จับยาแก้หวัดผสมสารตั้งต้น ผลิตยาเสพติด 5 ล้านเม็ด ลักลอบนำเข้าซุกมาในตู้คอนเทนเทอร์เตรียมขนถ่ายส่งให้ลูกค้าย่านลำลูกกา หากนำไปผลิตเป็นยาไอซ์จะได้ 225 กิโลกรัม ถ้านำไปผลิตเป็นยาบ้าจะได้มากถึง 15-30 ล้านเม็ด
วันนี้ (3 มิ.ย.) เมื่อเวลา 14.30 น.ที่สำนักงาน ป.ป.ส. พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา ผู้ช่วย ผบ.ตร.ในฐานะ ผอ.ฉก.ปส.315 นายประสงค์ พูนธเนศ อธิบดีกรมศุลกากร และ นายเพิ่มพงษ์ เชาวลิต รองเลขาธิการ ป.ป.ส.แถลงข่าวการจับกุม และอายัดยาแก้หวัดผสมซูโดอีเฟดรีน ยี่ห้อ ALPHA จำนวน 5 ล้านเม็ด ที่ลักลอบนำเข้ามาจากประเทศเกาหลีใต้ ภายใต้แผนยุทธการ 315
พล.ต.อ.วิเชียร เปิดเผยว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากทางสำนักงาน ป.ป.ส.ได้รับการประสานจากหน่วยงานปราบปรามยาเสพติดระหว่างประเทศ ว่า จะมีการลักลอบนำยาแก้หวัดที่มีส่วนผสมของซูโดอีเฟดรีนใส่ตู้คอนเทนเนอร์หมายเลข ทีอาร์แอลยู 8787076 เข้ามาในประเทศไทยผ่านทางท่าเรือแหลมฉบัง เพื่อจัดส่งไปให้กลุ่มผู้ผลิตยาบ้าและยาไอซ์ในพื้นที่ภาคเหนือ จึงประสานกำลังชุดปฏิบัติการตามยุทธการ 315 ทั้งพลเรือน ตำรวจ ทหาร เจ้าหน้าที่ศุลกากร และเจ้าหน้าที่ อย.ลงพื้นที่ เพื่อติดตามจับกุม
พล.ต.อ.วิเชียร กล่าวต่อว่า ต่อมาเจ้าหน้าที่พบตู้คอนเทนเนอร์หมายเลขดังกล่าว ถูกส่งจากท่าเรือเมืองปูซาน ประเทศเกาหลีใต้ ด้วยเรือ AMUR RIVER ในวันที่ 26 พ.ค.และเดินทางมาถึงท่าเรือแหลมฉบัง จ.ชลบุรี ในวันที่ 31 พ.ค.ที่ผ่านมา โดยมีบริษัท เดลต้า แอตแลนติกส์ จำกัด เป็นผู้นำเข้ามา จากนั้นได้มีรถบรรทุก หมายเลขทะเบียน 84-1726 ชลบุรี เข้าไปขนตู้คอนเทนเนอร์จากท่าเรือ เจ้าหน้าที่จึงสะกดรอยตามไป จนกระทั่งพบว่าตู้คอนเทนเนอร์ถูกนำเข้าไปที่ลานจอดรถของอู่ซ่อมรถจงสถิตย์ และมีคนงานช่วยกันยกกล่องกระดาษออกจากตู้คอนเทนเนอร์ไปใส่ในรถบรรทุก 6 ล้อหมายเลขทะเบียน 81-9249 กทม.เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวขอเข้าตรวจค้นทันที
