ตร.กองปราบใจดี ตามหมาน้อยคืนเจ้านาย

สุดยอด ตร.ไทยทำได้ ตาม “เยลลี่” สุนัขพันธุ์เทอร์เรีย อายุ 12 ปี ป่วยโรคมะเร็งคืนครอบครัวหนุ่ม บสท.หลังหมาน้อยตกใจเสียงฟ้าร้องวิ่งออกจากบ้านย่านบางซื่อ เจ้าของต้องเข้าแจ้งความ ตร.กองปราบฯ ให้ช่วยออกตามหา ก่อนลงพื้นที่สืบจนทราบมีแรงงานพม่าเก็บไปเลี้ยง แต่สุนัขกับวิ่งหายไปอีก สุดท้ายมีพลเมืองดีนำไปเลี้ยงแล้วโทร.แจ้งให้ ตร.ให้ไปรับนำกลับมาคืนเจ้าของ

วันนี้ (27 พ.ค.) ที่กองปราบปราม เมื่อเวลา 14.00 น. พ.ต.ท.อัครวุฒิ์ หลิมรัตน์ รอง ผกก.ปพ.บก.ป. ร.ต.อ.ศักดิ์ชัย ไกรวีระเดชาชัย ร.ต.ท.ชาตรี รุ่งดำรงค์ รอง สว.กก.ปพ.บก.ป. ส.ต.ท.วีรวัฒน์ กิจจา ส.ต.ท.นรินทร์ เฟืองศรี ผบ.หมู่ กก.ปพ.บก.ป. ได้นำสุนัขพันธุ์เทอร์เรีย สีขาว เพศเมีย อายุ 12 ปี ชื่อ “เยลลี่” มาคืน นายกุญชร สมิทธ์เมธา อายุ 40 ปี พนักงานบรรษัทบริหารสินทรัพย์ไทย อยู่บ้านเลขที่ 10/10 ซ.ธรรมสโรจน์ ถ.พิบูลสงคราม แขวงและเขตบางซื่อ กทม. ภายหลังสุนัขดังกล่าวได้วิ่งออกจากบ้านพัก นายกุญชร ตั้งแต่วันที่ 24 พฤษภาคมที่ผ่านมา

ร.ต.อ.ศักดิ์ชัยกล่าวว่า ก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งจาก นายกุญชร ว่าให้ช่วยติดตาม สุนัขพันธุ์เทอร์เรีย สีขาว เพศเมีย ชื่อเยลลี่ และสุนัขพันธุ์เทอร์เรีย เพศผู้ชื่อ โชค อายุ 5 ปี ซึ่งเป็นลูก ของเยลลี่ หายออกไปจากบ้าน เนื่องจากเจ้าของรักสุนัขทั้งสองตัวเป็นอย่างมาก ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้ลงพื้นที่ชุมชนบางซื่อ กระทั่งพบเบาะแสว่ามีคนพบสุนัขทั้งสองตัวภายในซอยวงศ์สว่าง 21 แขวงและเขตบางซื่อ กทม. โดย นายหม่อง วิน อายุ 29 ปี สัญชาติพม่าเก็บได้และนำไปเลี้ยงดูที่บ้านเช่าภายในซอยดังกล่าว เมื่อไปถึงกลับพบว่าสุนัขทั้งสองตัวได้หายออกไปจากบ้านนายหม่อง วินแล้ว

ร.ต.อ.ศักดิ์ชัยกล่าวต่อว่า จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่าพบสุนัขชื่อโชค อยู่บริเวณซอยวงศ์สว่าง 21 จึงประสานนายกุญชรให้มารับ จากนั้นเมื่อวันที่ 27 เวลา 08.00 น.ได้รับแจ้งว่าพบเจ้าเยลลี่แล้ว โดยพลเมืองดีนำไปเลี้ยงที่หมู่บ้านกฤษดานคร ถนนบรมราชชนนี แขวงศาลาธรรมสพน์ เขตทวีวัฒนา จึงรีบไปรับ และนำกลับมาคืนให้นายกุญชร

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อ นายกุญชรมาถึงห้องพักเจ้าหน้าที่ตำรวจภายในโรงจอดรถสายตรวจ กก.ปพ.บก.ป. เจ้าเยลลี่ก็กระโดดลงจากโซฟาวิ่งกระดิกหางเข้ามาคลอเคลียและใช้ขาตะกายหน้าแข้งนายกุญชรอยู่พักใหญ่ก่อนที่นายกุญชรจะบรรจงอุ้มตัวเข้ามาอยู่ในอ้อมกอดอีกครั้ง

