xs
xsm
sm
md
lg

จับไม้พะยูงซุกตู้คอนเทนเนอร์เตรียมส่งขายนอก 10 ล้าน!

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

กรมศุลกากรโชว์จับไม้พะยูงเตรียมส่งออกขายต่างประเทศ โดยซุกไว้ในตู้คอนเทนเนอร์ แต่ดันแจ้งสินค้าขาออกเป็นหินแกะสลักประดิษฐ์สำหรับโชว์ในสวน มูลค่ากว่า 10 ล้าน ขณะที่ผู้ส่งออกอ้างถูกสวมชื่อในใบขนสินค้า พร้อมจับกุมเรือประมงดัดแปลง 2 ลำลักลอบขนน้ำมันเถื่อน มูลค่า 1 ล้านบาท

วันนี้ (25 เม.ย.) เมื่อเวลา 11.30 น. ที่ท่าน้ำส่วนบริการศุลกากรที่ 2 สำนักงานศุลกากรท่าเรือกรุงเทพ นายประสงค์ พูนธเนศ อธิบดีกรมศุลกากร แถลงการจับกุมน้ำมันดิบ และไม้ท่อนกลมและท่อนเหลี่ยมขนาดใหญ่ที่ลักลอบหลีกหนีด่านศุลกากร รวมมูลค่าประมาณ 11 ล้านบาท

นายประสงค์กล่าวว่า ไม้ท่อนกลมและท่อนเหลี่ยมขนาดใหญ่ที่จับกุมได้ในครั้งนี้สืบเนื่องมาจากเจ้าหน้าที่ศูนย์ป้องกันและปราบปรามศุลกากรภาคตะวันออก ฝ่ายสืบสวนปราบปรามที่ 2 ส่วนสืบสวนปราบปราม 1 สำนักสืบสวนและปราบปราม ร่วมกับศุลกากรท่าเรือแหลมฉบังได้ร่วมกันตรวจสอบใบขนสินค้าขาออกรวมจำนวน 4 ตู้คอนเทนเนอร์ โดยมีชื่อผู้ส่งออกคือนายไพโรจน์ จินดาลักษณ์ โดยสำแดงสินค้าเป็นหินแกะสลักประดิษฐ์สำหรับโชว์ในสวน กระถางดอกไม้ กระเป๋าสะพาย และสินค้าอื่นๆ แต่ผลการตรวจสินค้าที่ออกจริงพบเป็นท่อนไม้ขนาดใหญ่จำนวนมากรวมมูลค่าประมาณ 10 ล้านบาท จากการสอบสวนนายไพโรจน์ ให้การอ้างว่าถูกสวมชื่อลงในใบขนสินค้าดังกล่าวซึ่งจะได้ทำการสอบสวนขยายผลจับกุมต่อไป

“เชื่อว่าไม้พะยูงเหล่านี้ถูกตัดอยู่ในประเทศไทย และขณะนี้ถือว่าไม้พะยูงที่มีอยู่ในการดูแลของกรมศุลกากรมีมากกว่า 630 ตู้คอนเทนเนอร์ ซึ่งต้องรอให้สิ้นสุดการดำเนินการ คาดว่าจะใช้เวลานานถึง 10 ปี ส่งผลต่อค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษาเนื่องจากต้องจัดคนมาเฝ้าดูแล เพราะไม้พะยูงมีราคาแพง ซึ่งจะต้องประสานไปยังกรมป่าไม้เพื่อส่งมอบไม้พะยูงต่อไป” นายประสงค์กล่าว

นายประสงค์กล่าวอีกว่า ส่วนน้ำมันดิบที่จับกุมได้นั้น เจ้าหน้าที่ส่วนสืบสวนปราบปราม2 สำนักสืบสวนและปราบปราม ได้นำกำลังพร้อมเรือตรวจการณ์ศุลกากร 1001 ปฏิบัติการตรวจค้นจับกุม เรือประมงดัดแปลงจำนวน 2 ลำที่แล่นอยู่บริเวณอ่าวไทยห่างจากชายฝั่ง ต.นาเกลือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ชื่อเรือโชคจงเจริญชัย ตรวจสอบทะเบียนเรือปรากฏชื่อ โชคสรรชัย ที่มีนายสมเกียรติ เยื้องศิริกุล เป็นผู้ควบคุมเรือพร้อมกับลูกเรืออีก 2 คน และเรือประมงชื่อ โชคจงเจริญชัย ตรวจสอบทะเบียนเรือปรากฏชื่อ ส.จงเจริญชัย มีขนาดเล็กกว่าลำแรก มีนายปัญญา นาคจู เป็นผู้ควบคุมเรือ และลูกเรืออีก 2 คน จากผลการตรวจค้นพบน้ำมันดิบสีดำ(ก๊าซธรรมชาติเหลว) ลำแรก จำนวน 30,000 ลิตร และ 20,000 ลิตร รวมมูลค่าประมาณ 1 ล้านบาท

นายประสงค์กล่าวว่า ลูกเรือทั้ง 2 ลำให้การรับสารภาพว่าได้ออกไปรับน้ำมันหลังเกาะสีชังจากเรือลำหนึ่งซึ่งจำชื่อไม่ได้ เพื่อจะนำไปส่งขึ้นบกที่สะพานปลานาเกลือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ซึ่งพบว่าน้ำมันดิบที่มีขนมาขายครั้งนี้เป็นน้ำมันดิบที่ลักลอบนำมาจากแหล่งขุดเจาะก๊าซธรรมชาติไทย-มาเลเซีย ซึ่งสามารถนำมากลั่นเป็นก๊าซดีเซล น้ำมันเบนซิน หรือน้ำมันเตาที่ใช้ในโรงงานอุตสาหกรรม ซึ่งจะนำไปขายให้กับโรงงานอุตสาหกรรมต่างๆ ใน แถบจ.ชลบุรี จ.ระยองเพื่อใช้เป็นน้ำมันเตา โดยจะขายในราคาลิตรละ 21 บาท โดยราคาที่ขายในตลาดประมาณ 30 กว่าบาท ซึ่งถูกกว่า จึงมีการลักลอบนำมาขายจำนวนมาก โดยสถานการณ์การลักลอบขนน้ำมันเถื่อนยังคงมีอยู่แต่ยังไม่รุนแรง เนื่องจากรัฐบาลมีการตรึงราคาน้ำมันดีเซล

โดยทั้งหมดมีความผิดฐานสำแดงเท็จ เลี่ยงอากรข้อห้ามข้อจำกัด ลักลอบและนำพาของที่ไม่ได้เสียภาษีหรือของต้องห้ามที่ยังไม่ผ่านด่านศุลกากรเข้ามาในราชอาณาจักร และผิดพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ. 2484 และได้ตรวจยึดของกลาง เพื่อนำส่งศุลกากร เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
กรมศุลกากรจับกุมไม้พะยูงลักลอบเตรียมขนส่งขายต่างประเทศ มูลค่ากว่า 10 ล้านบาท
เจ้าหน้าที่กรมศุลฯ จับกุมเรือประมงดัดแปลง ลักลอบขนน้ำมันเถื่อน ค่ากว่า 1 ล้านบาท
กำลังโหลดความคิดเห็น