พล.ต.อ.วิเชียร กล่าวต่อว่า จากการตรวจค้นภายในกล่องกระดาษดังกล่าว เจ้าหน้าที่พบยาแก้หวัดผสมซูโดอีเฟดรีนยี่ห้อ ALPHA บรรจุอยู่ในถุงฟอยล์อยู่ในกล่องกระดาษจำนวน 20 กล่อง รวมจำนวนทั้งสิ้น 5 ล้านเม็ด จึงยึดไว้เป็นของกลาง พร้อมทั้งนำตัวโชเฟอร์รถคอนเทนเนอร์และบรรทุกทั้ง 2 คนมาสอบสวน โดยเบื้องต้นคนขับรถตู้คอนเทนเนอร์ให้การว่า มีคนว่างจ้างให้มารับตู้คอนเทนเนอร์ดังกล่าวจากท่าเรือแหลมฉบัง แล้วให้ขับมาจอดไว้ที่อู่ซ่อมรถดังกล่าว จากนั้นก็จะมีรถบรรทุกมารับกล่องกระดาษต่อ ส่วนคนขับรถบรรทุก 6 ล้อ ให้การว่า มีคนจ้างให้มารับกล่องกระดาษจำนวน 20 กล่อง ที่อู่ซ่อมรถ แล้วให้นำไปส่งให้ลูกค้าที่ย่านลำลูกกา โดยจะได้ค่าจ้าง 2,500 บาท
ด้าน นายเพิ่มพงษ์ กล่าวว่า สำหรับยาแก้หวัดที่สามรถยึดได้ในครั้งนี้ สามารถนำไปใช้เป็นสารตั้งต้นในการผลิตยาเสพติด โดยหากนำไปผลิตเป็นยาไอซ์ ก็จะได้ถึง 225 กิโลกรัม หากนำไปผลิตเป็นยาบ้าก็จะได้มากถึง 15-30 ล้านเม็ด ขึ้นอยู่กับปริมาณที่ใช้ผสมในยาบ้า ทั้งนี้ตามปกติแล้วยาแก้หวัดนั้น จะมีการนำเข้าเป็นส่วนผสมมาผลิตโดย อย.จะมีบ้างที่มีการนำเข้าในรูปแบบเม็ด แต่ก็ต้องนำเข้าอย่างถูกวิธี
นายเพิ่มพงษ์ กล่าวด้วยว่า นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจสอบสถานภาพทางธุรกิจของบริษัท เดลต้า แอตแลนติกส์ แล้วก็พบว่า เคยประกอบธุรกิจขนมปัง และปัจจุบันได้เลิกกิจการไปแล้ว แต่ยังมีพฤติการณ์ในการรับส่งสินค้าอยู่ ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังสืบสวนขยายผลเพื่อติดตามจับกุมผู้ลักลอบนำเข้ายาแก้หวัดนี้มาดำเนินคดีต่อไป
วันนี้ (3 มิ.ย.) เมื่อเวลา 14.30 น.ที่สำนักงาน ป.ป.ส. พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา ผู้ช่วย ผบ.ตร.ในฐานะ ผอ.ฉก.ปส.315 นายประสงค์ พูนธเนศ อธิบดีกรมศุลกากร และ นายเพิ่มพงษ์ เชาวลิต รองเลขาธิการ ป.ป.ส.แถลงข่าวการจับกุม และอายัดยาแก้หวัดผสมซูโดอีเฟดรีน ยี่ห้อ ALPHA จำนวน 5 ล้านเม็ด ที่ลักลอบนำเข้ามาจากประเทศเกาหลีใต้ ภายใต้แผนยุทธการ 315
พล.ต.อ.วิเชียร เปิดเผยว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากทางสำนักงาน ป.ป.ส.ได้รับการประสานจากหน่วยงานปราบปรามยาเสพติดระหว่างประเทศ ว่า จะมีการลักลอบนำยาแก้หวัดที่มีส่วนผสมของซูโดอีเฟดรีนใส่ตู้คอนเทนเนอร์หมายเลข ทีอาร์แอลยู 8787076 เข้ามาในประเทศไทยผ่านทางท่าเรือแหลมฉบัง เพื่อจัดส่งไปให้กลุ่มผู้ผลิตยาบ้าและยาไอซ์ในพื้นที่ภาคเหนือ จึงประสานกำลังชุดปฏิบัติการตามยุทธการ 315 ทั้งพลเรือน ตำรวจ ทหาร เจ้าหน้าที่ศุลกากร และเจ้าหน้าที่ อย.ลงพื้นที่ เพื่อติดตามจับกุม