นายกุญชรกล่าวว่า เจ้าเยลลี่ได้วิ่งออกไปพร้อมกับเจ้าโชค ลูกชายวัย 5 ปี เมื่อค่ำวันที่ 24 พฤษภาคม ซึ่งช่วงนั้นมีฝนตกหนักและฟ้าร้องเสียงดังจนทำให้ทั้งคู่เกิดอาการตกใจจึงวิ่งเตลิดมุดสังกะสีข้างบ้านไปโผล่บ้านพักญาติที่อยู่ติดกัน ก่อนจะพากันมุดรั้วบ้านออกไปทางปากซอยห่างจากบ้าน 300 เมตรแล้วหายตัวไป เมื่อตนและภรรยากลับจากทำงานก็ไม่พบสุนัขแม่ลูกจึงช่วยกันออกตามหาแต่ก็ไม่มีวี่แวว จึงนำข้อมูลและภาพถ่ายสุนัขทั้งสองตัวนี้ไปโพสไว้ในเว็บไซต์พันทิป และขอความช่วยเหลือให้เจ้าหน้าที่ติดตามอีกแรงหนึ่ง

นายกุญชรกล่าวต่อว่า เมื่อทราบว่าสุนัขทั้งสองตัวหายไปนั้น ตนและภรรยาเสียใจมากเพราะผูกพันมานานเนื่องจากรับเลี้ยงเจ้าเยลลี่มาตั้งแต่ยังเล็กๆ ต่อมาได้หาพ่อพันธุ์มาผสมจนได้เจ้าโชคมาอีกตัว ปกติสุนัขทั้งสองตัวก็ไม่ค่อยได้ออกไปวิ่งเล่นนอกบ้าน แต่ถ้าออกไปก็จะวิ่งเข้าไปในหมู่บ้าน ไม่เคยวิ่งออกไปทางถนนใหญ่ แต่คืนที่หายตัวไปนั้นฝนตกหนัก ฟ้าร้องมันคงกลัวจึงพากันวิ่งเตลิดไป

“หลังสุนัขหายตัวไปที่บ้านก็เสียใจร้องไห้ นอนไม่หลับเพราะเป็นห่วงโดยเฉพาะเจ้าเยลลี่เป็นโรคมะเร็งต่อมน้ำเหลือง เพิ่งเข้ารับการผ่าตัดรักษาเมื่อเดือนก่อนเนื่องจากมะเร็งลามไปที่เต้านมต้องตัดออกไป 2 เต้าจาก 4 เต้าจึงเป็นห่วงมันมากเพราะไม่คิดว่าจะสามารถติดตามตัวกลับมาได้แต่เมื่อทราบข่าวจากเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าสามารถตามตัวเจ้าเยลลี่มาได้แล้วก็ดีใจกันทั้งบ้าน“นายกุญชร กล่าว

ด้าน นายหม่อง วิน กล่าวผ่านล่ามว่า ตนทำงานเป็นช่างเชื่อมเหล็กอยู่บริษัทแห่งหนึ่ง วันเกิดเหตุขณะเลิกงานก็ได้ไปนั่งรอรถเมล์อยู่บริเวณถนนพิบูลสงคราม แขวงและเขตบางซื่อ ปรากฏว่าพบสุนัขทั้งสองตัววิ่งเล่นอยู่บริเวณดังกล่าว อีกทั้งขณะนั้นกำลังมืดค่ำและมีฝนตกหนัก เห็นหมาน่ารักและเชื่องดี ด้วยความสงสารจึงนำขึ้นรถแท็กซี่มาเลี้ยงที่ห้องเช่า ภายในซอยวงศ์สว่าง 21 แขวงและเขตบางซื่อ โดยคืนแรกได้ซื้อไก่และนมให้สุนัขทั้งสองตัวกิน แต่พอกลางดึกปรากฏว่าหมาได้ถ่ายในห้องส่งกลิ่นเหม็นไปทั่ว จึงเปิดประตูเพื่อจะให้ไปถ่ายข้างนอก และจะกวาดอุจจาระ ขณะนั้นเองหมาตัวผู้ได้วิ่งหนีไป ส่วนตัวเมียได้หนีไปในภายหลัง

“ที่ประเทศพม่าบ้านผมไม่มีหมาสายพันธุ์นี้ เห็นว่ามันสวย น่ารัก และฝนกำลังตก กลัวว่ามันจะหนาวและไม่มีอาหารกิน จึงอุ้มขึ้นรถแท็กซี่เพื่อนำมาเลี้ยง โดยที่ไม่ได้ตั้งใจจะขโมยแต่อย่างใด” นายหม่องวินกล่าว