ตร.สั่งนครบาลจับมือ กกต.เช็กเอาผิดกาบัตรนอกหน่วยเขตบางซื่อ

ตร.เผย การขนส่งหีบบัตรเลือกตั้งล่วงหน้าเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ได้สั่งการให้นครบาลร่วมกับ กกต.ตรวจข้อเท็จจริงมีการกาบัตรเลือกตั้งนอกหน่วยในเขตบางซื่อ จริงหรือไม่ ชี้ รับรายงานเบื้องต้นเป็นเพียงผู้มาใช้สิทธิมีน้ำหนักเกินกว่า 100 กก.ต้องลงคะแนนในทางลับ ชี้ ป้ายหาเสียงถูกทำลาย 2,135 ป้าย มั่นใจไม่เกิดความผิดพลาดการนับคะแนน พร้อมตั้งรางวัลให้โรงพักที่รายงานผลรวดเร็ว พร้อมสั่งลงโทษ สภ.ที่ละเลยปล่อยมีหีบบัตรของครั้งก่อนโผล่ทำให้เข้าใจผิด

วันนี้ (27 มิ.ย.) เมื่อเวลา 11.30 น.ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ ที่ปรึกษา (สบ10) ฝ่ายความมั่นคง ในฐานะผู้กำกับดูแลศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อยการเลือกตั้ง (ศรส.ลต.ตร.) พร้อม ด้วย พล.ต.ต.ประวุฒิ ถาวรศิริ โฆษก ตร.แถลงภายหลังการประชุม ศรส.ลต.ตร.เพื่อดูแลรักษาความสงบเรียบร้อย ภายหลังการปิดหีบเลือกตั้งล่วงหน้าเมื่อวานนี้ (26 มิ.ย.) เสร็จสิ้นลง ว่า การเลือกตั้งล่วงหน้าพบว่า มีปัญหาสำคัญที่ยังคงต้องแก้ไข คือ เรื่องการอำนวยความสะดวกด้านการจราจร ซึ่งจะนำมาแก้ไขในวันเลือกตั้ง 3 ก.ค.ที่จะถึงนี้ นอกจากนั้น ได้ประสานไปยัง กกต.โดยร้องขอให้พิจารณาเรื่องการเพิ่มหน่วยเลือกตั้งให้เหมาะสมกับจำนวนประชาชน ซึ่งขณะนี้มีหน่วยเลือกตั้ง 90,777 หน่วย มีประชาชนผู้มาใช้สิทธิ์ 45 ล้านคน จึงอยากให้ทุกคนมาร่วมใช้สิทธิ์กันให้มากที่สุด

พล.ต.อ.พงศพัศ กล่าวอีกว่า ส่วนการขนส่งบัตรลงคะแนนเลือกตั้งล่วงหน้ามายังไปรษณีย์กลางเขตหลักสี่ เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ซึ่งเหลือเพียงรถขนส่งบัตรจากไปรษณีย์ภูมิภาคอำเภอหาดใหญ่ ที่มีบัตรเลือกตั้งล่วงหน้าจากหน่วยเลือกตั้งจาก 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ใน 4 อำเภอ จ.สงขลา และจ.สตูล ที่ยังไม่ส่งเข้ามา ซึ่งคาดว่าจะมาถึงในช่วงบ่าย

สำหรับการคัดแยกบัตรเลือกตั้งนั้นแล้วเสร็จไปกว่าครึ่ง คาดว่า จะสามารถคัดแยกเสร็จสิ้นเป็นที่เรียบร้อยภายในเวลา 08.30 น.ของวันที่ 30 มิ.ย.และส่งกลับไปยัง กกต.จังหวัดต่างๆ ทั้ง 375 เขต ภายในวันที่ 2 ก.ค.เพื่อไปนับคะแนนพร้อมกันในวันที่ 3 ก.ค.

พล.ต.อ.พงศพัศ กล่าวว่า ส่วนกรณีที่มีภาพปรากฎออกมา ว่า มีการกาบัตรลงคะแนนนอกหน่วยเลือกตั้ง จากการตรวจสอบเบื้องต้นเป็นเพียงผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งเขตบางซื่อ ที่มีน้ำหนักเกินกว่า 100 กก.ซึ่งได้มีการสั่งการให้ บช.น.ตรวจสอบร่วมกับ กกต.เขตดังกล่าว ว่า เกิดจากสาเหตุใด โดยตามกฎระเบียบนั้น กกต.ได้ออกกฎระเบียบข้อบังคับสำหรับผู้พิการ เช่น เป็นผู้พิการทางสายตา หรือผู้ที่ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ สามารถให้ญาติพามายังหน่วยเลือกตั้ง แต่ต้องลงคะแนนด้วยตัวเอง โดยทางลับ หรือเลือกตั้งในคูหาโดยลำพัง ผู้อื่นไม่สามารถไปมุงดู และชี้นำให้ลงคะแนนเลือกจากผู้อื่นได้ ซึ่งต้องรอผลสรุปจาก บช.น.ชี้แจงว่า เป็นการกระทำผิดกฎหมายเลือกตั้งหรือไม่ หากพบว่าเป็นการกระทำผิดจริงก็จะดำเนินคดีตามกฎหมาย

