ศาลอนุญาตเลื่อนสืบพยานโจทก์คดี “จตุพร-ณัฐวุฒิ-จักรภพ” ดักฟังโทรศัพท์เลขาฯ ศาลฎีกา ไปปีหน้า เหตุอัยการไม่พร้อม ส่วนจำเลยต้องเตรียมเลือกตั้ง
วันนี้ (7 มิ.ย.) เมื่อเวลา 09.30 น. ที่ห้องพิจารณาคดี 808 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลออกนั่งบัลลังก์สืบพยานโจทก์ในคดีหมายเลขดำ อ.177/2551 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 10 เป็นโจทก์ฟ้องนายจักรภพ เพ็ญแข อดีตแกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ และนายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำ นปช. เป็นจำเลยที่ 1- 3 ในความผิดฐานร่วมกันกระทำด้วยประการใดๆ เพื่อดักรับไว้ใช้ประโยชน์ หรือเปิดเผยข้อความข่าวสาร หรือข้อมูลอื่นใดที่มีการสื่อสารทางโทรคมนาคมโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย ตาม พ.ร.บ.การประกอบกิจการโทรคมนาคม พ.ศ. 2544 มาตรา 74 กรณีเมื่อวันที่ 22 มิ.ย.50 จำเลยทั้งสามร่วมกันนำถ้อยคำการสนทนาทางโทรศัพท์ของ พล.ต.ต.พีรพันธุ์ เปรมภูติ อดีตเลขาธิการสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน นายวิรัช ชินวินิจกุล เลขานุการศาลฎีกา (ขณะนั้น) และนายไพโรจน์ นวานุช ผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลอุทธรณ์ประจำสำนักประธานศาลฎีกาไปใช้ปราศรัยให้ผู้ร่วมชุมนุมฟังโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย
โดยนัดนี้ นายจตุพร และนายณัฐวุฒิ เดินทางไปศาล ส่วนนายจักรภพนั้นศาลมีคำสั่งจำหน่ายคดีออกจากสารบบความไปแล้วเนื่องจากหลบหนี โดยอัยการโจทก์แถลงว่าพยานที่นัดหมายไว้ไม่สามารถเดินทางมาเบิกความได้ ขณะที่ทนายความจำเลยแถลงว่าขณะนี้อยู่ในช่วงเลือกตั้งซึ่งจำเลยลงสมัคร ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ (ปาร์ตี้ลิสต์) พรรคเพื่อไทย เพื่อความสะดวกในการสืบพยานจึงขอเลื่อนนัดสืบออกไป ศาลพิจารณาแล้วอนุญาตให้เลื่อนสืบพยานโจทก์ออกไปเป็นวันที่ 24 เม.ย.55 เวลา 09.00 น.
วันนี้ (7 มิ.ย.) เมื่อเวลา 09.30 น. ที่ห้องพิจารณาคดี 808 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลออกนั่งบัลลังก์สืบพยานโจทก์ในคดีหมายเลขดำ อ.177/2551 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 10 เป็นโจทก์ฟ้องนายจักรภพ เพ็ญแข อดีตแกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ และนายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำ นปช. เป็นจำเลยที่ 1- 3 ในความผิดฐานร่วมกันกระทำด้วยประการใดๆ เพื่อดักรับไว้ใช้ประโยชน์ หรือเปิดเผยข้อความข่าวสาร หรือข้อมูลอื่นใดที่มีการสื่อสารทางโทรคมนาคมโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย ตาม พ.ร.บ.การประกอบกิจการโทรคมนาคม พ.ศ. 2544 มาตรา 74 กรณีเมื่อวันที่ 22 มิ.ย.50 จำเลยทั้งสามร่วมกันนำถ้อยคำการสนทนาทางโทรศัพท์ของ พล.ต.ต.พีรพันธุ์ เปรมภูติ อดีตเลขาธิการสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน นายวิรัช ชินวินิจกุล เลขานุการศาลฎีกา (ขณะนั้น) และนายไพโรจน์ นวานุช ผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลอุทธรณ์ประจำสำนักประธานศาลฎีกาไปใช้ปราศรัยให้ผู้ร่วมชุมนุมฟังโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย
โดยนัดนี้ นายจตุพร และนายณัฐวุฒิ เดินทางไปศาล ส่วนนายจักรภพนั้นศาลมีคำสั่งจำหน่ายคดีออกจากสารบบความไปแล้วเนื่องจากหลบหนี โดยอัยการโจทก์แถลงว่าพยานที่นัดหมายไว้ไม่สามารถเดินทางมาเบิกความได้ ขณะที่ทนายความจำเลยแถลงว่าขณะนี้อยู่ในช่วงเลือกตั้งซึ่งจำเลยลงสมัคร ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ (ปาร์ตี้ลิสต์) พรรคเพื่อไทย เพื่อความสะดวกในการสืบพยานจึงขอเลื่อนนัดสืบออกไป ศาลพิจารณาแล้วอนุญาตให้เลื่อนสืบพยานโจทก์ออกไปเป็นวันที่ 24 เม.ย.55 เวลา 09.00 น.
