ยกฟ้อง! หลาน “กลม บางกรวย” คดีฆ่าโจ๋หน้าสแกนผับ รัชดาฯ

ศาลอาญายกฟ้องหลาน “กลม บางกรวย” คดียิงโจ๋ดับหน้าสแกนผับ ย่านรัชดาฯ ชี้พยานหลักฐานไม่ชัดเจนที่จะยืนยันได้ว่าทำผิด ประกอบกับมีภาพจำเลยอยู่ในร้านเน็ตช่วงเกิดเหตุ ยากต่อการตัดต่อ และจำเลยปฏิเสธมาตลอด จึงยกประโยชน์แห่งความสงสัยให้จำเลย

วันนี้ (27 พ.ค.) เมื่อเวลา 10.00 น. ที่ห้องพิจารณา 910 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลอ่านคำพิพากษาคดีหมายเลขดำที่ อ.4319/2552 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 3 เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายณัฐพร หรือ โอ๋ อุ่นแพทย์ อายุ 28 ปี หลานชายของนายณรงค์ อุ่นแพทย์ หรือ กลม บางกรวย ผู้กว้างขวางย่านนนทบุรี เป็นจำเลยในความผิดฐานฆ่า, พยายามฆ่าผู้อื่น และ พ.ร.บ.อาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิงและสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ. 2490 และประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288, 371, 376

โดยคดีนี้อัยการยื่นฟ้อง 24 พ.ย.52 ระบุพฤติการณ์สรุปว่า เมื่อวันที่ 17 พ.ค.52 เวลากลางคืน จำเลยได้ไปเที่ยวที่ร้านสแกนผับ รัชดาซอย 6 แขวงดินแดง เขตดินแดง กทม. และก่อเรื่องทะเลาะวิวาท โดยมีอาวุธปืนไม่ทราบชนิดไม่มีเครื่องหมายทะเบียนประจำอาวุธปืนของเจ้าพนักงานประทับไว้ จำนวน 1 กระบอก และเครื่องกระสุนปืนไม่ทราบชนิด จำนวนไม่น้อยกว่า 4 นัดไว้ในความครอบครองของจำเลยโดยไม่ได้รับใบอนุญาต และพกอาวุธปืนติดตัวไปในที่สาธารณะโดยไม่มีเหตุอันสมควร

อย่างไรก็ตาม ต่อมาได้เกิดการทะเลาะวิวาท และจำเลยใช้อาวุธปืนยิงใส่นายชอบ เปรมโยธิน อายุ 27 ปี (ขณะเกิดเหตุ) หลายนัดที่บริเวณหน้าอกทะลุผ่านหัวใจ และตับ จนได้รับบาดเจ็บและถึงแก่ความตาย, นายโกวิท คำนาค อายุ 23 ปี (ขณะเกิดเหตุ) ได้รับบาดเจ็บ ส่วนนายชอบเสียชีวิต เกิดเหตุบริเวณหน้าอาคารฟอร์จูน รัชดาซอย 6 จึงขออนุมัติหมายจับ และติดตามจับกุมได้ที่ร้านเกมโอแอนด์ป็อป อินเทอร์เน็ต ซ.คอนโดสมชาย ถ.บางกรวย ต.บางกรวย อ.บางกรวย จ.นนทบุรี ขณะที่นายโกวิท ผู้เสียหายอีกคน จำเลยได้ยิงประทุษร้ายจนได้รับบาดเจ็บอันเป็นอันตรายแก่กาย ซึ่งการกระทำที่จำเลยใช้อาวุธปืนยิงดังกล่าว เป็นการยิงปืนซึ่งใช้ดินระเบิดโดยใช่เหตุในถนนรัชดาภิเษก แขวงและเขตดินแดง ที่เป็นทางในเมือง หมู่บ้าน ที่ชุมนุมชน โดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย เหตุเกิดที่แขวงและเขตดินแดง กรุงเทพมหานคร จึงขอให้ศาลพิพากษาลงโทษจำเลยตามกฎหมาย ขณะที่จำเลยให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา โดยอ้างถิ่นที่อยู่ขณะเกิดเหตุ

ศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานโจทก์-จำเลยนำสืบหักล้างกันแล้วเห็นว่า แม้โจทก์จะมีผู้เสียหายและพยานบอกเล่าอื่นๆ แต่เมื่อพิจารณารูปร่าง ลักษณะตำหนิของจำเลยก็ไม่ได้มีลักษณะเฉพาะที่แตกต่างจากลักษณะบุคคลทั่วไป จึงยังไม่แน่ว่าพยานโจทก์จะสามารถจดจำใบหน้าคนร้ายได้แน่ชัด ส่วนที่ฝ่ายโจทก์ระบุว่าหลังเกิดเหตุทราบว่าเป็นโอ๋ หลานชายของกลม บางกรวย นั้นเป็นข้อมูลที่เจ้าหน้าที่รับทราบในชั้นสืบสวนตามที่มีพยานบอกเล่าเท่านั้น แต่ไม่ได้ยืนยันว่าจะเป็นตัวจำเลยจริง ขณะที่มีการระบุรูปพรรณคนร้ายผมยาว หยักโสกก็ไม่ตรงกับลักษณะของภาพจำเลยในทะเบียนราษฎร์ ขณะที่จำเลยให้การปฏิเสธโดยตลอดและอ้างถิ่นที่อยู่ว่าไม่ได้อยู่ในที่เกิดเหตุ แต่อยู่ที่ร้านให้บริการอินเทอร์เน็ตแห่งหนึ่ง ซึ่งมีภาพวงจรบันทึกภาพเคลื่อนไหวโดยตลอด จึงยากต่อการตัดต่อ เมื่อพยานหลักฐานโจทก์ยังรับฟังไม่ได้ว่าจำเลยจะเป็นคนร้ายยิงผู้เสียหาย จึงยกประโยชน์แห่งความสงสัยให้จำเลยตามประมวลวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 227 พิพากษายกฟ้อง และยกคำขอที่ให้ชดใช้ค่าสินไหมผู้เสียหายด้วย