ที่ปรึกษา สบ10 กล่าวอีกว่า ขณะนี้พื้นที่เฝ้าระวังทั้งหมด 77 จังหวัด แบ่งออกเป็นพื้นที่สีขาว 37 จังหวัด พื้นที่สีเหลือง 16 จังหวัด พื้นที่สีส้ม 19 จังหวัด พื้นที่สีแดง 4 จังหวัด คือ กทม.เขต 28 บางบอน จ.ลพบุรี เขต 2 ในพื้นที่ อ.ท่าวุ้ง และบ้านหมี่ จ.ยะลา เขต 2 ในพื้นที่ อ.เมืองยะลา รามัญ ยะหา และ กาบัง จ.พระนครศรีอยุธยา เขต 2 อ.พระนครศรีอยุธยา พื้นที่สีแดงเข้ม 1 จังหวัด ซึ่งยังคงเป็น จ.สมุทรปราการ คือ เขต 6 อ.พระประแดง และเขต 7 อ.พระสมุทรเจดีย์ ซึ่งจะมีการติดตามความรุนแรงจนกระทั่งถึงวันที่ 7 ก.ค.เพราะยังไม่มีการปิด ศรส.ลต.ตร.

ด้าน พล.ต.ต.ประวุฒิ กล่าวว่า ตั้งแต่จัดตั้ง ศรส.ลต.ตร.จนถึงบัดนี้พบการกระทำผิดการเลือกตั้งทั้งหมด 35 คดี แบ่งเป็นพื้นที่การดูแล บช.น 15 คดี, บช.ภ.1 จำนวน 2 คดี, บช.ภ.2 จำนวน 2 คดี, บช.ภ.3 จำนวน 2 คดี, บช.ภ.4 จำนวน 2 คดี, บช.ภ.6 จำนวน 2 คดี, บช.ภ.7 จำนวน 1 คดี, บช.ภ.8 จำนวน 4 คดี, บช.ภ.9 จำนวน 5 คดี ซึ่งส่วนใหญ่เป็นการกระทำผิดกฎหมายตามมาตรา 53 ให้ร้ายผู้สมัคร ส.ส.และพรรคการเมือง โดยมีจำนวนป้ายที่ถูกทำลายทั้งสิ้น 2,135 ป้าย เป็นคดี 68 คดี มีผู้สมัครส.ส.ที่ขอการรักษาความปลอดภัยทั้งหมด 425 คน ใช้กำลังตำรวจเพียง 910 นาย

พล.ต.ต.ประวุฒิ กล่าวว่า หลังจากการเลือกตั้งจะมีการระดมกวาดล้างอาชญากรรมต่อไปอีก 1 เดือน และได้กำชับให้ทุกหน่วยเตรียมการในวันที่ 3 ก.ค.ในเรื่องของการรวบรวมผลการนับคะแนนดิบ โดยจะใช้ระบบอิเลกทรอนิกส์ในการรับส่งข้อมูลปลายทาง โดยจะใช้สำนักงานของศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (สรอ.) หรือ เนคเทค เดิมเป็นจุดศูนย์กลาง แต่ละโรงพักจะรับผิดชอบหน่วยเลือกตั้งประมาณ 80-100 หน่วย ต่อ 1 สถานีตำรวจ โดยเจ้าหน้าที่ประจำหน่วยจะส่งผลการนับคะแนน ด้วยวิธีการต่างๆ เช่น วิทยุสื่อสารเข้ามา โทรศัพท์ หรือขับรถจักรยานยนต์เข้ามายังสถานีตำรวจ ซึ่งข้อมูลการนับคะแนนจาก 1,460 สถานี ทั่วประเทศ จะส่งมาทางเซิร์ฟเวอร์ผ่านระบบอินเทอร์เน็ต เพื่ออัปเดตข้อมูลการนับคะแนนอย่างไม่เป็นทางการ มายังสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และส่งไปยังสถานที่โทรทัศน์ต่างๆ ทำการถ่ายทอดสด ซึ่งยืนยันว่า ไม่เกิดความผิดพลาด หรือล่าช้าอย่างแน่นอน ซึ่งจะมีการตั้งรางวัลสำหรับสถานีตำรวจที่รายงานผลเข้ามาได้รวดเร็วที่สุดด้วย ส่วนการทำเอ็กซิตโพล หรือเป็นการจัดทำโพลขึ้น เพื่อแสดงผลคะแนนเสียงช่วงการเลือกตั้งนั้น จะสามารถรวบรวมข้อมูลทั้งหมดภายในเวลา 24.00 น.ของวันที่ 3 ก.ค.

สำหรับเรื่องหีบผีที่โผล่ขึ้นมาในห้องขัง สภ.ลพบุรี ที่ทางพรรคเพื่อไทย ได้ร้องเรียนเข้ามา พล.ต.อ.พงศพัศ กล่าวว่า จากการตรวจสอบเป็นเพียงหีบบัตรเก่าที่ตกค้างจากการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) เมื่อครั้งก่อน ซึ่งได้นับคะแนนเสร็จไปเรียบร้อยแล้ว และก่อนการเลือกตั้งทาง ผบ.ตร.ได้มีการสั่งการให้ทุกสถานีตำรวจเก็บคืน กกต.ไปหมดแล้ว แต่ไม่ทราบว่าตกค้างได้อย่างไร ซึ่งเบื้องต้นได้สั่งการให้รีบนำบัตรเลือกตั้งดังกล่าวไปเก็บไว้ที่เหมาะสม ซึ่งครั้งนี้ถือเป็นการละเลยจะสั่งให้มีการลงโทษต่อไป