฎฯ และเจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง
ที่เกิดเหตุพบรถบัส 6 ล้อ ของบริษัท ชลอการท่องเที่ยว จอดอยู่บริเวณกลางถนนในสภาพกันชนด้านหน้ายุบ และที่ใต้กันชนพบจักรยานยนต์ยี่ห้อยามาฮ่า มีโอ สีน้ำเงิน-ดำ หมายเลขทะเบียน สพพ-239 กทม.ส่วนบริเวณใต้ล้อรถบัสด้านหน้าขวาพบร่างของ น.ส.ฉลวย พรหมเจดีย์ อายุ 41 ปี อยู่บ้านเลขที่ 48/143 หมู่ 1 แขวงสามวาตะวันตก เขตคลองสามวา กทม. ถูกล้อรถทับร่างหมดสติ เจ้าหน้าที่กู้ชีพจึงช่วยกันปฐมพยาบาล แต่ทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสียชีวิตในเวลาต่อมา
นอกจากนี้ ยังพบจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า คลิก สีดำ-เทา หมายเลขทะเบียน รงค-501 กทม.ล้มตะแคงอยู่ในที่เกิดเหตุอีก 1 คัน ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยถูกนำส่ง รพ.พระราม 9 ทราบชื่อต่อมาคือ นายเสวก คำใบ อายุ 28 ปี และนายศรีหมอก ฐิพวะ อายุ 47 ปี ได้รับบาดเจ็บขาซ้ายหัก และมีแผลถลอกที่ห้วไหล่ขวา ถูกนำตัวส่งที่ รพ.ราชวิถี
จากการสอบถาม ด.ต.ณัฐชนน ดวงจันทร์คำ ผบ.หมู่งานสืบสวน สภ.โคกขาม จว.สมุทรสาคร กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุหลังจากเสร็จสิ้นจากการเข้าร่วมประชุมราชการที่ ห้างเซียร์รังสิต ตนได้เดินทางกลับ สภ.โคกขาม โดยใช้เส้นทางขึ้นด่วนโทลล์เวย์มุ่งหน้าสะพานแขวง เพื่อจะไปลงที่ถนนพระราม 2 ระหว่างทางได้ถูกรถบัสคันดังกล่าวเฉี่ยวชน จากนั้นรถบัสก็มีสภาพส่ายไปมา ผู้บังคับบัญชาที่นั่งมาด้วยจึงให้ตนขับติดตามเพื่อเรียกรถบัสให้หยุด แต่โชเฟอร์รถบัสกลับเร่งความเร่งเครื่องยนต์พยายามหลบหนี
ด.ต.ณัฐชนน กล่าวอีกว่า รถบัสคันดังกล่าวได้ขับชนรถคันอื่นๆ มาตลอดทางถึง 4 ครั้ง ก่อนจะเกิดอุบัติเหตุดังกล่าวส่งผลให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย และเสียชีวิต 1 ราย ส่วนตัวโชว์เฟอร์รถบัสซึ่งมีอาการคล้ายคนเมายาเสพติด ถูกเจ้าหน้าที่จับกุมตัวไปสอบปากคำเพื่อดำเนินคดีที่ สน.มักกะสัน
สำหรับโชเฟอร์รถบัสรายนี้ทราบชื่อ คือ นายศรศักดิ์ วรรณศิริ อายุ 26 ปี อยู่บ้านเลขที่ 59/7 ถนนเทวาภิบาล ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ร้อยเอ็ด แต่นายศรศักดิ์ได้ให้การอ้างว่า ไม่ได้เป็นคนขับรถคันก่อเหตุเพียงแต่นั่งรถแท็กซี่ตามมาดูเหตุการณ์ และขึ้นไปช่วยตำรวจจับคนขับรถตัวจริง แต่ขณะชุลมุนถูกกระแทกเข่าจนมึนงง และถูกจับไว้ดังกล่าว แต่ผู้เสียหายทุกคนต่างยืนยันว่าเป็นผู้ก่อเหตุจริง เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวไปสอบสวนที่โรงพัก
ต่อมาเมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจติดต่อไปทางเจ้าของรถ ซึ่งแจ้งว่า นายศรศักดิ์เพิ่งเข้ามทำงานเป็นพนักงานขับรถของบริษัทชลอการท่องเที่ยว ได้เพียง 2 วันเท่านั้น โดยมีกำหนดไปรับผู้โดยสารที่ จ.ลพบุรี โดยใช้เส้นทางผ่าน จ.สระบุรี แต่ไม่ทราบว่าหลงเข้ามา กทม.ได้อย่างไร เบื้องต้นเจ้าหน้าที่นำตัวผู้ต้องหาส่ง รพ.ตำรวจ เพื่อตรวจหาสารเสพติดและปริมาณแอลกอฮอล์ ก่อนทำการแจ้งข้อหาขับรถประมาททำให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต และหากตรวจพบว่ามีสารเสพติดในร่างการก็จะแจ้งข้อหาเพิ่มเติมต่อไป