2 ตำรวจนราธิวาส พร้อมทนายความเข้าร้องทุกข์กล่าวโทษเลขาธิการ ศอ.บต.ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ อ้าง “ร.ต.ท.” ทั้งสองนายมีพฤติกรรมไม่เหมาะสมแล้วสั่งย้ายออกนอกพื้นที่ ขณะที่ผู้เสียหาย เชื่อ เหตุถูกย้าย เพราะไปขัดขวางธุรกิจมืด ทั้งการจับกุมยาเสพติด และลอบค้าสัตว์ป่า ลั่นจะเดินหน้าขอความเป็นธรรมต่อผู้บังคับบัญชา และจะยื่นอุทธรณ์ต่อ ศอ.บต.หากยังไม่เป็นผลจะฟ้องต่อศาลปกครอง
วันนี้ (30 พ.ค.) เมื่อเวลา 12.00 น.ที่ กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับการทุจริตและประพฤติมิชอบในวงราชการ (บก.ปปป.) ร.ต.ท.สามารถ หิมวงศ์ อายุ 40 ปี ร.ต.ท.พิจิตร หยูหนู อายุ 30 ปี รองสว.กก.สส.บก.ภ.จ.นราธิวาส พร้อมทนายความ เข้าพบ พ.ต.ท.ฤกษ์ภูสิษฐ์ เนียมเล็ก พนักงานสอบสวน (สบ2) กก.6 บก.ปปป.เพื่อร้องทุกข์กล่าวโทษ นายภาณุ อุทัยรัตน์ เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ในความผิดฐานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 หลังจากที่ปรากฏชื่อผู้เสียหายทั้งสองคนในคำสั่ง ศอ.บต.ที่ 99/2554 ลงวันที่ 23 พฤษภาคม 2554 เรื่อง สั่งให้เจ้าหน้าที่รัฐที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมออกจากพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ อาศัยอำนาจตาม มาตรา 12 พ.ร.บ.การบริหารราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ.2553 โดยที่ผู้เสียหายทั้งสองเห็นว่าเป็นคำสั่งที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย
ร.ต.ท.พิจิตร กล่าวว่า สาเหตุที่ถูกสั่งย้ายออกนอกพื้นที่ในครั้งนี้ น่าจะมาจากการจับกุมยาเสพติด และการลักลอบค้าสัตว์ป่าในพื้นที่ จ.นราธิวาส ตั้งแต่ปี 2552 และ 2553 ซึ่งไปขัดขวางผลประโยชน์ของพวกธุรกิจผิดกฎหมาย ซึ่งในการปฏิบัติหน้าที่ดังกล่าวถูกต้องตามกฎหมาย แต่กลับถูกร้องเรียน ซึ่งเรื่องดังกล่าวสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบแล้วแต่ยังไม่มีข้อสรุป เนื่องจากอยู่ระหว่างการสอบสวนเพิ่มเติม แต่ ศอ.บต.กลับใช้อำนาจตาม พ.ร.บ.การบริหารราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ.2553 ออกคำสั่งโดยอ้างเหตุจากเรื่องร้องเรียนดังกล่าวซึ่งเกิดขึ้นก่อนกฎหมายประกาศใช้
“มีแต่ตำรวจอยากจะย้ายออกนอกพื้นที่ แต่พวกผมที่ขออยู่ทำงานกลับถูกคำสั่งเช่นนี้จึงรู้สึกบั่นทอนกำลังใจมาก นอกจากนี้ยังทำให้พวกผมเสื่อมเสียชื่อเสียง จึงอยากร้องทุกข์ขอความเป็นธรรม” ร.ต.ท.พิจิตร กล่าว
ร.ต.ท.พิจิตร กล่าวด้วยว่า หลังจากนี้ เข้าร้องขอความเป็นธรรมจากผู้บังคับบัญชา สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และจะยื่นอุทธรณ์ต่อ ศอ.บต.หากยังไม่เป็นผลก็จะดำเนินฟ้องต่อศาลปกครองต่อไป
ทั้งนี้ เบื้องต้นพนักงานสอบสวนได้รับเรื่องและสอบปากคำผู้ร้องไว้ เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายก่อนส่งเรื่องให้ผู้บังคับบัญชาพิจารณาอีกครั้ง
อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นอกจากผู้เสียหายทั้งสองคนแล้ว ยังมีเจ้าหน้าที่ตำรวจอีก 7 นายที่มีชื่ออยู่ในคำสั่งให้ย้ายออกนอกพื้นที่ ได้แก่ ร.ต.ท.รัฐการ รัตนฐากูร รองสว.กก.สส.บก.ภ.จ.นราธิวาส จ.ส.ต.ธีระศักดิ์ แก้วสังข์ไชย จ.ส.ต.เธียรศิลป์ สี่ทอง จ.ส.ต.พรชัย สงวารี ส.ต.อ.สมคิด รักเชื้อ ส.ต.ท.ปรินทร์ภูสันฑ์ จันทร์แก้ว และ ส.ต.ต.พงษ์ศักดิ์ จารุบุตร แต่ทั้งหมดนี้ยังไม่ได้ดำเนินการทางกฎหมายแต่อย่างใด