พล.ต.อ.วิเชียร กล่าวต่อว่า ต่อมาเจ้าหน้าที่พบตู้คอนเทนเนอร์หมายเลขดังกล่าว ถูกส่งจากท่าเรือเมืองปูซาน ประเทศเกาหลีใต้ ด้วยเรือ AMUR RIVER ในวันที่ 26 พ.ค.และเดินทางมาถึงท่าเรือแหลมฉบัง จ.ชลบุรี ในวันที่ 31 พ.ค.ที่ผ่านมา โดยมีบริษัท เดลต้า แอตแลนติกส์ จำกัด เป็นผู้นำเข้ามา จากนั้นได้มีรถบรรทุก หมายเลขทะเบียน 84-1726 ชลบุรี เข้าไปขนตู้คอนเทนเนอร์จากท่าเรือ เจ้าหน้าที่จึงสะกดรอยตามไป จนกระทั่งพบว่าตู้คอนเทนเนอร์ถูกนำเข้าไปที่ลานจอดรถของอู่ซ่อมรถจงสถิตย์ และมีคนงานช่วยกันยกกล่องกระดาษออกจากตู้คอนเทนเนอร์ไปใส่ในรถบรรทุก 6 ล้อหมายเลขทะเบียน 81-9249 กทม.เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวขอเข้าตรวจค้นทันที
พล.ต.อ.วิเชียร กล่าวต่อว่า จากการตรวจค้นภายในกล่องกระดาษดังกล่าว เจ้าหน้าที่พบยาแก้หวัดผสมซูโดอีเฟดรีนยี่ห้อ ALPHA บรรจุอยู่ในถุงฟอยล์อยู่ในกล่องกระดาษจำนวน 20 กล่อง รวมจำนวนทั้งสิ้น 5 ล้านเม็ด จึงยึดไว้เป็นของกลาง พร้อมทั้งนำตัวโชเฟอร์รถคอนเทนเนอร์และบรรทุกทั้ง 2 คนมาสอบสวน โดยเบื้องต้นคนขับรถตู้คอนเทนเนอร์ให้การว่า มีคนว่างจ้างให้มารับตู้คอนเทนเนอร์ดังกล่าวจากท่าเรือแหลมฉบัง แล้วให้ขับมาจอดไว้ที่อู่ซ่อมรถดังกล่าว จากนั้นก็จะมีรถบรรทุกมารับกล่องกระดาษต่อ ส่วนคนขับรถบรรทุก 6 ล้อ ให้การว่า มีคนจ้างให้มารับกล่องกระดาษจำนวน 20 กล่อง ที่อู่ซ่อมรถ แล้วให้นำไปส่งให้ลูกค้าที่ย่านลำลูกกา โดยจะได้ค่าจ้าง 2,500 บาท
ด้าน นายเพิ่มพงษ์ กล่าวว่า สำหรับยาแก้หวัดที่สามรถยึดได้ในครั้งนี้ สามารถนำไปใช้เป็นสารตั้งต้นในการผลิตยาเสพติด โดยหากนำไปผลิตเป็นยาไอซ์ ก็จะได้ถึง 225 กิโลกรัม หากนำไปผลิตเป็นยาบ้าก็จะได้มากถึง 15-30 ล้านเม็ด ขึ้นอยู่กับปริมาณที่ใช้ผสมในยาบ้า ทั้งนี้ตามปกติแล้วยาแก้หวัดนั้น จะมีการนำเข้าเป็นส่วนผสมมาผลิตโดย อย.จะมีบ้างที่มีการนำเข้าในรูปแบบเม็ด แต่ก็ต้องนำเข้าอย่างถูกวิธี
นายเพิ่มพงษ์ กล่าวด้วยว่า นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจสอบสถานภาพทางธุรกิจของบริษัท เดลต้า แอตแลนติกส์ แล้วก็พบว่า เคยประกอบธุรกิจขนมปัง และปัจจุบันได้เลิกกิจการไปแล้ว แต่ยังมีพฤติการณ์ในการรับส่งสินค้าอยู่ ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังสืบสวนขยายผลเพื่อติดตามจับกุมผู้ลักลอบนำเข้ายาแก้หวัดนี้มาดำเนินคดีต่อไป