วันนี้ (30 พ.ค.) เมื่อเวลา 12.00 น.ที่ กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับการทุจริตและประพฤติมิชอบในวงราชการ (บก.ปปป.) ร.ต.ท.สามารถ หิมวงศ์ อายุ 40 ปี ร.ต.ท.พิจิตร หยูหนู อายุ 30 ปี รองสว.กก.สส.บก.ภ.จ.นราธิวาส พร้อมทนายความ เข้าพบ พ.ต.ท.ฤกษ์ภูสิษฐ์ เนียมเล็ก พนักงานสอบสวน (สบ2) กก.6 บก.ปปป.เพื่อร้องทุกข์กล่าวโทษ นายภาณุ อุทัยรัตน์ เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ในความผิดฐานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 หลังจากที่ปรากฏชื่อผู้เสียหายทั้งสองคนในคำสั่ง ศอ.บต.ที่ 99/2554 ลงวันที่ 23 พฤษภาคม 2554 เรื่อง สั่งให้เจ้าหน้าที่รัฐที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมออกจากพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ อาศัยอำนาจตาม มาตรา 12 พ.ร.บ.การบริหารราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ.2553 โดยที่ผู้เสียหายทั้งสองเห็นว่าเป็นคำสั่งที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย
ร.ต.ท.พิจิตร กล่าวว่า สาเหตุที่ถูกสั่งย้ายออกนอกพื้นที่ในครั้งนี้ น่าจะมาจากการจับกุมยาเสพติด และการลักลอบค้าสัตว์ป่าในพื้นที่ จ.นราธิวาส ตั้งแต่ปี 2552 และ 2553 ซึ่งไปขัดขวางผลประโยชน์ของพวกธุรกิจผิดกฎหมาย ซึ่งในการปฏิบัติหน้าที่ดังกล่าวถูกต้องตามกฎหมาย แต่กลับถูกร้องเรียน ซึ่งเรื่องดังกล่าวสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบแล้วแต่ยังไม่มีข้อสรุป เนื่องจากอยู่ระหว่างการสอบสวนเพิ่มเติม แต่ ศอ.บต.กลับใช้อำนาจตาม พ.ร.บ.การบริหารราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ.2553 ออกคำสั่งโดยอ้างเหตุจากเรื่องร้องเรียนดังกล่าวซึ่งเกิดขึ้นก่อนกฎหมายประกาศใช้
“มีแต่ตำรวจอยากจะย้ายออกนอกพื้นที่ แต่พวกผมที่ขออยู่ทำงานกลับถูกคำสั่งเช่นนี้จึงรู้สึกบั่นทอนกำลังใจมาก นอกจากนี้ยังทำให้พวกผมเสื่อมเสียชื่อเสียง จึงอยากร้องทุกข์ขอความเป็นธรรม” ร.ต.ท.พิจิตร กล่าว
ร.ต.ท.พิจิตร กล่าวด้วยว่า หลังจากนี้ เข้าร้องขอความเป็นธรรมจากผู้บังคับบัญชา สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และจะยื่นอุทธรณ์ต่อ ศอ.บต.หากยังไม่เป็นผลก็จะดำเนินฟ้องต่อศาลปกครองต่อไป
ทั้งนี้ เบื้องต้นพนักงานสอบสวนได้รับเรื่องและสอบปากคำผู้ร้องไว้ เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายก่อนส่งเรื่องให้ผู้บังคับบัญชาพิจารณาอีกครั้ง
อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นอกจากผู้เสียหายทั้งสองคนแล้ว ยังมีเจ้าหน้าที่ตำรวจอีก 7 นายที่มีชื่ออยู่ในคำสั่งให้ย้ายออกนอกพื้นที่ ได้แก่ ร.ต.ท.รัฐการ รัตนฐากูร รองสว.กก.สส.บก.ภ.จ.นราธิวาส จ.ส.ต.ธีระศักดิ์ แก้วสังข์ไชย จ.ส.ต.เธียรศิลป์ สี่ทอง จ.ส.ต.พรชัย สงวารี ส.ต.อ.สมคิด รักเชื้อ ส.ต.ท.ปรินทร์ภูสันฑ์ จันทร์แก้ว และ ส.ต.ต.พงษ์ศักดิ์ จารุบุตร แต่ทั้งหมดนี้ยังไม่ได้ดำเนินการทางกฎหมายแต่อย่างใด